ดีแทค ผนึกอาซีฟา ผู้นำด้านโซลูชั่นระบบบริหารจัดการไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า
สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า ระบบควบคุมอัตโนมัติ ระบบบริหารการจัดการพลังงาน เปิดมิติใหม่เครือข่าย 5G นำแว่น VR นำชมโรงงานอาซีฟาครั้งแรก พร้อมเป็นต้นแบบโรงงานขนาดกลาง นำเทรนด์โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) พัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วย IoT ตอบกระแสรักษ์โลก
![](http://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/12/5G_dtac-Asefa_683.jpg)
อาซีฟา ผู้ผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า สำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรม พลิกโฉมการนำชมโรงงานผ่านโลกเสมือนโดยลดการเดินทาง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ รักษาฐานเดิมด้วยมาตรการระยะห่างทางสังคม ทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยผ่านกล้องไร้สายตรวจคนเข้าออก ลดความยุ่งยากการเดินสายและเข้าถึงพื้นที่ทุกจุด
นายวิชัย สุนทรวุฒิกุล กรรมการบริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสวิตช์บอร์ดไฟฟ้าชั้นนำ กล่าวว่า “บริษัทพร้อมยกระดับสู่โรงงานอัจฉริยะ และการบริหารจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาด โดยนำเทคโนโลยี 5G ที่มาพร้อมกับ Virtual Reality หรือ VR เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการเยี่ยมชมโรงงานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยให้ลูกค้าสวมใส่แว่น VR ได้เข้าเยี่ยมชมโรงงาน สามารถสัมผัสผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในมิติที่มากขึ้น พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ลดการเดินทางและเพิ่มความปลอดภัยจากมาตรการระยะห่างทางสังคม”
อาซีฟาได้นำทั้งเทคโนโลยี 5G VR เพื่อให้ลูกค้าได้เยี่ยมชมโรงงานเสมือนจริง และสามารถจะเข้ารับชมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดด้านดิจิทัลให้ลูกค้าได้เข้าถึงข้อมูลของบริษัท และรองรับลูกค้าเยี่ยมชมโรงงานที่มีเฉลี่ย 60 องค์กรต่อปี
“เราหวังที่จะเห็นผู้ให้ความสนใจ เพิ่มขึ้น 10% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์และผู้มาเยี่ยมชมโรงงานโดยปกติ ทั้งยังขยายผลเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ทั้งเจ้าของธุรกิจต่างๆ และ วิศวกรรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี”
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงทุน 5G Surveillance เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้อาซีฟาเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) มากขึ้น โดยจะเสริมระบบเดิมที่ติดตั้งอยู่ ให้ทันสมัยมากขึ้น มีความคมชัดของภาพมากขึ้น และใช้การส่งถ่ายข้อมูลปริมาณมากแบบไร้สาย เพื่อสะดวกติดตั้งโดยไม่ต้องเดินสายสัญญาณเพิ่มเติม ผสมผสานการจดจำใบหน้า (face recognition) เพื่อใช้การควบคุมการเข้าออก (access control) ทั้งส่วนของพนักงานและบุคคลภายนอก และหลีกเลี่ยงการสัมผัส (contactless) ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนความผิดปกติได้ทันที ทำให้การรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/12/1-1size_5G_dtac-Asefa_450.jpg)
นอกจากนั้นบริษัทได้แตกแผนกธุรกิจใหม่ “กลุ่มนวัตกรรม” ที่มีการวิจัยและพัฒนา รองรับการขยายโซลูชั่นใหม่ ที่เพิ่มขีดความสามารถการใช้งาน “ตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า” ที่ตอบรับการใช้งานแห่งอนาคตให้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ทั้งการรองรับการติดตั้งและใช้งานโซลาร์เซลล์ และ การใช้ Internet of Things (IoT) พร้อมระบบติดตามและควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างอัจฉริยะ
อาซีฟา จะเป็นต้นแบบการใช้ประโยชน์หรือ Use case จากเทคโนโลยีที่นำ 5G และ IoT มาประยุกต์ในการสร้าง Modern Factory Environment ผ่านความร่วมมือพันธมิตรกับดีแทค เพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตระดับกลางได้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ดิจิทัล
นายกฤษณ์ ประพัทธศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เรานำเทคโนโลยี 5G ซึ่งเป็นการปรับสภาพแวดล้อม หรือ Environment ของอาซีฟา เพื่อมาขับเคลื่อนสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่สำคัญเพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมการผลิตไทยและดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ หลังไทยเปิดประเทศ”
ดีแทค บิสิเนสมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นสู่พันธมิตรและองค์กรธุรกิจ และมองว่า หัวใจสำคัญสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ประกอบด้วย เครือข่ายการเชื่อมต่อ (Connectivity) การจัดเก็บ บูรณาการ และการวิเคราะห์ข้อมูล ( Data Collection, Data Integration and Analytics)
เครือข่ายดีแทค 5G บนคลื่น 26GHz รองรับการใช้งานระบบกล้องอัจฉริยะในจุดต่างๆ ที่สามารถส่งข้อมูลเรียลไทม์ไปยังห้องควบคุม และใช้รองรับการควบคุมคนเข้าออกในโรงงานที่มีความอัจฉริยะในการรู้และจดจำใบหน้า เป็นส่วนหนึ่งของโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/12/5G_dtac-Asefa_145.jpg)
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า โควิด-19 จะเร่งการเติบโตธุรกิจโซลูชั่นโรงงานอัจฉริยะไทย (Smart Factory Solutions: SFS) ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% จากความต้องการของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ต้องการปรับตัวเพื่อลดการพึ่งพาแรงงาน
โควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตไทยได้เริ่มขยายมุมมองการลงทุนโรงงานอัจฉริยะผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เช่น IoT และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้การผลิตดำเนินไปได้ย่างต่อเนื่องและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาการดำเนินธุรกิจแบบเดิมซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส และยังสร้างความยืดหยุ่นให้แก่สายธุรกิจและการผลิตมากขึ้น โดยอำนวยความสะดวกให้กับการผลิต ทั้งยังเพิ่มความสามารถการแข่งขันของโรงงานอีกด้วย
พร้อมกันนี้ดีแทคยังให้ความสำคัญการทำระบบ สภาพแวดล้อมอัจฉริยะ (Modern Factory Environment) ทั้งการทำระบบเฝ้าระวังและการบริหารจัดการพลังงาน (Smart Surveillance and Energy management)
ข้อมูลจากผลสำรวจ Deloitte 2020 Resources Study, พบว่า กว่า 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภาคอุตสาหกรรม ให้ความสนใจที่จะลดต้นทุนผ่านการลงทุนระบบการบริหารจัดการพลังงาน
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/12/Face_Recognition_5Gdtac-Asefa.jpg)
“ดีแทค บิสิเนสพร้อมนำประสบการณ์ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก ร่วม co-create กับพันธมิตรอย่างอาซีฟา ต่อยอดอุตสาหกรรมไทย เป็นต้นแบบโรงงานขนาดกลาง นำเทคโนโลยี 5G รับมือ next pandemic และพัฒนาโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่จะก้าวสู่ยุคดิจิทัล และพร้อมในการสร้างโซลูชั่นรับกับโครงสร้างอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนไป และเพิ่มขยายและยั่งยืน สำหรับความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคต” นายกฤษณ์ กล่าวในที่สุด
ข่าวประชาสัมพันธ์