เสียวหมี่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ เปิดศูนย์การวิจัยและพัฒนาในเมืองตัมเปเร ประเทศฟินแลนด์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีกล้องสมาร์ทโฟน
ตัมเปเรเป็นศูนย์กลางระดับท็อป 5 ของโลกด้านนวัตกรรมของการถ่ายภาพของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเหมาะสมกับเสียวหมี่ที่ตอนนี้เป็นค่ายยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลก ที่มาพร้อมความมุ่งมั่นที่จะมอบนวัตกรรมเพื่อทุกคน
Xiaomi ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกประกาศเปิดตัวสำนักงานการวิจัยและพัฒนาที่เมืองตัมเปเร ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งมุ่งเน้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีกล้องสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นอัลกอริทึมของกล้อง การเรียนรู้ของเครื่อง และการประมวลผลสัญญาณ รูปภาพและวิดีโอ โดยทีมวิจัยและพัฒนานี้เป็นทีมที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศจีนที่เสียวหมี่เคยก่อตั้งมา ตั้งอยู่ ณ เมือง Hervanta (เฮอร์วานทา) ใกล้กับบริเวณแคมปัสเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยตัมเปเร
เสียวหมี่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2010 ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทุกคนบนโลกได้มีชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมของเทคโนโลยี ซึ่งปีนี้เสียวหมี่ยังติดอันดับ Fortune Global 500 หรือบริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก 500 บริษัท ทั้งยังเป็นบริษัทที่ใช้ระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุดในบรรดาบริษัททั้งหมดอีกด้วย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนากล้องสมาร์ทโฟนระดับโลก เสียวหมี่ได้ตั้งสำนักงานที่เมืองตัมเปเรตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เมืองแห่งนี้เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมกล้องและการถ่ายภาพของแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลกมากมายมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 ซึ่งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยตัมเปเรนั้นมีความชำนาญทางด้านการประมวลผลสัญญาณมานานแล้ว
กว่าสิบปีที่ผ่านมาความเชี่ยวชาญทางด้านการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับถ่ายภาพนั้นถูกนำมาดำเนินงานอยู่ในสำนักงานท้องถิ่นของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิ Intel และ Microsoft นอกเหนือไปกว่านั้นศูนย์พัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยีที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมคนเก่ง (Talent Pool) หรือผู้ที่เชี่ยวชาญและมีความรู้เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีของกล้องสมาร์ทโฟนอีกด้วย ซึ่งประจวบเหมาะและตรงกับสิ่งที่เสียวหมี่กำลังมองหาในการจ้างวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญสูงในเรื่องของเทคโนโลยีกล้อง
คุณ หวัง เสียง รองประธานบริหารอาวุโสของเสียวหมี่ กล่าวว่า “ การจัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนาที่เมืองตัมเปเร ในประเทศฟินแลนด์ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการขยายการดำเนินงานระดับโลก ซึ่งเราไม่เพียงแต่จะนำเราเข้าไปอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานและธุรกิจ แต่เรายังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงสินค้าของเราด้วยนวัตกรรมขั้นสูงของเทคโนโลยีอีกด้วย และนี่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นอันยาวนานของเราที่จะมอบนวัตกรรมเพื่อทุกคน”
คุณจาร์โน นิกกะเน็น ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าของหน่วยวิจัยและพัฒนาเสียวหมี่ ประจำประเทศฟินแลนด์ กล่าวว่า “ สำนักงานที่ตัมเปเรนั้นเป็นทีมวิจัยและพัฒนากล้องที่ใหญ่ที่สุดของเสียวหมี่ที่ก่อตั้งนอกประเทศจีน เรามุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีของกล้อง ไม่ว่าจะเป็นอัลกอริทึมของกล้อง การเรียนรู้ของเครื่อง การประมวลผลสัญญาณ รูปภาพและวิดีโอ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาของกล้องโทรศัพท์มือถือ เราเป็นทีมขนาดย่อมที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญราวๆ 20 คน ซึ่งตอนนี้เรากำลังขยายทีมให้ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญด้านอัลกอริทึมของกล้องเข้ามาร่วมทีมเพิ่มขึ้น”
คุณจาร์โนยังกล่าวเสริมอีกว่า “ปรัชญาของเสียวหมี่นั้นเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเน้นการมีส่วนร่วม นั่นคือการส่งเสริมให้ทีมและทุกคนในทีมหาโซลูชันด้วยตัวเอง เพราะสิ่งที่เรากำลังพัฒนาท้ายที่สุดแล้วก็จะไปอยู่ในมือผู้ใช้งานและ Mi Fans ทั่วโลก ซึ่งนั้นเป็นแรงผลักดันที่ดีมากๆ”
เสียวหมี่เข้าร่วมกับระบบนิเวศที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของการถ่ายภาพตัมเปเร ซึ่งจัดขึ้นโดยบิสสิเนสตัมเปเร สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคตัมเปเร (Tampere region economic development agency)
คุณจาร์โนกล่าวเพิ่มเติมว่า “บิสสิเนสตัมเปเรและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยกับการถ่ายภาพนั้นมีส่วนช่วยอย่างมากในการก่อตั้งธุรกิจในตัมเปเร ผมไม่มีประสบการณ์ในการจัดตั้งในประเทศอื่นแต่ผมคิดว่ากระบวนการของเรานั้นเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ง่ายที่สุด เช่นตอนนี้พวกเรา ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมเทคโนโลยีที่พัฒนากล้องสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ เรากำลังสร้างห้องทดลองของกล้องสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยที่สุดของยุคเพื่อรองรับการพัฒนาอัลกอริทึมของกล้องโดยได้ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมและผู้ให้บริการของท้องถิ่นในเรื่องของอุปกรณ์วิจัยในห้องทดลอง”
คุณโอลิเวอร์ ฮัสซีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านธุรกิจจากบิสสิเนสตัมเปเร กล่าวปิดท้ายว่า “พวกเราจากบิสสิเนสตัมเปเรนั้นมีความยินดีต้อนรับเสียวหมี่เข้าสู่ระบบนิเวศการถ่ายภาพตัมเปเรเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้เรามี 2 บริษัทจากท็อป 4 ของบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือระดับโลกที่มาจัดตั้งศูนย์การวิจัยและพัฒนาที่ตัมเปเร นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าภูมิภาคของเราเป็นหนึ่งในระบบนิเวศการถ่ายภาพที่ดีที่สุดของโลก”
ข่าวประชาสัมพันธ์