ณ งาน MWC 2019 ที่เพิ่งจัดขึ้น MediaTek ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทซัพพลายเออร์ส่วนประกอบ 5G ชั้นนำ และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายราย ในการพัฒนาโซลูชัน 5G ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและสมบูรณ์แบบที่สุดโดยบริษัทที่จับมือกันกับ MediaTek ในครั้งนี้ ได้แก่ Oppo, Vivo รวมถึงบริษัทซัพพลายเออร์ อาทิ Skyworks, Qorvo และ Murata การร่วมมือเป็นการร่วมกำหนดมาตรฐาน front end ของส่วนประกอบ 5G ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อรูปร่างของสมาร์ทโฟนที่เน้นความบางเบาและดีไซน์สวยงาม
TL Lee ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจการสื่อสารไร้สายของ MediaTek กล่าวว่า “พันธกิจของเราคือการทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงฟีเจอร์สุดล้ำบนมือถือได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ดังนั้นเราจึงร่วมกับผู้ผลิตมือถือและซัพพลายเออร์อย่างใกล้ชิดในการพัฒนารูปแบบสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ด้วยดีไซน์ใหม่ และให้การสนับสนุนในหลายด้านเพื่อเร่งการปล่อยผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดโดยเร็ว”
“ขณะที่ตลาด 5G กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราจึงตั้งใจเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่นี้ด้วยแพลตฟอร์ม Helio M70 และผลิตภัณฑ์ 5G ในอนาคตของ MediaTek”
การร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในครั้งนี้ของ MediaTek ทำให้แบรนด์สมาร์ทโฟนทั่วโลกมีแพลตฟอร์มที่ปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่นและครอบคลุม สำหรับการพัฒนามือถือที่ตอบโจทย์ด้านการออกแบบสำหรับเชื่อมต่อ 5G โดยเฉพาะ
มือถือ 5G ต้องใช้ส่วนประกอบต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งดีไซน์ front end ของคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อรับส่งสัญญาณไร้สายไปยังผู้ให้บริการ รวมถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรีที่ต้องอยู่ได้นานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนประกอบ RFFE มาจากหลายบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านดีไซน์แตกต่างกัน ดังนั้นประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์จึงขึ้นอยู่กับการร่วมงานระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ
MediaTek ทุ่มเทเวลาทำงานกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมในการออกแบบ front end ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั่วโลก และพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมต่อตลาดในแต่ละภูมิภาค
Frank Stewart ผู้จัดการฝ่าย RF Solutions Business ของ Qorvo กล่าวว่า “โครงสร้างของ RF กำลังได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อได้ดีขึ้นในอุปกรณ์มือถือรุ่นต่อไป”
“Qorvo มีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับ MediaTek ในการผลักดัน ecosystem อันแข็งแรงเพื่อรองรับตลาด 5G พร้อมด้วยประสิทธิภาพของ PA, ฟิลเตอร์ และเทคโนโลยีสวิตช์ของเรา รวมถึงโครงสร้างการบริหารที่แข็งแกร่ง เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างแนวทางที่มีประสิทธิภาพและมีความเสี่ยงต่ำต่อการใช้เทคโนโลยี 5G ได้”
บริษัทที่ร่วมมือกันในครั้งนี้มีส่วนช่วยกำหนดมาตรฐานด้านเทคนิคและแบ่งปันข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับคลื่นความถี่วิทยุสำหรับ 5G สำหรับผลิตอุปกรณ์เชื่อมต่อ 5G คุณภาพสูงและการบริการสำหรับทุกคน นอกจากนี้ บริษัทจะสามารถเข้าถึงข้อมูลสำหรับซัพพอร์ตเสปคของ 5G รวมทั้ง worldwide 5G NR bands แบบ non-standalone (NSA) และแบบ standalone (SA0 และ worldwide 4G LTE bands
ความยืดหยุ่นของ RFFE จะช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถออกแบบสมาร์ทโฟน 5G ที่แตกต่างเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายด้านประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายตามข้อกำหนดของแต่ละภูมิภาค
Masa Hashimoto ผู้จัดการฝ่าย RF Module division ของ Murata เสริมว่า “บริการ 5G มีความเร็วแรงกว่า 100 เท่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีปัจจุบันที่ใช้อยู่ Murata จึงหวังว่าการร่วมงานกับ MediaTek ในครั้งนี้จะสามารถผลักดันการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมของเทคโนโลยี 5G ในอนาคต”