แม้ว่าเราจะได้เห็น iPhone รุ่นใหม่เปิดตัวออกมาเรื่อยๆ แล้วล่าสุดกับการมาของ iPhone 11 แต่ด้วยเรื่องของดีไซน์ที่เป็นไปได้สูงว่าจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักนั้นทำให้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังถือเป็นมือถือที่น่าสนใจต่อไป

วันนี้เรามี 7 เหตุผลที่คุณจะต้องหลงชอบมือถือรุ่นนี้ต่อไป แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่ๆ ออกมาหลากหลายรุ่นแล้วก็ตามครับ

1.ตัวเครื่องมิติยังคงเท่าเดิม เพิ่มเติมคือสี Jet Black น่าสนใจมาก

การเปิดตัวของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus คราวนี้มีสีใหม่มาถึง 2 สีโดยสีแรกนั้นคือ ดำ โดยผิวเป็นแบบโลหะเรียกว่า Match Finish เลยก็ว่าได้ กลมกลืนกว่าสี Space Gray ที่ใช้มานาน เท่ากับต่อไปนี้คุณจะซื้อสี Space Gray ต้องอุดหนุน iPhone 6s และ iPhone SE เท่านั้น

แต่สีที่ทำให้ต้องร้องกรี้ดกันทั้งคืนคือสี Jet Black ซึ่งเป็นสีดำเงางามระดับที่คุณต้องพูดเลยว่า มันสวยมาก!! และเคลือบเหมือนกับกระจกแต่ความจริงนั้นคืออะลูมิเนียม 7,000 เหมือนกับ 6s แต่น้ำหนักเครื่องกลับเบากว่าเล็กน้อย ซึ่งมีเฉพาะรุ่นความจุ 128GB และ 256GB เท่านั้น

อีกสิ่งที่คุณต้องรู้คือ ขนาดเครื่องเท่ากับ iPhone 6, 6s, 6 plus และ 6s Plus เท่ากับคุณสามารถใส่เคสเดิมได้เลย แต่ลำโพงจะถูกอัดไปฝั่งนึงจะรับได้หรือเปล่า และปุ่ม Home เป็นเซนเซอร์ แม้จะดูเหมือนเดิมแต่แตะแล้วจะไม่สามารถใช้แรงกดได้แล้ว จะมีการสั่นแทน ทำให้เครื่องดูทนทานมากขึ้น

แต่ถ้าคุณกลัวเรื่องสี Jet Black แล้วล่ะก็ iPhone รุ่นนี้มีสี แดง Product Red ให้เลือกด้วยแต่ต้องเป็นรุ่น 128GB ขึ้นไป ซึ่งเป็นผิวด้านและหน้าขาวดูแล้วเด่นไม่แพ้ใคร

2.เป็น iPhone รุ่นแรกที่กันน้ำได้

นอกจากจะสวยงามเพราะสีดำ Jet Black ที่ดูไปดูมาก็เหมือน Piano Black แล้วยังสามารถกันน้ำได้ในระดับ IP67 เป็นรุ่นแรกของ iPhone ซึ่งแตกต่างกับ IP68 แค่เรื่องของความทนทานที่อยู่ในน้ำได้เพียงสูงสุดแค่ 1 เมตร

ทั้งนี้ Apple ยังออกมาบอกว่าถ้าเครื่องเกิดความเสียหายเพราะน้ำเข้านั้นก็ไม่ถือว่าอยู่ในการรับประกัน ซึ่งจุดนี้ทุกค่ายเป็นเหมือนกันหมด ฉะนั้นการกันน้ำของมือถือย้ำแล้วว่า ออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุมากกว่า การลงน้ำแบบจงใจนะครับ

3.ลำโพงคู่เสียงดังแน่นอน

เช่นเดียวกัน ลำโพงของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ติดตั้งคู่ด้านล่างและทำให้เสียงนั้นดังมากขึ้น เมื่อเปิดแต่การกระจายตัวของเสียงนั้นมีลำโพงสนทนาช่วยทำให้ได้ยินชัดเจนและมีมิติมากขึ้นจากที่ได้ข้อมูลจาก Apple มา ทำให้ช่องเสียบหูฟังนั้นหายไปรวมกับ Lightning Port และสามารถแปลงเป็นหูฟังแบบปกติ 3.5 มิลลิเมตรได้

และแน่นอนการทำแบบนี้ทำให้ AirPods หูฟังไร้สายเกิดขึ้นมาในราคา 6,900 บาท ซึ่งรองรับการสั่งงานด้วยเสียงและมีชิประมวลผลเสียงทำให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

4.กล้องหลังดีกว่าเดิม

แน่นอนว่ากล้องหลังของ iPhone 7 นั้นมีการปรับปรุงมากพอสมควร แต่ความละเอียดของกล้องนั้นยังคงเท่าเดิมคือ 12 ล้านพิกเซลทั้งคู่ โดย iPhone 7 จะเพิ่มในเรื่องของรูรับแสง F1.8 พร้อมกับ ระบบกันสั่นที่เข้ามาใช้ครั้งแรก ใน iPhone ขนาด 4.7 นิ้ว และให้ LED Flash 4 ดวง นอกนั้นยังสามารถถ่ายวีดีโอ 4K, วีดีโอแบบ Slow Motion, Time Lapse ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าสลัดภาพของ iPhone 6s ทิ้งไปได้เลย

ส่วน กล้องของ iPhone 7 Plus ได้เลนส์คู่ จะทำหน้าที่แตกต่างกันคือ เลนส์ตัวแรกจะถ่ายมุมกว้าง แต่อีกเลนส์จะเป็นระยะไกล เท่ากับคุณสามารถซูมภาพด้วยเลนส์ตัวที่ 2 แบบ Optical Zoom ได้มากถึง 2 เท่า และซูมผ่าน Software ได้มากถึง 10 เท่า แต่วีดีโอซูมได้ 6 เท่า ซึ่งจะแตกต่างจากซูมด้วยเลนส์อาจจะสูญเสียความละเอียดเล็กน้อย แต่ที่ดีกว่าคือการเพิ่มลูกเล่นชัดตื้นชัดลึกได้ ทำให้ละลายหลังได้ เรียกว่างานนี้โบเก้ต้องมา

ถ้ามองจริง ๆ แล้วมือถือ Android บางรุ่นก็ทำได้นานแล้ว แต่สำหรับสาวก iPhone นี่คือลูกเล่นที่คุณต้องลองสักครั้งถ้า iPhone 7 Plus อยู่ในมือ

เพิ่มเติมเรื่องกล้องหน้าสักหน่อยเพราะว่ารุ่นนี้ปรับเพิ่มเป็น 7 ล้านพิกเซลและมันก็แอบมีระบบกันสั่นมาให้ด้วยนะ

5.จอสว่างและสีสวยงามขึ้น

แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดและความละเอียดเท่ากับ iPhone 6s แล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาชัดเจนที่สุดคือ ความสว่างของหน้าจอที่ดีกว่าเดิมถึง 25% และแน่นอนว่า สีของการแสดงผลนั้นคมชัดขึ้นกว่ารุ่นเดิมแน่นอน

6. หน่วยประมวลผลใหม่ ทำให้เครื่องฟิต แรงสะใจ

iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีการเปลี่ยนแปลงขุมพลังใหม่เป็น Apple A10 Fusion ที่แรงกว่า iPhone รุ่นแรกแบบไม่ต้องพูดถึง การเล่นเกมนั้นลื่นไหล และมีการรวม Co Processor เข้าไปในตัวนี้ และมี GPU ที่ทำกราฟฟิกได้ดีกว่าเดิม ฉะนั้นการทำงานไหลลื่นไม่ติดขัดจึงเกิดขึ้นได้ใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แถม RAM มากกว่าเดิมโดย iPhone 7 Plus ใช้ RAM 3GB แต่ iPhone 7 ใช้แค่ 2 GB

นอกจากนี้ยังได้เรื่องของการประหยัดพลังงานกว่ารุ่นเดิม ทำให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น แต่นานแค่นั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของคุณด้วยเช่นกัน

7. ทั้งหมดนี้มาในราคาเท่าเดิม แต่ความจุเพิ่มขึ้น

แม้ว่าในต่างประเทศจะเคาะราคาของ iPhone 7 เริ่มต้นที่ $649 หรือประมาณ 23,000 บาท แต่ถ้าเทียบกับ iPhone 6s ขนาด 16GB ที่ขายก่อนหน้านี้ เรียกว่าไม่ได้แตกต่างจากเดิม แต่คุณจะได้ความจำที่เยอะขึ้นเพราะเริ่มต้นก็ได้ 32GB แล้ว

ทำให้ดูคุ้มค่ากว่าเดิม แต่ถ้าอยากได้คุ้มจริงแล้ว 128GB เป็นคำตอบสุดท้ายครับ

เรียกได้ว่าเห็นแค่นี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่มองและลังที่จะสอยกลับมาสักเครื่อง แต่สุดท้ายคุณจะซื้อหรือไม่นั้นคงต้องรอดูกันต่อในระยะยาวต่อไปนะครับว่าคุ้มหรือเปล่า เพราะความคุ้มค่าของแต่ละคนไม่เท่ากัน

แถมช่วงนี้โปรโมชั่น iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นก็ลดราคาแบบเทกระจาด เอาเป็นว่าใครอยากได้มือถือใหม่ไว้ใช้งาน แล้วไม่ต้องการอะไรที่หวือหว่ามาก ก็ลองมองๆ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ของเก่าตกรุ่นแต่คุณภาพดีงามไว้ได้เลย…

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
แอปพลิเคชั่น 6 ประเภทที่ควร “ลบ” ออกจากเครื่องทันที! เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของมือถือ!
3 วิธีง่ายๆ เมื่อต้องการลบข้อมูลออกจาก iPhone เมื่อยามพื้นที่เต็ม
แก้ปัญหา “iPhone ชาร์จแบตไม่เข้า” เรื่องเล็กเหมือนเส้นผมบังภูเขา

Leave Your Reply

*