ในที่สุดตอนนี้ iOS 13 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของ iPhone และ iPod Touch ได้ถูกปล่อยให้โหลดอย่างเป็นทางการด้วยขนาดใหญ่โตอลังการถึง 2.04GB กันเลยทีเดียว
แต่ก่อนอื่นเรามารู้จักว่า iOS 13 นั้นมีอะไรใหม่กันดีกว่าเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นดังนี้
- การปรับปรุงการทำงานของ iOS ต่างๆ ระบบสแกนใบหน้า หรือ Face ID ทำงานเร็วขึ้น 30%
- Apps มีขนาดเล็กลง และสามารถโหลดได้เร็ว แถมยังสามารถ เปิดได้เร็วขึ้นกว่าเวอร์ชั่นเดิม
- Keyboard มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากรองรับกับการทำงาน Darkmode ยังสามารถปรับเปลี่ยนและเมื่อแสดงผลในการทำงานในโหมดต่างๆ เช่น Message จะสามารถกด Tag คนได้ง่ายมากขึ้น การแสดงผลข้อความและเลือกรูปแบบต่างๆ จะทำงานได้ดีมากขึ้น
- Maps ใหม่ที่ไม่ได้ดีแค่ในสหรัฐอเมริกา เพราะมันสามารถเลือกและกดไปได้ทันที หรือฟีเจอร์ Tag and go และฟีเจอร์ Look around เมื่อเลือกสถานที่ ที่มีภาพแสดงผลรอบทิศจะสามารถแสดงผลได้แบบรอบและความละเอียดสูง
- นอกจากนี้ยังสามารถบอกแยก สภาพการจราจร, แสดงผลเวลาในการเดินทาง และอื่นๆ อีกมากมายแถมยังปรากฏแผนที่ในประเทศจีนได้ แถมยังปลอดภัยสุดๆ ด้วยการป้องกันไม่ให้ถูกบอกตำแหน่งด้วย WiFi หรือ Bluetooth เมื่อใช้แผนที่
- Sign in with Apple เป็นการป้องกันความปลอดภัยของคุณซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น หากไม่ต้องการให้ อีเมลของคุณตกไปอยู่ในอันตรายและเพิ่มความสะดวกในบาง Apps และสำหรับ อีเมลไม่ว่าจะเป็นตัวไหนที่คุณเลือกไว้ ก็จะทำให้ Server เห็นเป็นอีเมลแบบง่ายต่อการคาดเดาเพื่อความปลอดภัย และดูจะเป็นการท้าชนกัน Sign in With Google และ Sign in With Facebook เอามากๆ
- HomeKIT Secure เพิ่มเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยมีการเข้ารหัสสำหรับกล้องวงจรปิดที่มีการใช้งานเพื่อความปลอดภัย รองรับกับกล้องและระบบ Router ชั้นนำเช่น LinkSYS เป็นต้น และกล้องแบบ Logitech
- Message เพิ่ม Animoji แบบใหม่เข้าไปและเครื่องมือตกแต่งเพียบและสามารถใช้งานโดยเมื่อเราสร้าง Animoji ก็จะผลิต Memoji ไปใช้กับ Message และ Apps อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
- Camera นอกจากจะปรับภาพได้แล้วยังมาพร้อมกับการแก้ไขภาพที่หลากหลายตั้งแต่โทนสีการชดเชยแสงที่ทำได้โดยไม่ต้องโหลด Apps เพิ่มรวมถึงการกลับหัววิดีโอได้ และนอกจากนี้ Album มีการเปลี่ยนโฉมให้ให้แสดงผลภาพแบบ ปี, เดือน, วัน ภาพที่ดีที่สุด แถมยังแก้ไขวิดีโอกลับมุมได้
- iOS 13 กับ Siri มีการเพิ่มฟีเจอร์เข้าไปกับอุปกรณ์เช่น การให้โต้ตอบข้อมูลผ่าน Siri โดยตรงเมื่อคุณออกกำลังกาย สามารถพูดผ่าน AirPods ได้โดยตรง ไอโฟนเข้าใกล้ iPhone สามารถเปิดเพลงได้
- HomePod สามารถใช้สั่งงานต่างๆ จาก iPhone รวมถึงการเข้าใกล้อุปกรณ์จะสามารถเปิดเพลงได้จาก iPhone ไปเลย และยังสามารถฟังเพลงผ่านวิทยุ FM ได้เป็นร้อยคลื่นในสหรัฐอเมริกา
- arPlay เพิ่มฟีเจอร์ CarPlay Dashboard สามารถรวมหน้าจอให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นและลดการรบกวนสายตา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเพลงและอื่นๆ ที่สามารถจะต้องใช้งานในรถ
- Siri Shortcut มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่ทำให้คุณสามารถโต้ตอบได้โดยใช้รูปแบบของธรรมชาติขึ้นโดยการนำ Neture Text To Speak
- Dark Mode สำหรับ iOS เปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำในที่สุดมาแล้ว
รายชื่อ iPhone ที่สามารถอัปเดต iOS 13 ได้มีดังต่อไปนี้
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone 6s
- iPhone 6s Plus
- iPhone SE
SHARE