อนาคตของสุขภาพบนข้อมือคุณ วัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วยเซ็นเซอร์และแอพใหม่สุดล้ำ พร้อมดูค่าวัดความฟิตต่างๆ ได้เพียงแค่เหลือบมองบนจอภาพ Retina แบบติดตลอดที่ดียิ่งขึ้น
เมื่อมี Apple Watch Series 6 อยู่บนข้อมือของคุณ ชีวิตที่มีสุขภาพดี แอ็คทีฟ และต่อติดกับทุกเรื่องได้ดียิ่งขึ้นก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
Apple Watch Series 6 มาพร้อมกับความสามารถในการวัดระดับออกซิเจนในเลือดเป็นค่าสำคัญที่บ่งบอกความแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวมของคุณ
อีกทั้งยังช่วยให้เข้าใจว่าร่างกายของคุณดูดซึมออกซิเจนได้ดีแค่ไหน รวมถึงปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายของคุณได้รับ
ซึ่ง Apple Watch Series 6 ก็มาพร้อมเซ็นเซอร์และแอพใหม่อันน่าทึ่งที่ให้คุณอ่านค่าออกซิเจนในเลือดของคุณได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และยังทำการวัดค่าในเบื้องหลังทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย
เซ็นเซอร์ใหม่ ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ
เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดใหม่ประกอบขึ้นจากกลุ่มไฟ LED จำนวน 4 ดวง และโฟโต้ไดโอด4 ตัว และถูกรวมเข้าไว้ในฝาหลังคริสตัลที่ออกแบบมาใหม่หมด โดยเซ็นเซอร์ใหม่นี้จะทำงานร่วมกับแอพออกซิเจนในเลือดเพื่อวัดค่าระดับออกซิเจนในเลือดของคุณ
ส่องแสงอย่างล้ำลึกLED สีเขียว สีแดง และอินฟราเรดจะส่องแสงลงบนเส้นเลือดในข้อมือคุณ โดยมีโฟโต้ไดโอดทำหน้าที่วัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับมา จากนั้นอัลกอริทึมอันล้ำสมัยก็จะคำนวณสีของเลือด ซึ่งบ่งบอกปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่
อัตราการเต้นของหัวใจ ฟังเสียงหัวใจคุณเสมอ
อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงหรือต่ำผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของภาวะร้ายแรงได้ แต่คนจำนวนมากกลับไม่ได้ตระหนักถึงอาการดังกล่าว จึงทำให้ตรวจไม่พบสาเหตุที่แท้จริง
ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะการแจ้งเตือนในแอพอัตราการเต้นของหัวใจใน Apple Watch Series 6 จะคอยเช็คหัวใจของคุณและเตือนเมื่อพบความผิดปกติเหล่านี้ เพื่อให้คุณเริ่มดูแลตัวเองและปรึกษาแพทย์ได้ทันท่วงที
การนอนหลับ วันดีๆ เริ่มต้นจากคืนดีๆ
การนอนหลับอย่างเพียงพอนั้นมีความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งแอพการนอนหลับใหม่จะช่วยคุณสร้างกิจวัตรก่อนเข้านอนรวมถึงติดตามแนวโน้มการนอนหลับของคุณในทุกๆ คืน เพื่อให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายการนอนหลับที่เหมาะกับตัวเองและทำได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ
ถ้าพูดถึงเรื่องความฟิต ยิ่งรู้เยอะก็ยิ่งเป็นต่อ โดยตอนนี้คุณจะได้รับแรงบันดาลใจให้คุณก้าวต่อไปไม่หยุด รวมถึงติดตามค่าการออกกำลังกายของคุณได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ทั้งในน้ำ ที่ยิม หรือบนถนน เพราะนี่คือ Series 6 ซึ่งเป็น Apple Watch ที่ท็อปฟอร์มทุกเรื่อง และพร้อมจะช่วยให้คุณท็อปฟอร์มในทุกๆ ด้าน
เลือกขยับในแบบที่ถนัดไม่ว่าคุณจะชอบเคลื่อนไหวแบบไหน Apple Watch ก็มีการออกกำลังกายที่ใช่สำหรับคุณ ซึ่งให้คุณเลือกได้ตั้งแต่วิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ ขี่จักรยาน หรืออะไรก็ตามที่ชอบได้เกือบทุกอย่างจากนั้นก็เริ่มวัดทุกการเคลื่อนไหวของคุณได้เลยดูว่าคุณก้าวไปถึงไหนแบบไม่ต้องเสียจังหวะ
ดูว่าคุณก้าวไปถึงไหนแบบไม่ต้องเสียจังหวะ ตอนนี้จอภาพ Retina แบบติดตลอดมีความสว่างมากขึ้น 2.5 เท่าเมื่ออยู่กลางแจ้งขณะที่คุณลดข้อมือ ดังนั้นต่อให้คุณจะออกกำลังกายกลางแดดจ้า ก็ยังเห็นค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมา หรือต้องหยุดวิ่งให้เสียความต่อเนื่องเลย
ยกระดับ ให้ระดับความสูง มาตรวัดความสูงใหม่แบบทำงานตลอดจะติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของคุณอย่างต่อเนื่องในแบบเรียลไทม์ทั้งในร่มและกลางแจ้ง เพื่อให้คุณดูค่าต่างๆ ได้แม่นยำยิ่งขึ้นขณะเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะกำลังเดินป่าขึ้นเขาหรือเล่นสกีผาดโผนลงเนิน
แรงจูงใจ สูบฉีดทุกแรงฮึดสำหรับทุกหยาดเหงื่อ เพลงและพ็อดคาสท์ ฟังอะไรก็ได้ที่ช่วยกระตุ้นให้คุณเคลื่อนไหว รวมถึง 70 ล้านเพลงบน Apple Music,
วงแหวนกิจกรรม สร้างแรงจูงใจในการนั่งให้น้อยลง เคลื่อนไหวมากขึ้น และก็ออกกำลังกายบ้าง ในแต่ละวัน
การแชร์กิจกรรมแชร์วงแหวนกิจกรรมของคุณกับเพื่อนๆ และครอบครัวเพื่อสร้างแรงกระตุ้นซึ่งกันและกัน การแข่งขันท้าเพื่อนมาร่วมการแข่งขันทำกิจกรรมระยะเวลา 7 วัน
สี คู่เอกคู่ใหม่ มาในมุมแดง และมุมน้ำเงิน
พบกับตัวเรือนอะลูมิเนียมรุ่น (PRODUCT)RED และสีน้ำเงินใหม่ที่เข้ามาเสริมผลิตภัณฑ์ตระกูลนี้ให้มีสีสันมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาขณะเดียวกันก็ยังมีวัสดุให้เลือกหลากหลายทั้งไทเทเนียม สแตนเลสสตีล และอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
ไทเทเนียมสีดำสเปซแบล็ค, สแตนเลสสตีลสีทองใหม่, อะลูมิเนียมสีเงิน
สายแบบ Solo Loop สวมก็ง่าย ใส่ก็คล่อง
ผลิตภัณฑ์ตระกูล Apple Watch Series 6 มาพร้อมสายใหม่สุดล้ำแบบไร้รอยต่อที่ไม่มีหัวล็อคหรือตัวล็อคใดๆ ให้เห็น โดยมีวัสดุให้เลือก 2 ชนิด และสามารถเลือกขนาดที่กระชับพอดีกับข้อมือของคุณได้ถึง 9 ขนาด
สายแบบ Solo Loop สายแบบ Solo Loop สร้างสรรค์ขึ้นจากยางซิลิโคนแบบยืดได้อันอ่อนนุ่ม จึงให้ความรู้สึกที่สบายเป็นเยี่ยม มีน้ำหนักเบา และยังสวมใส่หรือถอดออกได้ง่ายจนคุณต้องประหลาดใจ
สายแบบ Braided Solo Loop เป็นการนำด้ายซิลิโคนมาถักทอเข้าด้วยกันกับด้ายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ทำมาจากเส้นใยยาวมากกว่า 16,000 เส้น เพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นสายที่มีรายละเอียดบนผิวสัมผัส ยืดได้ และดูสวยงามในเวลาเดียวกัน
จอภาพ ติดอยู่ตลอด ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย
ตอนนี้จอภาพ Retina แบบติดตลอดมีความสว่างมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่กลางแจ้ง ขณะที่คุณลดข้อมือ คุณจึงมองเห็นข้อมูลทั้งหมดบนหน้าปัดนาฬิกาได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคยโดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมาเพื่อปลุกนาฬิกาเลยด้วยซ้ำ
เข้าถึงได้ตลอดเวลา ปัดลงเพื่อเปิดศูนย์การแจ้งเตือน ปัดขึ้นเพื่อเปิดศูนย์ควบคุม หรือแตะกลไกหน้าปัดขณะที่ไม่ได้ยกข้อมือขึ้นมา คราวนี้ถ้าเกิดคุณต้องการโต้ตอบแบบง่ายๆ ขณะประชุมหรือทำนั่นทำนี่อยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องปลุกนาฬิกาขึ้นมาอีกต่อไป
หน้าปัดใหม่ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนหน้าได้ไม่รู้จบ
สร้างสรรค์หน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบคุณโดยเริ่มจากเลือกหน้าปัดที่ใหม่ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ แล้วนำมาปรับแต่งให้เข้ากับอารมณ์ สไตล์ หรือกิจกรรมโปรดของคุณ
มีหน้าปัดสำหรับทุกคน
ตอนนี้คุณสามารถค้นพบและแชร์หน้าปัดนาฬิกาที่ปรับแต่งมาในแบบต่างๆ สำหรับทุกสิ่งที่คุณเป็นและทุกเรื่องที่คุณสนใจได้ง่ายๆ โดยข้อมูลสำคัญทั้งหมดจะรวมอยู่ในที่เดียว ถ้าพร้อมแล้วก็ไปหาหน้าปัดที่ถูกใจใน App Store, บนเว็บ หรือโซเชียลมีเดียได้เลย
Apple Watch Series 6 ช่วยให้ทุกคนและทุกเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณไปกับคุณได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ที่ไหน และในรุ่นที่มีระบบเซลลูลาร์ คุณยังสามารถต่อติดกับทุกเรื่องได้เสมอแม้จะไม่มีโทรศัพท์อยู่กับตัวก็ตาม
- โทรศัพท์และข้อความโทรออกและส่งข้อความได้จากข้อมือคุณ
- Wallet เก็บบัตรผ่านขึ้นเครื่อง ตั๋วหนัง หรือบัตรสะสมคะแนนไว้เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายๆ
- Siri พร้อมช่วยคุณแทบทุกเรื่องเพียงแค่เอ่ยปาก
- แผนที่รับการสะกิดเตือนบนข้อมือเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลี้ยว
การตั้งค่าครอบครัว เชื่อมสายใยในครอบครัวไว้บนข้อมือ
คุณสมบัติ “การตั้งค่าครอบครัว” ให้คุณจับคู่ iPhone ของคุณกับนาฬิกาของเด็กๆ หรือผู้สูงอายุที่ไม่มี iPhone เป็นของตัวเอง ทุกคนจึงต่อติดถึงกันผ่านโทรศัพท์ ข้อความ หรือวอล์คกี้ทอล์คกี้ได้ตลอด แถมทุกคนยังทำสิ่งต่างๆ อย่างการฟังเพลง ค้นหาแอพ รวมทั้งปิดวงแหวนกิจกรรมของตัวเองได้อีกด้วย ทีนี้ทุกคนก็จะมีอิสระมากขึ้น ส่วนคุณก็สบายใจได้ว่าทุกคนจะอยู่ใกล้ๆ เสมอ
ตัวเรือนไหนก็ได้ สายไหนก็ได้ ในสไตล์ที่เป็นคุณ
สำหรับใครที่สนใจ Apple Watch Series 6 รุ่นใหม่ทาง Apple เปิดให้จองแล้ววันนี้และเริ่มส่งมอบสินค้าวันศุกร์ที่ 18 กันยายน ใน 29 ประเทศ โดยยังไม่มีประเทศไทยในกลุ่มแรก
ที่มา: www.apple.com