หลังจากที่ รัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ได้ออกประกาศมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 2 มีผลให้ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2020/05/AISCTW-6.jpg)
ทั้งนี้ เอไอเอส และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จึงได้นำขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G มาช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งการติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มทุกพื้นที่ และการนำหุ่นยนต์ ROC และ AIS K9 ที่ทำงานบน LIVE Network 5G มาช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง
เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิด และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่รับ NOW Normal พร้อมนำเทคโนโลยี 5G สร้างมาตรฐานใหม่ในการพลิกฟื้นและเคียงข้างภาคธุรกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2020/05/AISCTW-12-683x1024.jpg)
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “จะเห็นได้ว่า ปรากฎการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา คือความมุ่งมั่นค้นหา Digital Solutions เพื่อมาตอบโจทย์วิถีชีวิตบนพื้นฐานความปรกติใหม่ หรือ NOW Normal เพราะความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งความต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องการตอบสนองที่รวดเร็วเช่นกัน
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2020/05/AISCTW-9.jpg)
เทคโนโลยี จึงเป็นอาวุธสำคัญที่แต่ละธุรกิจต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมและรับกับสถานการณ์ได้แบบ Real Time เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เราจึงทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าและคนไทยได้ใช้งานเครือข่ายและบริการของเราอย่างไม่ติดขัด โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G ที่เราเน้นย้ำเสมอมาว่า จะเสริมประสิทธิภาพให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม”
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2020/05/AISCTW-2.jpg)
“วันนี้ ธุรกิจรีเทล เป็นหนึ่งในธุรกิจบริการหลักของประเทศที่จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ ในฐานะศูนย์กลาง Lifestyle ของประชาชน และมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วให้เข้ากับ New Norm ในฐานะพันธมิตร จึงได้ผนึกกำลังกับ CTW พัฒนา Digital Solutions จากเทคโนโลยี 5G
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2020/05/AISCTW-3.jpg)
ซึ่งมีพลานุภาพสูง ทั้งในแง่ ของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีความเร็ว (Speed) การตอบสนองต่อการสั่งงานที่รวดเร็ว มีความหน่วง (Latency) ต่ำ พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ที่หลากหลาย (IoT Connectivity)ตอกย้ำการนำเทคโนโลยี 5G ที่จับต้องได้ เพื่อตอบสนองทุก Lifestyle” โดยความร่วมมือในช่วงระยะแรก แบ่งออกเป็น
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2020/05/AISCTW-4.jpg)
1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มทุกพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าเอไอเอส ทั้งบนเครือข่าย 4G และ 5G
2. นำหุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) ช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าศูนย์การค้า ซึ่งเป็นหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยตรวจรักษาพยาบาลผู้ป่วยCOVID-19 ในโรงพยาบาล ตามที่เอไอเอสให้การสนับสนุน ภายใต้ภารกิจ AIS 5G สู้ภัย COIVD-19 มาก่อนหน้านี้ และหุ่นยนต์ AIS K9 บริการเจลแอลกอฮอล์ รอบๆ พื้นที่ Shopping ที่ทำงานบน LIVE Network 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. จัดมาตรการดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุดสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ณ AIS Shop อาทิ การวัดอุณหภูมิร่างกาย, บริการเจลแอลกอฮอล์, ติดตั้งแผงอะครีลิค ในบริเวณการทำธุรกรรม, บริหาร Traffic ในการเข้าใช้บริการตามหลัก Social Distancing, คัดกรองสุขภาพของพนักงานที่ให้บริการ พร้อมมัการสวมอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน ตลอดจนการทำความสะอาดบริเวณ AIS Shop ตลอดเวลาเพื่อความอุ่นใจของลูกค้า
“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในภาคประชาชน ประชาสังคม ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน จะมีส่วนช่วยสนับสนุนและนำพาประเทศไทยฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน” นายปรัธนา กล่าวสรุป