ไม่มีเงินสด..ไม่ต้องกังวล: ตอบรับกระแสความนิยมบริการชำระเงินผ่านมือถือ เจาะลึก 4 แนวทางช่วยธุรกิจสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์

จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2565) ยอดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศคาดว่าจะสูงถึง 178.4 ล้านคน ขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 5.5 ล้านล้านบาท

ประเทศไทยได้รับผลดีจากการเติบโตของตลาดส่งออกนักท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอย่างจีนเช่นเดียวกัน  ทั้งนี้ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2562 นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 1.03 ล้านคน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยอดนักท่องเที่ยวจีนแตะระดับ 1 ล้านคน ภายหลังจากที่ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยชะลอตัวลงมานานถึง 6 เดือน  ยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ความบันเทิง ช้อปปิ้ง และการรับประทานอาหารในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 20% โดยยอดใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 54,887.89 ล้านบาท

แน่นอนว่านักท่องเที่ยวจีนจะยังคงมีอิทธิพลต่ออนาคตของธุรกิจท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก  ขณะที่หน่วยงานและกระทรวงการท่องเที่ยวพยายามค้นหาหนทางใหม่ๆ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ องค์กรธุรกิจก็มีบทบาทสำคัญในการขยายการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการ และพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน

อาลีเพย์ ได้ระบุ 4 แนวทางสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างรายได้จากการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน

พลิกโฉมประสบการณ์ค้าปลีกรูปแบบเดิม

ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่รุนแรงมากขึ้น “ธุรกิจรูปแบบเดิม” ไม่ใช่แนวทางที่ใช้ได้ดีอีกต่อไปสำหรับผู้ค้าปลีก  อย่างไรก็ตาม ความท้าทายย่อมมาพร้อมกับโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงจากจีน

ผู้ค้าปลีกจำนวนมากเริ่มสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของนักท่องเที่ยวจีนที่มีฐานะร่ำรวย  นอกจากนั้น ผู้ค้าปลีกบางรายยังพยายามศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนต้องการ รวมถึงวัฒนธรรมประเพณี พฤติกรรม ความคุ้นชิน หรือสิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนอ่อนไหวเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวจีนราว 35% ชอบซื้อสินค้าแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก ขณะที่ 62% ชอบซื้อสินค้าที่หาไม่ได้ในประเทศจีน ตามผลการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company

การรับรู้ถึงแบบแผนการใช้จ่ายดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรธุรกิจและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถปรับแผนการตลาดและโปรโมชั่นได้อย่างเหมาะสม

ปรับใช้ระบบชำระเงินผ่านมือถือ

ชาวจีนจำนวนมากปรับเปลี่ยนสู่สมาร์ทไลฟ์สไตล์ โดยใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือเป็นช่องทางหลักในการชำระเงิน และนักท่องเที่ยวจีนก็เริ่มนำเอาพฤติกรรมดังกล่าวมาใช้ในการเดินทางผ่านอี-วอลเล็ท (e-wallet) ขณะที่เดินทางไปยังประเทศอื่นๆ ในปี 2561 นักท่องเที่ยวจีน 32% ชำระเงินผ่านอุปกรณ์มือถือ เพิ่มจาก 28% ในปีก่อนหน้า และนับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขดังกล่าวแซงหน้าการชำระด้วยเงินสด ซึ่งอยู่ที่ 30% ของการชำระเงินทั้งหมด

ผู้ค้าปลีกที่เริ่มเปิดรับชำระเงินผ่านมือถือพบว่าลูกค้าชาวจีนสนใจที่จะซื้อสินค้า/บริการเพิ่มมากขึ้น หากมีบริการรับชำระเงินผ่านมือถือ ตัวอย่างเช่น นีลเส็น (Nielsen) พบว่านักท่องเที่ยวจีนกว่า 93% เต็มใจที่จะซื้อสินค้า/บริการโดยใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่า และจะเพิ่มยอดใช้จ่ายหากมีบริการรับชำระเงินผ่านมือถือ   ผู้ค้าปลีกทั่วไปเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าสู่ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น โดยมีการปรับใช้ธุรกรรมผ่านมือถือสำหรับการดำเนินงานและการตลาด เช่น ร้านค้าปลีกในตลาดไนท์มาร์เก็ต บริษัทรถเช่า ศูนย์อาหาร และอื่นๆ

นอกจากนั้น ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับยังครอบคลุมส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องของการชำระเงิน โดยปัจจุบัน ในประเทศไทย โรงแรม 17 แห่งในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงแรม 14 แห่งในเครือไมเนอร์กรุ๊ป ร่วมมือกับอาลีเพย์เพื่อนำเสนอบริการ ‘Hotel Pre-authorization’ สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าพักในโรงแรม โดยมีการกันวงเงินสำหรับค่าโรงแรมระหว่างเข้าพักเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน

แอปอาลีเพย์จะกันวงเงินในบัญชีของลูกค้าไว้ชั่วคราวเพื่อยืนยันการเข้าพัก และเมื่อถึงวันเช็คเอาท์ตามกำหนด ก็จะทำการคืนเงินให้กับลูกค้าโดยอัติโนมัติทันที  นักท่องเที่ยวจีนใช้งานอี-วอลเล็ทอย่างแพร่หลายในประเทศจีน ดังนั้นการนำเสนอบริการที่ก้าวล้ำและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพจะสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ และช่วยโรงแรมสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งภายในแอป

เนื่องจากแอปโมบายล์วอลเล็ทของจีนติดตามลูกค้าไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นผู้ค้าปลีกของไทยจึงควรให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ด้านการตลาดที่อยู่ในแอปดังกล่าว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าถึงและดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวจีน

ตัวอย่างเช่น สายการบินต่างๆ กำลังสร้างและใช้บัญชีที่เป็นทางการ (Official Account) บนอาลีเพย์และโมบายล์แอปอื่นๆ เพื่อเพิ่มจำนวนการจองตั๋วเครื่องบินโดยตรงบนเว็บไซต์ของสายการบิน ขณะที่แบรนด์สินค้าแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าก็สร้างโปรไฟล์ที่น่าดึงดูดใจ พร้อมนำเสนอคอลเลคชั่นใหม่ๆ เทรนด์แฟชั่น และข้อเสนอสุดพิเศษ

ในทำนองเดียวกัน โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ก็อาจนำเสนอคู่มือท่องเที่ยว พร้อมทั้งแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจภายแอป ส่วนร้านกาแฟและร้านอาหารก็อาจใส่เมนูภาษาจีนไว้ในโปรไฟล์ของทางร้าน

ยิ่งไปกว่านั้น การโพสต์ข้อมูลผ่านช่องทางดังกล่าวยังสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย และยังมีหลากหลายทางเลือกในการลงโฆษณาภายในแอป ให้สอดคล้องกับงบประมาณที่กำหนด  ที่จริงแล้ว StoreFront ของอาลีเพย์ช่วยให้ร้านค้าออฟไลน์สามารถโปรโมตสินค้าของตนเอง รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษ และแชร์คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง

เกาะกระแสนักท่องเที่ยวกลุ่ม “ผู้สูงวัย”

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ด้วยการตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มผู้สูงวัย (Silver Generation) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุด  ในงานสัมมนาหัวข้อ “China-Ready” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยจาก Guilin Tourism University ประเมินว่าตลาดการท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงวัยในไทยจะมีมูลค่า 146 ล้านล้านบาทในปี 2568 และเพิ่มขึ้น 7.3% ต่อปีในอีก 30 ปีข้างหน้า  ทั้งนี้ ราวหนึ่งในห้าของนักท่องเที่ยวจีนจัดอยู่ในกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งมักจะเดินทางอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นักท่องเที่ยวที่เกษียณอายุแล้วมีสถานะทางการเงินที่ดีและมีเวลาว่างมากกว่า จึงสามารถวางแผนการท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว ซึ่งราคาตั๋วเครื่องบินจะถูกกว่า และใช้เวลาไปกับทริปท่องเที่ยวได้ยาวนานกว่า  ทั้งนี้ ไทย มาเลเซีย และญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางในต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากนักท่องเที่ยวเหล่านี้

ดังนั้น ผู้ค้าปลีกในภูมิภาคนี้จึงมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่หันมาใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือเพิ่มมากขึ้น ผลการสำรวจของนีลเส็นย้ำว่า เมื่อปีที่แล้ว 88% ของนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มผู้สูงวัยต้องการให้ผู้ประกอบการรับชำระเงินผ่านมือถือในต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า

เนื่องจากการเดินทางไปยังต่างประเทศของชาวจีนแผ่นดินใหญ่คาดว่าจะแตะถึง 260 ล้านครั้งภายในปี 2573  ดังนั้นนักท่องเที่ยวจีนจึงทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจในศักยภาพที่สูงมากเป็นประวัติการณ์  ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับพฤติกรรมและรสนิยมของนักท่องเที่ยวจีน และลงทุนในเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เพื่อรองรับการทำธุรกรรมอย่างไร้รอยต่อเหมือนกับประสบการณ์ที่ชาวจีนได้รับในประเทศของตนเอง

แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการของไทยได้รับประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวจีน และเริ่มพัฒนาไปสู่การให้บริการไลฟ์สไตล์ดิจิทัลสำหรับลูกค้าทุกราย ดังเช่นที่ประเทศไทยมุ่งมั่นผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หรือดิจิทัลทรานส์ฟอเมร์ชั่นอยู่ในขณะนี้

และนี่คืออนาคตอันสดใสที่รอเราอยู่เบื้องหน้า

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ด่วน! บริการ “My Photo Stream” ของ Apple จะปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2023
“OPPO” เปิดตัว OPPO Reno Series สีใหม่ ลิมิเต็ดอิดิชั่น! “Sunset Rose”
เอ็มจี เผยโฉม “NEW MG VS HEV” สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ

Leave Your Reply

*