สิ้นสุดการรอคอยแล้วสำหรับงานแถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Apple ที่จัดว่ามีข่าวหลุดออกมามากที่สุดเลยก็ว่าได้  และดูเหมือนเช้านี้เราจะมีข่าวดีมาบอกต่อกันอีกแล้ว

 iPhone 11 ซีรีส์  โดดเด่นด้วยจอภาพระดับโปรอันน่าทึ่ง, ชิพ A13 Bionic และระบบกล้องระดับโปรสุดล้ำ ส่วน iPhone 11 Pro Max นั้นยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone อีกด้วย

>>> Appleเปิดตัว iPhone 11 (ไอโฟน 11) สมาร์ทโฟนกล้องคู่ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,900 บาท

iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max มีให้เลือก 4 สีสันสุดโดดเด่น รวมถึงสีใหม่อย่างสีเขียวมิดไนท์กรีนที่สวยงาม และจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 กันยายนนี้ และวางจำหน่ายในร้านตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป  

ทั้งนี้ล่าสุดทาง Apple ประเทศไทยได้เคาะราคา iPhone 11 ซีรีส์ อย่าง iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ในประเทศไทยออกมาให้เราได้อัปเดตกันแล้ว
ทั้งนี้ ราคามาแล้ว iPhone 11 เครื่องศูนย์ไทย เริ่มต้น 24,900 บาทเท่านั้น!

iPhone 11

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11
  • จอแสดงผลแบบ Liquid Retina Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล (326 ppi) อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9
  • ขนาด: 150.9 x 75.7 x 8.3 มิลลิเมตร
  • หนัก: 194 กรัม
  • ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM): 4GB
  • หน่วยความจำภายใน (ROM): 64GB, 128G หรือ 256GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับ TOF 3D camera
  • กล้องดิจิทัลด้านหลัง 2 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 และไฟแฟลช สามารถซูม Optical ได้ 2 เท่า และซูม Digital ได้ 5 เท่า
  • รองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night Mode)
  • รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
  • ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
  • Bluetooth 5.0
  • แบตเตอรี่: Apple ระบุแค่ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone XR ราว 1 ชั่วโมง
  • ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ: iOS 13
  • ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่นที่ระดับ IP68
  • มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีม่วง Purple, สีขาว White, สีเขียว Green, สีเหลือง Yellow, สีดำ Black, และ สีแดง (PRODUCT) Red
  • ราคา: 699 ดอลลาร์สหรัฐ 

iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11 Pro
  • หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ Super Retina XDR ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 1125 x 2436 พิกเซล อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9
  • ขนาด: 144 x 71.4 x 8.1 มิลลิเมตร
  • หนัก: 188 กรัม
  • ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM): ไม่ระบุ
  • หน่วยความจำภายใน (ROM): 64 GB, 256GB หรือ 512GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง Triple Camera  กล้องตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องตัวที่สามเป็น Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.4 ไฟแฟลช
  • โหมด Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน
  • รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
  • ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
  • แบตเตอรี่ความจุ Apple ออกมาบอกแค่เพียงว่า iPhone 11 Pro อยู่ได้นานกว่า iPhone Xs 4 ชั่วโมง
  • ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13
  • ระบบเสียงรองรับ HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos
  • ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP68
  • มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Space Gray, Silver, Gold, Midnight Green
  • ราคาเริ่มต้นที่: 999 ดอลลาร์สหรัฐ 
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11 Pro Max
  • หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ OLED ขนาด 6.5นิ้ว ความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซลอัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9 พร้อมรองรับมาตรฐานการแสดงผลแบบ HDR10
  • ขนาด: 158 x 77.8 x 8.1 มิลลิเมตร
  • หนัก: 226 กรัม
  • ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM) ไม่ระบุ
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) : 64 GB, 256GB หรือ 512GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง Triple Camera  กล้องตัวตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องตัวที่สามเป็น Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา, รูรับแสงกว้าง f/2.4 และไฟแฟลช
  • โหมด Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน
  • รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
  • ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
  • แบตเตอรี่ความจุ Apple ออกมาบอกแค่เพียงว่า iPhone 11 Pro อยู่ได้นานกว่า iPhone Xs 4 ชั่วโมง
  • ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13
  • ระบบเสียงรองรับ HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos
  • ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP68
  • มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Space Gray, Silver, Gold, Midnight Green
  • ราคาเริ่มต้นที่: 1099 ดอลลาร์สหรัฐ
สรุปราคา iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max พร้อมกำหนดวางจำหน่าย

iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max เปิดให้ Preorder ให้กับประเทศในกลุ่มแรกในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2019 และวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2019 ซึ่งยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายในไทยในตอนนี้

ซึ่งราคาของ  iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max  ประกาศขายในเมืองไทยคือ
  • iPhone 11: ราคาเริ่มต้น 24,900 บาท ถูกกว่า iPhone XR ตอนเปิดตัวที่ 29,900 บาท
  • iPhone 11 Pro: ราคาเริ่มต้น 35,900 บาท ถูกกว่า iPhone XS ตอนเปิดตัวที่ 39,900 บาท
  • iPhone 11 Pro Max: ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท ถูกกว่า iPhone XS Max ตอนเปิดตัวที่ 43,900 บาท

โดยทั้ง 3 รุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในกลุ่มประเทศแรกวันที่ 20 กันยายนนี้ ซึ่งในข้อมูลก็ยังไม่ได้ระบุว่าประเทศไทยจะเป็นช่วงวันไหน

ที่มา : Apple

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ตัวอย่างภาพจาก iPhone 11 Pro และ iPhone Pro Max ที่ถ่ายด้วย Night Mode
Sonos เบรกดีลใหญ่! ชะลอเปิดตัว 2 ไอเท็มเด็ด เพื่อแก้เกมแอปฯ
“OPPO” เปิดตัวเทคโนโลยี 125W Flash charge รุ่นใหม่เพียบ

Leave Your Reply

*