วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว Apple Watch Series 5 ซึ่งมาพร้อมกับจอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลาที่ไม่มีวันหลับ Apple Watch Series 5 มาพร้อมจอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลา เข็มทิศในตัว และการโทรฉุกเฉินทั่วโลก

วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว Apple Watch Series 5 ซึ่งมาพร้อมกับจอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลาที่ไม่มีวันหลับ เพื่อให้ผู้ใช้ดูเวลาและข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมาหรือแตะหน้าจอ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งใหม่ๆ ทั้งเข็มทิศในตัวไปจนถึงระดับความสูงปัจจุบัน ที่จะช่วยนำทางได้ดียิ่งขึ้นตลอดวัน

Apple เผยโฉม Apple Watch Series 5

ในขณะที่การโทรฉุกเฉินทั่วโลก1ก็ช่วยให้ผู้ใช้โทรหาบริการฉุกเฉินจาก Apple Watch ของพวกเขาได้โดยตรงในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก แม้ว่าจะ ไม่มี iPhone อยู่ใกล้ๆ Apple Watch Series 5 มาพร้อมตัวเลือกวัสดุที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม 

ซึ่งมีทั้งอะลูมิเนียม สแตนเลสสตีล เซรามิก และไทเทเนียมแบบใหม่หมด ยิ่งเมื่อนำมารวมกับ watchOS 6 ด้วยแล้ว ผู้ใช้ก็จะสามารถควบคุมสุขภาพและการออกกำลังกายของตนได้อย่างเต็มที่ด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ อาทิ การติดตามรอบเดือน แอพเสียงรบกวน และแนวโน้มกิจกรรม

“เราได้เห็นแล้วว่า Apple Watch มีความหมายต่อชีวิตของลูกค้าเราขนาดไหน และเราดีใจที่จะได้เพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับ Apple Watch Series 5 และ watchOS 6” Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว “การผสมผสานที่เป็นหนึ่งเดียวระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้น ดังนั้น การมีสุขภาพดีและการต่อติดกับผู้คนและข้อมูลที่ผู้ใช้ใส่ใจก็จะง่ายกว่าเดิม” 
 

Apple Watch Series 5 มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมซึ่งเป็นวัสดุใหม่

จอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลา

Apple Watch Series 5 มาพร้อมจอภาพใหม่สุดล้ำที่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นเวลาและข้อมูลสำคัญบนหน้าจอได้ตลอดเวลา หน้าปัดนาฬิกาแต่ละแบบได้รับการปรับแต่งมาอย่างปราณีตเพื่อให้เข้ากับจอภาพใหม่และเพื่อคงระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เอาไว้ หน้าจอฉลาดถึงขั้นที่สามารถลดความสว่างลงเองได้เวลาที่คุณลดข้อมือลง และกลับมาสว่างเต็มที่เมื่อคุณยกข้อมือขึ้นหรือแตะที่หน้าจอ เทคโนโลยีสุดล้ำมากมายได้ถูกนำมาใช้เพื่อรังสรรค์คุณสมบัตินี้ ไม่ว่าจะเป็นจอภาพโพลีซิลิคอนและออกไซด์อุณหภูมิต่ำ หรือ Low-Temperature Polysilicon and Oxide (LTPO) หนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม, ไดร์เวอร์ของจอภาพที่ใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ, วงจรรวมการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ และเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบแบบใหม่ การผสมผสานนวัตกรรมฮาร์ดแวร์เข้ากับการออกแบบซอฟต์แวร์อันเยี่ยมยอดทำให้ Apple Watch Series 5 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 18 ชั่วโมงตลอดวัน

จอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลาช่วยให้การดูเวลาและค่าการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องระหว่างการออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม

การนำทาง

คุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งที่อัพเดทใหม่บน Apple Watch Series 5 ช่วยให้ลูกค้ามีเครื่องมือการนำทางที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมตลอดทั้งวัน เข็มทิศในตัวใหม่และแอพแผนที่ที่อัพเดทใหม่ช่วยให้ผู้ใช้ดูได้ว่ากำลังหันหน้าไปทางไหน ด้วย Apple Watch Series 5 ลูกค้าสามารถใช้แอพเข็มทิศใหม่เพื่อดูทิศทางที่กำลังไป ความชัน ละติดจูด ลองจิจูด และ ระดับความสูงปัจจุบัน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดูทิศทางได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เหลือบมอง ด้วยการเพิ่มกลไกหน้าปัดเข็มทิศบนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งมีมาให้เลือก 3 แบบใหม่

Apple Watch Series 5 มาพร้อมแอพเข็มทิศใหม่

การโทรฉุกเฉินทั่วโลก

ผู้ใช้ที่มี Apple Watch Series 5 รุ่นเซลลูลาร์สามารถโทรติดต่อบริการฉุกเฉินทั่วโลกได้แล้ว ไม่ว่าจะซื้ออุปกรณ์จากที่ไหนหรือเปิดใช้บริการเซลลูลาร์เอาไว้หรือไม่ก็ตาม นับว่าเป็นคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในระหว่างการเดินทางได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การโทรฉุกเฉินทั่วโลกยังทำงานร่วมกับการตรวจจับการล้มได้อีกด้วยเมื่อคุณเปิดใช้งานไว้ นาฬิกาจะโทรหาบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ หาก Apple Watch รู้สึกได้ว่าผู้ใช้ล้มอย่างรุนแรงและไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาประมาณหนึ่งนาที

Apple Watch Series 5 สามารถโทรหาบริการฉุกเฉินทั่วโลกได้แล้ว ระหว่างที่คุณท่องเที่ยวต่างประเทศ

 

watchOS 6

คุณสมบัติด้านสุขภาพและการออกกำลังกายเพิ่มเติมที่มาพร้อมกับ watchOS 6 ได้แก่ แอพการติดตามรอบเดือนใหม่ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถบันทึกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรอบการมีประจำเดือน ตลอดจนดูเวลาการมีประจำเดือนครั้งถัดไปและคาดการณ์ช่วงเวลาไข่ตกได้อย่างสะดวกด้วย Apple Watch3 แอพเสียงรบกวนช่วยให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับระดับเสียงรอบตัวในสภาพแวดล้อมอย่างคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา ซึ่งอาจส่งผลต่อการได้ยิน และแนวโน้มกิจกรรมบน iPhone จะแสดงรูปแบบการทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้ดูความก้าวหน้าของตนเองได้ และ watchOS 6 ยังมาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาแบบไดนามิกใหม่ ได้แก่ หน้าปัดเมริเดียน หน้าปัดโมดูลาร์คอมแพค หน้าปัดสุริยะ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้อย่างง่ายดายเพื่อให้คุณเข้าถึงแอพโปรดได้รวดเร็วขึ้น

หน้าปัดเมริเดียนเป็นหน้าปัดใหม่บน watchOS 6

ตัวเรือนสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิกยังคงมาในสีทอง สีเงิน และสีดำสเปซแบล็ค ส่วนตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเงิน สีทอง และสีเทาสเปซเกรย์ ตอนนี้ผลิตขึ้นจากอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 แบบรีไซเคิล 100% แล้ว ภายในปีนี้ พบกับการกลับมาอีกครั้งของตัวเรือนเซรามิกสีขาวที่ทั้งสวยงามและทนรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม พร้อมกับสาย Sport Loop ใหม่และตัวเลือกสีสันใหม่มากมาย ซึ่งสามารถใช้งานกับ Apple Watch รุ่นใดก็ได้

Apple Watch Nike มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์เสื้อแจ็คเก็ต Windrunner สุดคลาสสิกของ Nike พ่วงมากับสีสันใหม่สำหรับสาย Nike Sport Band และสาย Nike Sport Loop แบบสะท้อนแสง Apple Watch Hermès มาพร้อมสไตล์ที่หลากหลายรวมถึงการอัพเกรดให้กับสายแบบสลับสีที่ได้รับความนิยมเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้ พบกับลาย Della Cavalleria ใหม่ และสายเวอร์ชั่นสีดำล้วนที่มาพร้อมกับหน้าปัดนาฬิกา Hermès สุดพิเศษแบบไล่โทนสี

สายแบบ Sport Loop ใหม่สีมิดไนท์บลู พร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเทาสเปซเกรย์

Apple Watch Nike มาพร้อมสีสันใหม่สำหรับสาย Nike Sport Band และสาย Nike Sport Loop แบบสะท้อนแสง

Apple Watch Hermès เปิดตัวสายแบบสลับสีในลวดลาย Della Cavalleria และสายเวอร์ชั่นสีดำล้วน

Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 41 ประเทศและภูมิภาค และ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS+ Cellular) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 22 ประเทศและภูมิภาค ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในร้าน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน เป็นต้นไป

ราคาและการวางจำหน่าย

– Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS + Cellular) ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท Series 3 รุ่นยอดนิยม (รุ่น GPS) ที่มาพร้อม GPS, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอลและสามารถทนน้ำ ราคาเริ่มต้นถูกลงกว่าเดิมที่ 6,400 บาท และ Series 3 (รุ่น GPS + Cellular) ราคาอยู่ที่ 9,900 บาท

– Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) สามารถสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง apple.com และในแอพ Apple Store โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ในสหรัฐอเมริกา, เปอร์โตริโก, หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 38 ประเทศและภูมิภาค

– Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS + Cellular) สามารถสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง apple.com
และในแอพ Apple Store โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ในสหรัฐอเมริกา, เปอร์โตริโก และอีกกว่า 20 ประเทศและภูมิภาค โปรดไปที่ apple.com/watch/cellular เพื่อดูความพร้อมในการวางจำหน่ายของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์

– Apple Watch Nike สามารถสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง apple.com และในแอพ Apple Store โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม ในสหรัฐอเมริกา, เปอร์โตริโก และอีกกว่า 51 ประเทศและภูมิภาค โปรดไปที่ apple.com/th/apple-watch-nike/ or nike.com/applewatch เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

– Apple Watch Hermès สามารถสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง apple.com และในแอพ Apple Store โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ในสหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 14 ประเทศและภูมิภาค โปรดไปที่ apple.com/th/apple-watch-hermes/ หรือ hermes.com/applewatchhermes เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

– สาย Apple Watch ใหม่ สามารถสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง apple.com และในแอพ Apple Store โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน

– watchOS 6 จะพร้อมให้ใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 3 และใหม่กว่า ในวันที่ 19 กันยายน และสำหรับ Apple Watch Series 1 และ 2 ภายในปีนี้

– ลูกค้าสามารถรับความช่วยเหลือด้านเทคนิคและความคุ้มครองในกรณีเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุนานสูงสุด 2 ปีกับ AppleCare+

ลูกค้าที่ซื้อ Apple Watch จาก Apple จะได้รับบริการตั้งค่าแบบส่วนตัวในร้านหรือทางออนไลน์ฟรี6 เพื่อช่วยตั้งค่าและปรับแต่ง Apple Watch ใหม่ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย ทั้งปฏิทิน การแจ้งเตือน แอพ และอีกมากมาย

Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 41 ประเทศและภูมิภาค และ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS+ Cellular) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 22 ประเทศและภูมิภาค ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในร้าน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน เป็นต้นไป
 
ที่มา : Apple
SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
HONOR เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นเรือธง “HONOR Magic V2”
ดีแทคยืนหยัดได้ต่อเนื่อง สอดรับกับขีดความพึงพอใจด้านการใช้งานของลูกค้าที่สูงขึ้น
5 ผลิตภัณฑ์ที่ Apple ยกเลิกนี้ในปี 2023

Leave Your Reply

*