เจฟฟรีย์ หลิว (Jeffery Liu) ประธานหัวเว่ยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวในงานประชุมออนไลน์ด้านความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน-จีน 2564 (ASEAN-China Digital Economy Development and Cooperation Forum 2021)

หัวเว่ย ผู้ให้บริการด้าน ICT ชั้นนำระดับโลกมุ่งมั่นส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลด้านพลังงานเพื่อสนับสนุนความร่วมมือของอาเซียนในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) และการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่ท้าทายในระดับโลก แม้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะลดลงในช่วงปีที่ผ่านมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาและมาตรการล็อกดาวน์ทั่วโลก แต่สภาวะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้งเมื่อระบบเศรษฐกิจกลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง  การปรับตัวไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงกลายเป็นเป้าหมายร่วมกันในปัจจุบันของทุกประเทศทั่วโลก

384101
เจฟฟรีย์ หลิว ประธานหัวเว่ยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในระดับภูมิภาคต่อ 6 จาก 20 ประเทศที่มีความเปราะบางมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นรัฐภาคีสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ อาเซียนได้ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านมาตรการทางด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยก็มีการคาดการณ์ว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะถึงระดับสูงสุดในปี 2573 โดยมีการตั้งเป้าหมายให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero emissions) ในปี 2598

เจฟฟรีย์ หลิว กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั่วโลกโดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (carbon neutrality) เมื่อระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัลเติบโตขึ้น การเร่งรัดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจมีส่วนช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงเรื่องการกีดกันทางการค้า และสามารถทำข้อตกลงการค้าเสรีได้มากขึ้น”

“หัวเว่ยได้นำประสบการณ์ของตนในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางพลังงานและระบบจัดเก็บพลังงาน ตลอดจนความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในระบบ 5G คลาวด์ และเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ มาใช้พัฒนาธุรกิจพลังงานดิจิทัลของตน และนำเสนอโซลูชันทางด้านพลังงานดิจิทัลให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ” ประธานหัวเว่ยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวเสริม

เพื่อส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน หัวเว่ยได้มีการนำเสนอโซลูชันทางด้านพลังงานดิจิทัลในประเทศและภูมิภาคต่างๆ กว่า 170 แห่ง คิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรโลก ณ เดือนธันวาคม 2563 โซลูชันเหล่านี้ได้มีส่วนในการผลิตไฟฟ้า 325 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) จากแหล่งพลังงานทดแทน และช่วยประหยัดกระแสไฟฟ้าได้รวมทั้งสิ้น 10 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 160 ล้านตัน

ในประเทศสิงคโปร์ หัวเว่ย ฟิวชันโซลาร์ โซลูชัน (Huawei FusionSolar Solution) ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มบริษัทซันซีป (Sunseap Group) ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ ในการสร้างทุ่นลอยน้ำนอกฝั่งเพื่อผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ระบบโฟโตโวลเทอิค (Photovoltaic (PV)) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 13,312 ชุด พร้อมระบบแปลงไฟ (inverters) 40 เครื่อง โดยใช้ทุ่นลอยน้ำกว่า 30,000 ทุ่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กลางทะเลครอบคลุมพื้นที่กว่าห้าเฮคตาร์แห่งนี้ คาดว่าจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึงปีละ 6,022,500 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายไฟฟ้าให้แก่โครงการที่อยู่อาศัยขนาดสี่ห้องนอน จำนวน 1,250 หลังคาเรือนบนเกาะได้ และชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 4,258 ตัน

เจฟฟรีย์ หลิว กล่าวต่อว่า “หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมโซลูชันด้าน ICT ครบวงจรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยให้กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราจะร่วมมือกับอาเซียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (carbon footprint) โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่สะอาด รถยนต์ไฟฟ้า และระบบอัจฉริยะในการจัดเก็บพลังงาน เพื่อสร้างสังคมที่มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุด”

ข่าวประชาสัมพันธ์

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
พบกับ Sticker, the Enhanced Album ล่าสุดจาก NCT127 ได้แล้ววันนี้บน Spotify เท่านั้น!
เพราะความเข้าใจ เริ่มต้นที่การเปิดใจ OPPO จุดประกายความรักในครอบครัว ผ่านเรื่องราวของ “Rhythm From Home”
ฟินกันทั่วกรุงเทพฯ LINE TV เนรมิตขบวนรถไฟฟ้า BTS เป็นด้อมคอนเทนต์สุดฮิต

Leave Your Reply

*