Vivo เปิดตัวนวัตกรรม 5G สุดล้ำพร้อมใช้งาน, Vivo AR Glass, และ Super FlashCharge 120 วัตต์ ในงาน Mobile World Congress Shanghai 2019 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน Vivo ประกาศกลยุทธ์ในการส่งมอบประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเต็มเปี่ยม ในยุค 5G
Vivo ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่งาน Mobile World Congress (MWC) 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน ซึ่งการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ใหม่ของทาง Vivo ที่มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเต็มเปี่ยมในยุค 5G โดยทาง Vivo ได้นำเครื่องมือ อุปกรณ์ และแอปพลิเคชั่นอันชาญฉลาด ที่สามารถใช้งาน 5G ได้ นำไปโชว์ภายในงานอย่างมากมาย
สมาร์ทโฟน 5G ตัวแรกของ Vivo จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 หลังจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Vivo NEX 5G รุ่นก่อนวางจำหน่าย*** ไปแล้วก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าทาง Vivo ไม่ได้หยุดนิ่ง และได้ก้าวกระโดดไปข้างหน้าในแง่ของการพัฒนาสมาร์ทโฟน 5G โดยในงาน MWC Shanghai 2019 ทาง Vivo ได้นำสมาร์ทโฟน 5G ที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นำไปโชว์ภายในงานด้วย
หากพิจารณาจากเน็ตเวิร์ค 5G และสมาร์ทโฟน 5G นั้น ทาง Vivo ยังได้นำเอาแอปพลิเคชั่น 5G มากมาย อย่าง 5G Cloud Game, 5G Screen Mirroring, 5G EasyShare, และแอปพลิเคชั่นล้ำ ๆ ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตของผู้ใช้งานอีกมาก นำไปโชว์ภายในงานอีกด้วย
ตัวอย่างความล้ำสมัยเหนือใครในแง่ของแอปพลิเคชั่น 5G นั้น ทาง Vivo ได้นำ 5G Cloud Game ไปอวดโฉมโชว์ความล้ำในงาน MWC ครั้งนี้ด้วย โดยแอปพลิเคชั่นที่ว่า เป็นแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้ทำงานบนสมาร์ทโฟนแต่ทำงานบนคลาวด์ผ่านเน็ตเวิร์ค 5G แบบสบาย ๆ ด้วยความเร็วแบบ ultra-high speed ประสบการณ์แบบเรียลไทม์ ของเน็ตเวิร์ค 5G โดยการทำงานของแอปพลิเคชั่นผ่านระบบคลาวด์จะทำให้การดูวิดีโอและฟังเพลง เล่นไปได้แบบเรียลไทม์
ซึ่งจุดเด่นและข้อดีของการย้ายแอปพลิเคชั่นไปดำเนินการบนคลาวด์นั้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการรับชมภาพความละเอียดสูงและประสบการณ์การเล่นเกมส์แบบเรียลไทม์ โดยรูปแบบการทำงานของแอปพลิเคชั่นนี้ ยังถูกนำไปใช้กับแอปพลิเคชั่น 5G อื่น ๆ อย่าง 5G Screen Mirroring และ 5G EasyShare.
โดยต่อไปนี้ ผู้ใช้งานจะไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมอีกต่อไป เพราะความช่วยเหลือของการให้บริการที่เปิดใช้งาน 5G