บอกได้เลยว่าเป็นของรีวิวอีกชิ้นที่พอได้ใส่เล่นแล้วถึงกับติดใจจนต้อง add มันเพิ่มเข้ามาใน Accessories ในชีวิตประจำวันอีกชิ้นนอกเหนือจาก Apple Watch คู่ใจที่ใส่อยู่ทุกวัน

กลับมาพบกันอีกครั้งกับการพรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านไอทีเปิดใหม่จากพวกเราทีมงาน Techhaus (เทคเฮาส์) สำหรับคิววันนี้เป็นของสมาร์ทวอทช์ รุ่นใหม่ที่น่าสนใจมากๆ ครับ

ก่อนที่จะพูดเรื่องของดีไชต์ของ “Mi Watch” เราขอแนะนำข้อมูลคร่าวๆ ของสมาร์ทวอทช์ Mi Watch กันก่อน แน่นอนว่ามันย่อมน่าสนใจมากๆ

สเปคสมาร์ทวอทช์ Mi Watch

• หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว (454×454 พิคเซล) กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3, ระบบสัมผัส Multi-Touch
• รองรับเมนู, การแจ้งเตือนภาษาไทย
• ระบบ HR Real-Time, SPO2, Stress Measure, Meditation (วัดลมหายใจ)
• น้ำหนัก 32 กรัม
• โหมดออกกำลังกาย 117 โหมด
• กันน้ำ 5 ATM ใส่ว่ายน้ำได้
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 16 วัน

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง

เปิดกล่องออกมาหลักๆ ที่เราเจอก็จะมีตัวเรือนสมาร์ทวอช, คู่มือการใช้งาน และแท่นชาร์จแบบ Magnetic เรียกว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่มักเจอได้ในกล่องของสมาร์ทวอช ทั่วๆ ไปครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สมาร์ทวอทช์ Mi Watch มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ความละเอียดภาพ 454 x 454 พิกเซล ทรงกลม โดย Mi Watch มาพร้อมหน้าจอให้เลือกใช้งานขนาดเดียวครับ

Mi Watch มาพร้อมกับตัวเรือนที่เป็นพลาสติกส่วนสายเป็นแบบซิลิโคน ทำให้มีน้ำหนักเบาแค่เพียง 32กรัมและมันยังทนแรงกระแทกได้ดี

ทำให้รู้สึกสบายข้อมือยามต้องใส่ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ และยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ระคายเคืองต่อผิว

ด้านหลังของตัวเรือนเป็นอะลูมิเนียมโดยมีพินสำหรับเชื่อต่อกับแท่นชาร์จและเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

ตัวสายสามารถถอดเปลี่ยนได้โดยการกดสลักที่ด้านลงเบาๆ แล้วดึงสายออก เวลาที่ใส่กลับก็เพียงให้สายตรงกับร่องที่กำหนดไว้ เท่านี้สายกับตัวเรือนก็ล็อคเข้าหากันสนิทแล้ว

รอบๆ ตัวเครื่องของไม่มีปุ่มอะไรมากมาย ปุ่มทำงานหลักๆ จะอยู่ที่ตัวเครื่องด้านซ้าย ที่มีด้วยกันทั้งหมด 2 ปุ่มไว้ควบคุมการทำงานที่แบ่งหน้าที่กันทำงานดังนี้

• สำหรับปุ่มโฮมกดเพื่อกลับหน้าแรกหรือเข้าหน้ารายการแอปพลิเคชั่นภายในเครื่อง

• อีกหนึ่งคือปุ่มสำหรับการเข้าเลือกใช้งานโหมดออกกำลังกายต่างๆ ที่มี

ไฮไลท์ที่มาพร้อมกับสมาร์ทวอทช์ Mi Watch ก็สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้เหมือนกัน แถมสามารถวัดได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงอีกด้วยรวมไปถึง มันยังสามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือดหรือ SpO2 ฟีเจอร์วัดค่าออกซิเจนในเลือดยอดนิยมอีกด้วย บอกแล้วว่าแม้ราคาจะแค่ 3 พันปลายๆ แต่ Mi Watch มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สมาร์ทวอทช์รุ่นแพงๆ มีเกือบหมด

มาพูดถึงฟีเจอร์หลักๆ ของมันอย่างโหมดออกกำลังกายกันหน่อยครับ ใน Mi Watch รุ่นนี้มาพร้อมกับโหมดออกกำลังกายทั้งหมด 117 แบบ มีหลากหลายชนิดกีฬาจริงๆ สามารถกดเรียกได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม Sport ที่บริเวณด้านขวาของตัวเรือน

นอกจากนี้เรายังสามารถใส่ Mi Watch ลงว่ายน้ำได้เพราะ Mi Watch มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำแบบ 5ATM ทำให้มันสามารถใส่ใช้งานในน้ำลึกได้สูงสุดถึง 50 เมตร จึงใส่ว่ายน้ำได้ (ในน้ำตื้น หรือสระว่ายน้ำ) 

เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และเริ่มต้นใช้งานพร้อมทดสอบฟังก์ชันต่างๆ

Mi Watch สามารถเริ่มต้นการทำงานด้วยการเชื่อมต่อครั้งแรกผ่าน Bluetooth 5.0 BLE ด้วย แอปพลิเคชัน ที่มีชื่อว่า Xiaomi Wear คือต้องเริ่มต้นการทำงานผ่าน Xiaomi Wear ถึงจะเริ่มต้นการใช้งานได้

ขอบอกว่าในแอป Xiaomi Wear เขามีหน้าปัดนาฬิกาหลายแบบให้เลือกเปลี่ยนได้ตามใจชอบเพียบครับ มีแต่เท่ๆ ทั้งนั้น  

โดยหน้าปัดหลักก็จะแสดงข้อมูลวัน เวลา การเต้นของหัวใจ เป็นต้น

ส่วนใครที่กังวลว่า Mi Watch จะสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการอะไรได้บ้างคำตอบคือ Mi Watch สามารถทำงานได้ทั้งบน iOS 10.0 และ Android 4.4 ขึ้นไปครับ

หน้าตาของโหมดสุขภาพต่างๆ ที่แสดงผ่านแอปพลิเคชัน Xiaomi Wear

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้สมาร์ทโฟนอะไรก็สามารถใช้งาน Mi Watch รุ่นนี้ได้และมันยังรองรับการแสดงผลภาษาไทยด้วย

ในส่วนของฟีเจอร์แจ้งเตือนนั้นใน Mi Watch มีมาให้ครบเช่นกันครับ สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันจากนาฬิกา ได้ด้วยตนเองโดยผู้ใช้สามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการแจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง เช่น Facebook, Line, Gmail หรือข้อความ SMS

ใครที่กังวลเรื่องของ แบตเตอรี่ เราขอบอกเลยว่า Mi Watch มาพร้อมกับแบตเตอรี่ LiPo ความจุ 420mAh (typ) ที่บอกได้ว่าอึดมากๆ ในการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้นาน 16 วันเลยครับ

สรุปให้ฟังหลังได้ใช้งาน Mi Watch

บอกได้ว่า Mi Watch เป็นสมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่นัดว่าโดดเด่นไม่แพ้ของราคาหลักหมื่นครับ จะผู้หญิงหรือผู้ชายใส่เมื่ออยู่บนข้อมือมันก็ดูดีย์ นั้นยังไม่รวมถึง ฟังก์ชั่นกีฬาที่ครบครันเพื่อคนรุ่นใหม่ผู้ใส่ใจเรื่องสุขภาพ เมื่อเทียบกับราคา 3490 บาท เรียกได้ว่าครบมากๆ หากเทียบกับราคาที่วางจำหน่าย

Mi Watch มีสายให้เลือก 6 สี ได้แก่ Black, Orange, Navy Blue, Beige, Olive และ Yellow  วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 3,490 บาท

สรุปคือ Mi Watch เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ดีๆ Mi Watch จะเป็นอีกอนาคตของสุขภาพบนข้อมือคุณที่มาในราคาที่จับต้องได้ครับ