Microsoft  ชี้การเลือกพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีคือตัวเร่งขับเคลื่อนความสำเร็จ พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์ไทย ฟิวชั่น โซลูชั่น แชร์เรื่องราว Digital Transformation จาก 2 โจทย์ที่แตกต่าง ภายใต้เป้าหมายในการเร่งนำเทคโนโลยีเข้าช่วยเหลือ เพื่อก้าวข้ามความท้าทายจากสภาวการณ์ปัจจุบัน

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งปรับทิศทางธุรกิจด้วยการใช้นวัตกรรมดิจิทัลให้เต็มศักยภาพ เพื่อความคุ้มค่า และเพื่อสร้างโอกาส ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงรอบด้านในสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมชูสองเรื่องราวตัวอย่างจากองค์กรไทยในการปรับธุรกิจด้วยดิจิทัลในยุคโควิด

องค์กรทั่วโลก ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ต่างต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในการที่จะต้องปรับตัวเข้าหาสภาพตลาดและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังการระบาดของโควิด-19 การสำรวจของไมโครซอฟท์ ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ ต่างให้มุมมองที่สอดคล้องกัน โดยกว่า 61% ขององค์กรทั้งในอเมริกาเหนือ และประเทศไทย ได้ตัดสินใจเร่งการทำ Digital Transformation ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก และความต้องการที่เร่งรัดยิ่งขึ้นนี้ก็ทำให้หลายองค์กรต้องการพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยคิด ช่วยทำ เรียนรู้การปรับตัวเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้ตรงกับโจทย์ขององค์กรอย่างรวดเร็วที่สุด

การเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็วภายใต้ความกดดันจากปัจจัยภายนอกนี้ ทำให้หลายองค์กรได้เล็งเห็นถึงช่องว่างที่ยังต้องเติมเต็มในหลายด้าน เช่นในประเทศไทย มีองค์กรราว 39% ที่ยังไม่สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กรมาปรับใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีขึ้นได้ และมีเพียง 47% ที่กล้าใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรปรับเปลี่ยนธุรกิจได้อย่างแท้จริง หรือสร้างศักยภาพความยืดหยุ่นที่เรียกว่า “Resilience” ให้เกิดขึ้น

นายสมศักดิ์ มุกดาวรรณกร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกลุ่มธุรกิจพันธมิตร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด “การที่เราจะเร่งรับมือกับความเปลี่ยนแปลง อย่างกระบวนการ Digital Transformation นี้ จำเป็นต้องมีคู่คิดที่เข้าใจในโจทย์ที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งไมโครซอฟท์ในประเทศไทยนั้น ทำงานกับพาร์ทเนอร์ทั้งเครือข่ายอย่างทั่วถึงเพื่อสนับสนุนให้องค์กรไทยได้ก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปพร้อมกัน โดยขณะเดียวกัน เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีแนวคิดที่น่าสนใจ เช่นตัวอย่างของ ฟิวชั่น โซลูชั่น”

ฟิวชั่น โซลูชั่น พาร์ทเนอร์มือรางวัล แนะแนวทางตีโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัล ใช้นวัตกรรมในมือให้เต็มร้อย

บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด ได้เป็นพาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยในระหว่างนั้น ทีมงานของฟิวชั่นได้มุ่งยกระดับศักยภาพในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง จนสามารถคว้ารางวัล Partner of the Year 2020 ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในสาขา Azure Rookie มาครอง ทั้งยังเป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในการแข่งขัน Power Up Hackathon for Thai SMEs 2021 ด้วยผลงานระบบบันทึกการขายสำหรับธุรกิจค้าปลีก “M365POS”

นายเสกสรร ดุษฎีวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด เผยว่า “สำหรับผม ผลิตภัณฑ์และบริการของไมโครซอฟท์เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนทำงานมาตลอดทุกยุคทุกสมัย และในปัจจุบัน แพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ก็ได้ขยายขอบเขตและความสามารถขึ้นมาอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของคลาวด์และดาต้า จนกระทั่งมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจยุคนี้ สำหรับเราแล้ว หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกับลูกค้าคือการสนับสนุนให้พวกเขาได้เข้าใจและใช้งานเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมือให้ครบถ้วนและเต็มศักยภาพที่สุด ซึ่งในหลายกรณี หลักการนี้ก็สามารถตอบโจทย์ด้านต่างๆ ขององค์กรลูกค้าได้เป็นอย่างดี หรืออาจถึงกับช่วยพลิกโมเดลธุรกิจสู่โลกดิจิทัลได้อย่างเต็มตัวยิ่งขึ้น โดยที่แทบจะไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม”

หนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่น่าสนใจที่สุดภายใต้ความร่วมมือของฟิวชั่นกับไมโครซอฟท์ คือกรณีของบริษัท ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) จำกัด ที่ได้ยกระดับธุรกิจมาสู่ความเป็นผู้ให้บริการด้านอาหารแบบครบวงจร ต่อยอดประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้กว่า 33 ปีในการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจอาหาร ครอบคลุมทั้งร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน ตลาดสด ตลอดจนธุรกิจ SME และโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดค้าปลีก

“ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) เลือกที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาตอบสนองกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ธุรกิจการบริการลูกค้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ความคล่องตัวกลายเป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับธุรกิจอาหารที่มีสินค้าหลากหลายชนิดจากหลายแหล่ง ควบคู่กับความต้องการที่แตกต่างกันอย่างมากของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และหนึ่งในโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ของฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) มากที่สุด ก็คือ Power Apps แพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานในองค์กรด้วยตัวเอง” นายเสกสรรเผย

นายดนุภพ ศัตรูลี้ รองผู้อำนวยการฝ่ายระบบข้อมูลเพื่อการบริหารธุรกิจ บริษัท ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทเทรดดิ้งที่ทีมขายคือหนึ่งในทีมงานหลัก แต่ต้องรับมือทั้งกับการเดินทางไปมาบ่อยครั้ง เอกสารในรูปแบบกระดาษจำนวนมาก และยังมีสินค้าเป็นอาหารที่มีระยะเวลาการจัดส่งและวันหมดอายุแตกต่างกันไปถึงกว่า 1,500 ชนิด เราจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างเครื่องมือดิจิทัลที่สามารถเพิ่มศักยภาพของทีมขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และด้วยคำแนะนำจากฟิวชั่น โซลูชั่น เราได้นำเครื่องมือบน Microsoft 365 ที่เรามีในมืออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Power BI หรือการสร้างแอปพลิเคชันใหม่ด้วยตัวเองใน Power Apps มาพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันของเราเองได้อย่างรวดเร็ว เพียง 2-3 วันก็สามารถเปิดให้ทีมงานทดลองใช้ และยังสามารถปรับแก้ไขตามฟีดแบคที่ได้รับมาได้ทันที เพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้งานของทุกฝ่าย”

ปัจจุบัน ผู้แทนขายสามารถเรียกดูข้อมูลตามจริง ทั้งสต๊อกสินค้า ยอดขายของตัวเอง หรือข้อมูลลูกค้า ได้สะดวกง่ายดายบนแอปพลิเคชันที่ฟู้ดโปรเจ็คพัฒนาด้วยตนเอง ใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ โดยลดขั้นตอนการสื่อสารจากเดิมที่ต้องผ่านหลายฝ่าย ทำให้การเสนอขายสินค้าให้กับลูกค้านั้นมีประสิทธิภาพ ลดข้อมูลผิดพลาด หรือการสื่อสารซ้ำซ้อนลง และปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ส่วน Power BI ยังสามารถติดตามอัปเดทข้อมูลล่าสุดและแสดงผลเป็นรายงานให้ได้เห็นสถานการณ์ล่าสุดแบบทันที โดยที่ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

อีกหนึ่งกรณีตัวอย่างของความร่วมมือด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเห็นผล คือเรื่องราวของบริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ที่จับมือกับไมโครซอฟท์และฟิวชั่น โซลูชั่น ในการวางรากฐานให้กับบริการแท็กซี่แบบครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “แค็บบ์” (Cabb)

นายเสกสรรกล่าวอีกว่า “กรณีของแค็บบ์ ที่ถือกำเนิดได้ไม่นาน เป็นการพิสูจน์ถึงบทบาทของนวัตกรรมคลาวด์ในโลกยุคนี้ ที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เหนือกว่าความคาดหมายในอดีต โดยแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure สามารถเข้ามาช่วยขับเคลื่อนบริการแท็กซี่ของบริษัทให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างที่เรียกได้ว่า end-to-end อย่างสมบูรณ์ ด้วยระบบที่ผสมผสานข้อมูลจากทั้งฝ่ายผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และห้องควบคุมกลางเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้บริการเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด และมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับทุกคน ขณะที่แค็บบ์เอง ก็สามารถบริหารจัดการทรัพยากรระบบได้อย่างแม่นยำ ด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามการใช้งานคลาวด์จริง ซึ่งสามารถเพิ่มและลดได้ตามปริมาณความต้องการใช้งานของลูกค้าในขณะนั้น”

นายสมศักดิ์ เผยอีกว่า “ความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละองค์กร ทำให้ไมโครซอฟท์เลือกที่จะมีบทบาททั้งในด้านการให้บริการด้านเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม และการแนะนำหรือจับคู่ให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์อย่างเหมาะสมกันตามโจทย์ของลูกค้า โดยที่เราพร้อมให้การสนับสนุนทั้งในด้านความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและการแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมเสริมศักยภาพด้านความปลอดภัยควบคู่กับการนำ feedback ของลูกค้าและพาร์ทเนอร์มาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งก็คือการทำให้องค์กรต่างๆ นำเทคโนโลยีไปใช้และก้าวข้ามความท้าทาย เพราะความสำเร็จของลูกค้าคือมาตรวัดความสำเร็จของไมโครซอฟท์และพาร์ทเนอร์ของเราเช่นกัน”

ข่าวประชาสัมพันธ์

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ลือ! Apple เตรียมส่ง “AirPods 3” ลุยตลาดปลายปี
สรุป! สเปกและราคา iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max หลังการเปิดตัว
หลุดราคาของ “Samsung Galaxy S20” และ “Samsung Galaxy Z Flip” ในยุโรป

Leave Your Reply

*