เร็วแรงสูงสุด พร้อม realme Watch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ และ realme Buds Air Neo อีกหนึ่งหูฟังไร้สายที่ใช่ในแบบคุณ

realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง realme X3 SuperZoom ในประเทศไทยอย่างเปิดทางการ โดยมาพร้อมซิปเซ็ตทรงพลัง Snapdragon 855+ และกล้องพลังซูม 60 เท่า เพิ่มประสบการณ์ถ่ายภาพอีกขั้น รองรับหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 พร้อมเทคโนโลยี Turbo Write และ HPB หน้าจอลื่นไหลระดับสูงสุดด้วยอัตรา Refresh Rate 120 Hz และรองรับชาร์จเร็ว 30W Dart Charge

realme X3 SuperZoom กล้องทรงพลัง ยกระดับการถ่ายภาพดวงดาว

กล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 พร้อมเซ็นเซอร์ Samsung GW1 ช่วยเพิ่มความละเอียดและคุณภาพของภาพที่แม้ในที่แสงน้อย และเก็บรายละเอียดที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมเลนส์ Periscope ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการซูมแบบ Optical Zoom 5 เท่า รองรับระยะการโฟกัสสูงสุด 124 มม และสามารถซูมแบบ Hybrid zoom ได้ถึง 60 เท่า พร้อมระบบกันสั่น  เลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.3 เก็บภาพได้กว้างมากถึง 119 องศา และ เลนส์ Marco ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร

 Starry Mode โหมดถ่ายภาพดวงดาว

ที่สามารถถ่ายดวงดาวได้สวยงาม โดยสามารถจับภาพได้ถึง 10 ภาพ ด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่นานสุด 32 วินาที ซึ่งการทำงานร่วมกันของระบบ AI และการเปิดรับแสงในระยะเวลาหนึ่งนานเป็นพิเศษ ค่าความไวแสง ระยะโฟกัส ค่า White Balance และลดการเกิด Noise ช่วยให้สามารถถ่ายภาพท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวได้อย่างสวยงามระดับมืออาชีพ ภาพดาวที่มีความคมชัดและความสว่างชัดเจนยิ่งขึ้น

Super Nightscape 4.0

โดยมาพร้อมกันทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ โหมด Pro Nightscape Mode ช่วยให้ภาพถ่ายตอนกลางคืนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ที่ผสมผสานกันอย่างชาญฉลาดระหว่างโหมด Super และ Ultra Nightscape ซึ่งจะเป็นโหมดที่ช่วยให้สามารถเก็บภาพตอนกลางคืนได้อย่างงดงาม แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความสว่างเพียง 1 ลักซ์ และโหมดขาตั้งกล้อง เปรียบเสมือนขาตั้งกล้อง ช่วยให้ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้อย่างระดับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

กล้องหน้า พร้อมโหมดเอาใจคนรุ่นใหม่ กล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX616 และกล้องเลนส์ Super Wide–Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ ได้กว้างมากขึ้นถึง

105 องศาหรือ 2.5 เท่าจากเดิม และสามารถจดจำใบหน้าและปรับใบหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติเมื่อมีการจับที่ขอบของภาพ

ประสิทธิภาพทรงพลังเพื่อการทำงานลื่นไหลไม่มีสะดุด

realme X3 SuperZoom มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855+ หน่วยความจำแบบ dual-channel UFS 3.0 และเทคโนโลยี Turbo White และ HPB ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz สามารถแสดงผลได้ 120 เฟรมต่อวินาที แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh รองรับการชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในระยะเวลาเพียง 55 นาที พร้อมทั้งระบบระบายร้อน  VC cooling ซึ่งประกอบด้วยวัสดุระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงหลายที่สามารถป้องกันแหล่งความร้อนได้ 100%

ในส่วนของดีไซน์ realme X3 SuperZoom มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สี Arctic White และสี Glacier Blue ตัวเครื่องป้องกันละอองน้ำ โดยมีระบบป้องกันถึง 3 ชั้น พื้นผิวของหน้าจอผ่านกรรมวิธีการผลิตโดยเทคโนโลยี AG ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ให้ความรู้สึกจากสัมผัสที่ละเอียดอ่อน นุ่มนวล สะดวกสบายและป้องกันลายนิ้วมือ

นอกจากนี้ realme X3 SuperZoom ยังรองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง ใช้ระยะเวลาเพียง 0.3 วินาที มาพร้อมกับ Super Linear Speaker รองรับ Dolby Atmos and Hi-Res Quality ช่วยเปิดประสบการณ์การฟังเพลงหรือการใช้งานเสียงได้มากยิ่งขึ้น

ช่องทางและกำหนดการวางจำหน่าย

realme X3 SuperZoom เปิดให้ Pre – order แล้วตั้งแต่วันนี้ ในราคาเพียง 19,990 บาท พร้อมรับของแถมฟรี เครื่องทำความชื้นและ realme VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง/ปี มูลค่า 5,999 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ที่ BaNANA, BKK, Kingkong, CSC, TG Fone, Jaymart และ IT City

สำหรับช่องทางออนไลน์ทาง Lazada และ Shopee เปิดให้ Pre – order แล้วตั้งแต่วันนี้และจะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มิถุนายน  ในราคา 19,990 บาท รับฟรี สมาร์ทปริ้นเตอร์ไร้สาย 10 ออเดอร์แรก (FujiFilm Instax Mini Link) ทุกพรีออเดอร์ เครื่องทำความชื้น และ realme VIP Card

สำหรับลูกค้า AIS และ Truemove H เป็นเจ้าของ realme X3 SuperZoom ในราคาเริ่มต้นเพียง 10,990 บาท

พิเศษ จับจองเป็นเจ้าของ realme X3SuperZoom ที่ AIS พร้อมแพ็กเกจ  Hot Deal และ Best Buy เฉพาะช่องทาง AIS Online Store และ Line @AISShop (ชำระเงินค่าสินค้าเต็มจำนวน) ลูกค้าจะได้รับ AIS e-voucher code มูลค่า 500 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าบน AIS Online Store ครั้งถัดไปตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป โดย e-voucher code นี้จะสามารถใช้ได้ถึง 30 มิ.ย. 63