Mac Studio พร้อมชิป M1 Max และ M1 Ultra ใหม่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลายในดีไซน์สุดกะทัดรัด
Studio Display มาพร้อมหน้าจอ Retina 5K ขนาดใหญ่ 27 นิ้ว, กล้องอันล้ำสมัยพร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” และระบบเสียงที่คมชัดน่าทึ่ง
วันนี้ Apple เปิดตัว Mac Studio และ Studio Display ซึ่งเป็นเดสก์ท็อป Mac และจอภาพที่ใหม่หมดในทุกรายละเอียด ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีครบทุกสิ่งที่ต้องการสำหรับการสร้างสตูดิโอในฝัน เริ่มจาก Mac Studio ที่พร้อมปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลด้วยขุมพลังอย่างชิป M1 Max และ M1 Ultra ใหม่ ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในโลกสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และความสามารถใหม่เอี่ยมอีกมากมายในดีไซน์สุดกะทัดรัดที่สามารถวางบนโต๊ะให้ผู้ใช้เอื้อมถึงได้ไม่ยาก เรียกได้ว่า Mac Studio เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบนเดสก์ท็อปเครื่องไหน อย่างการเรนเดอร์สภาพแวดล้อม 3D ที่อลังการ และการเล่นวิดีโอ ProRes ได้ถึง 18 สตรีม ในขณะที่ Studio Display คือคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Mac Studio แถมยังใช้งานร่วมกับ Mac ทุกรุ่นได้อย่างสวยงามลงตัว เพราะมีทั้งจอภาพ Retina 5K ขนาดใหญ่ 27 นิ้ว, กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” และระบบเสียง 6 ลำโพงที่คมชัด พร้อมระบบเสียงตามตำแหน่ง ซึ่งเมื่อรวมกัน Mac Studio และ Studio Display พร้อมแล้วที่จะพลิกโฉมทุกพื้นที่ทำงานให้กลายเป็นขุมพลังสำหรับการสร้างสรรค์ ทั้งคู่จะเข้ามาเสริมทัพผลิตภัณฑ์ตระกูล Mac ที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Apple
“เรารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ กับการเปิดตัว Mac Studio และ Studio Display ซึ่งเป็นเดสก์ท็อป Mac และจอภาพที่ใหม่หมดในทุกรายละเอียด” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “Mac Studio เป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพเหลือเชื่อโดยมีชิป M1 Max และ M1 Ultra เป็นขุมพลังขับเคลื่อน พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และดีไซน์กะทัดรัดที่ช่วยให้ผู้ใช้เอื้อมถึงทุกสิ่งที่ต้องการได้ง่ายๆ ส่วน Studio Display ก็โดดเด่นชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วยหน้าจอ Retina 5K ที่สวยสดงดงาม รวมถึงกล้องและระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในจอภาพเดสก์ท็อป”
“เรารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ กับการเปิดตัว Mac Studio และ Studio Display ซึ่งเป็นเดสก์ท็อป Mac และจอภาพที่ใหม่หมดในทุกรายละเอียด” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “Mac Studio เป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพเหลือเชื่อโดยมีชิป M1 Max และ M1 Ultra เป็นขุมพลังขับเคลื่อน พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และดีไซน์กะทัดรัดที่ช่วยให้ผู้ใช้เอื้อมถึงทุกสิ่งที่ต้องการได้ง่ายๆ ส่วน Studio Display ก็โดดเด่นชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วยหน้าจอ Retina 5K ที่สวยสดงดงาม รวมถึงกล้องและระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในจอภาพเดสก์ท็อป”
Mac Studio Mac Studio
มาพร้อมความสามารถที่มากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดในการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพที่เหนือชั้น การเชื่อมต่อหลายประเภทสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง และระบบโมดูลาร์เพื่อการจัดสตูดิโอที่ลงตัว
ดีไซน์เดสก์ท็อปสุดล้ำที่เป็นจริงได้ด้วย Apple Silicon Mac Studio
กำหนดนิยามใหม่ให้กับเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูงโดยมี Apple Silicon ที่ครบเครื่องทั้งขุมพลังและการประหยัดพลังงานเป็นหัวใจสำคัญ เรียกว่าทุกองค์ประกอบภายใน Mac Studio ล้วนออกแบบมาให้ชิป M1 Max และ M1 Ultra สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับขุมพลังและความสามารถในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในรูปทรงที่วางบนโต๊ะได้สบาย
Mac Studio สร้างขึ้นจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียวที่นำมาอัดรีดขึ้นรูปเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสในขนาดเพียง 19.7 ซม. และสูงเพียง 9.5 ซม. จึงกินพื้นที่น้อยมากและวางอยู่ใต้จอภาพส่วนใหญ่ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ Mac Studio ยังมีระบบควบคุมความร้อนในดีไซน์ที่ล้ำสมัยไม่เหมือนใครอยู่เบื้องหลังประสิทธิภาพที่แรงสุดขั้ว โดยที่ระบบนี้ประกอบด้วยตัวเป่าลมสองด้าน ช่องอากาศไหลเวียนที่วางไว้อย่างแม่นยำ และรูที่เจาะไว้ทั้งด้านหลังและด้านล่างของตัวเครื่องกว่า 4,000 รูที่ช่วยให้อากาศไหลผ่านส่วนประกอบภายในและสามารถระบายความร้อนให้กับชิปประสิทธิภาพสูง และ Apple Silicon ยังประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยม Mac Studio จึงทำงานได้เงียบกริบ แม้จะต้องรับมือกับเวิร์กโหลดหนักๆ
พลิกโฉมประสิทธิภาพด้วยชิป M1 Max และ M1 Ultra
Mac Studio ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป M1 Max หรือ M1 Ultra มีประสิทธิภาพ CPU และ GPU ที่แรงสุดพลัง อีกทั้งยังมีหน่วยความจำแบบรวมที่มากยิ่งกว่า Mac รุ่นไหนๆ รวมถึงความสามารถใหม่ๆ ที่ไม่มีเดสก์ท็อปไหนทำได้ ชิป M1 Max จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถยกระดับเวิร์กโฟลว์ในการสร้างสรรค์ไปอีกขั้น ส่วนผู้ที่ต้องการพลังการประมวลผลสูงยิ่งขึ้น ก็ยังมีชิป M1 Ultra
ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับ Apple Silicon ที่จะทำให้ Mac Studio มีประสิทธิภาพเหนือชั้นเกินใคร นั่นเป็นเพราะชิป M1 Ultra พัฒนาต่อยอดมาจากชิป M1 Max และใช้สถาปัตยกรรม UltraFusion แบบใหม่หมด ซึ่งเชื่อมต่อแผ่นวงจรของชิป M1 Max สองตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็น System on Chip (SoC) ที่มีประสิทธิภาพและความสามารถในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีทรานซิสเตอร์ถึง 1.14 แสนล้านตัว ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ประสิทธิภาพของ Mac Studio พร้อมชิป M1 Max
- CPU เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่เร็วที่สุดที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์แบบ 10-core สูงสุด 2.5 เท่า
- CPU เร็วกว่า Mac Pro พร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon แบบ 16-core สูงสุด 50%
- กราฟิกเร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 3.4 เท่า และเร็วกว่า Mac Pro ที่มาพร้อมการ์ดกราฟิกรุ่นยอดนิยมเกิน 3 เท่า
- แปลงวิดีโอได้เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 7.5 เท่า และเร็วกว่า Mac Pro แบบ 16-core สูงสุด 3.7 เท่า
ประสิทธิภาพของ Mac Studio พร้อมชิป M1 Ultra
- CPU เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่เร็วที่สุดที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์แบบ 10-core สูงสุด 3.8 เท่า
- CPU เร็วกว่า Mac Pro พร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon แบบ 16-core สูงสุด 90%
- CPU เร็วกว่า Mac Pro แบบ 28-core สูงสุด 60%
- กราฟิกเร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 4.5 เท่า และเร็วกว่าการ์ดกราฟิกสำหรับ Mac ที่เร็วที่สุดที่มีจำหน่ายในปัจจุบันสูงสุด 80%
- แปลงวิดีโอได้เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 12 เท่า และเร็วกว่า Mac Pro แบบ 28-core สูงสุด 5.6 เท่า
Mac Studio พร้อมชิป M1 Ultra ซึ่งมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นที่ทรงพลังขั้นสุด สามารถเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 8K ได้ถึง 18 สตรีมในแบบที่ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องไหนในโลกทำได้ นอกจากนี้ Mac Studio ยังทลายขีดจำกัดของหน่วยความจำกราฟิกบนเดสก์ท็อปด้วยหน่วยความจำแบบรวมในระบบสูงสุด 64GB
สำหรับชิป M1 Max และมีหน่วยความจำแบบรวมในระบบสูงสุด 128GB สำหรับชิป M1 Ultra ในขณะที่การ์ดกราฟิกระดับเวิร์กสเตชั่นที่ทรงพลังที่สุดที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมีหน่วยความจำวิดีโอเพียง 48GB เท่านั้น และหน่วยความจำที่มากขนาดนี้ก็ถือเป็นการปฏิวัติวงการสำหรับเวิร์กโหลดระดับโปรเลยทีเดียว ยิ่งกว่านั้น SSD ใน Mac Studio ยังมีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุด 7.4GB/s และมีความจุสูงสุดถึง 8TB ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับโปรเจ็กต์ขนาดมหึมาด้วยความเร็วและประสิทธิภาพที่เหลือเชื่อ
หลากหลายการเชื่อมต่อที่เอื้อมถึงได้ง่าย
ดีไซน์ที่กะทัดรัดของ Mac Studio ช่วยให้ผู้ใช้เอื้อมถึงการเชื่อมต่อที่จำเป็นหลายประเภทได้ง่าย ด้านหลังของ Mac Studio มีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 4 พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับจอภาพและอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง, พอร์ต 10Gb Ethernet, พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต HDMI และช่องสัญญาณเสียงระดับโปรสำหรับหูฟังที่มีค่าความต้านทานสูงหรือลำโพงภายนอกที่มีตัวขยายสัญญาณ และยังมี Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 มาให้พร้อม
นอกจากนี้ เนื่องจากผู้ใช้มักต้องเชื่อมต่อและถอดอุปกรณ์อยู่บ่อยๆ อย่างตัวจัดเก็บข้อมูลแบบพกพา Mac Studio จึงมีพอร์ตด้านหน้าให้ใช้งานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างพอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต ซึ่งรองรับ USB 3 ที่ 10Gb/s สำหรับชิป M1 Max และรองรับ Thunderbolt 4 ที่ 40Gb/s สำหรับชิป M1 Ultra ทั้งยังมีช่องใส่การ์ด SD ด้านหน้าให้อิมพอร์ตรูปภาพและวิดีโอได้ง่าย และ Mac Studio ยังรองรับจอภาพอย่างครบครันโดยสามารถเชื่อมต่อกับ Pro Display XDR ได้สูงสุด 4 จอ และทีวี 4K อีกหนึ่งเครื่อง รวมทั้งหมดเกือบ 90 ล้านพิกเซล
Studio Display Studio Display
แบบใหม่หมดคือคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Mac Studio และใช้งานร่วมกับ Mac ทุกรุ่นได้อย่างสวยงามลงตัว เพราะมีทั้งหน้าจอ Retina 5K ขนาด 27 นิ้ว ที่สวยสะดุดตา พร้อมด้วยกล้องและระบบเสียงเต็มอารมณ์ ซึ่งเรียกได้ว่าโดดเด่นชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ และทั้งหมดนี้จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบทุกมิติในแบบที่ผู้ใช้ Mac ชื่นชอบ
ดีไซน์อะลูมิเนียมบางเฉียบ
Studio Display มาในดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมดที่โดดเด่นสะดุดตา พร้อมขอบจอที่แคบและตัวเครื่องเรียบหรูที่ทำจากอะลูมิเนียมทั้งหมด และภายในรูปทรงที่บางเฉียบนั้นก็อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติสุดล้ำมากมาย
อีกทั้งยังมีฐานตั้งในตัวให้ผู้ใช้ปรับความเอียงของจอภาพได้สูงสุด 30 องศา นอกจากนี้เพื่อตอบโจทย์ที่แตกต่างกันไปของพื้นที่ทำงานแบบต่างๆ Studio Display ยังมีตัวเลือกฐานตั้งที่ปรับความเอียงและความสูงได้ พร้อมแขนยึดแบบถ่วงน้ำหนักที่ช่วยให้จอภาพรู้สึกเหมือนแทบจะไร้น้ำหนักขณะปรับ หรือหากต้องการความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถเลือกเป็นอะแดปเตอร์ตัวยึด VESA ที่รองรับการใช้งานทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง
จอภาพ Retina 5K ขนาด 27 นิ้ว ที่เต็มอิ่มสมจริง
จุดเด่นของ Studio Display คือหน้าจอ Retina 5K ขนาด 27 นิ้ว ที่มีมากกว่า 14.7 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยความสว่าง 600 นิต รวมถึงการรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และสีสันมากกว่า 1 พันล้านสี ทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวาครบถ้วนทุกรายละเอียด ยิ่งกว่านั้นยังมีเทคโนโลยี True Tone ที่ปรับอุณหภูมิสีของจอภาพโดยอัตโนมัติตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมเพื่อประสบการณ์การรับชมที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น รวมถึงการเคลือบสารกันแสงสะท้อนระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ช่วยลดแสงสะท้อนจนต่ำมากเพื่อให้ดูได้สบายตาและอ่านง่ายยิ่งกว่า และสำหรับพื้นที่ทำงานที่มีแสงจ้าอย่างบริเวณที่มีแดดส่อง Studio Display ก็มีตัวเลือกกระจก Nano-texture อันล้ำสมัย ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกกับ Pro Display XDR โดยที่กระจก Nano-texture จะทำให้เกิดการกระเจิงของแสง ซึ่งช่วยลดแสงสะท้อนได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดภาพที่มีคุณภาพโดดเด่น
กล้องและระบบเสียงเต็มอารมณ์
Studio Display ซึ่งมีชิป A13 Bionic เป็นขุมพลัง พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานอันน่าทึ่งด้วยกล้องและระบบเสียงที่ล้ำหน้า เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดจอภาพสำหรับการประชุมแบบวิดีโอเลยก็ว่าได้ เพราะมีกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ที่จะจัดให้ผู้ใช้อยู่กลางเฟรมเสมอโดยอัตโนมัติแม้จะเคลื่อนไหวไปมาเพื่อให้การวิดีโอคอลน่าสนใจยิ่งขึ้น
Studio Display มาพร้อมชุดไมโครโฟน 3 ตัวคุณภาพระดับสตูดิโอที่มีระดับเสียงรบกวนต่ำมากเพื่อการโทรและการบันทึกเสียงที่ชัดใส และยังมีลำโพง 6 ตัวที่คมชัด ซึ่งเป็นระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาสำหรับ Mac เพื่อประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น รวมถึงวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่น 4 ตัวที่ช่วยลดความผิดเพี้ยนของเสียง ทำให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่น ในขณะที่ทวีตเตอร์ 2 ตัวให้เสียงกลางที่เที่ยงตรงและเสียงสูงที่ใสสะอาด
นอกจากนี้ลำโพงยังรองรับระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับเพลงและวิดีโอที่มาพร้อม Dolby Atmos จึงสามารถสร้างประสบการณ์การรับชมที่สมจริงระดับโรงภาพยนตร์ ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันจึงเรียกได้ว่า Studio Display มีกล้องและระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในจอภาพเดสก์ท็อป
การเชื่อมต่อที่ราบรื่นไม่มีสะดุด
Studio Display มีพอร์ต USB-C จำนวน 3 พอร์ตที่มีความเร็วสูงสุด 10Gb/s สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วง ตัวจัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์เครือข่ายความเร็วสูงเข้ากับจอภาพ ส่วนพอร์ต Thunderbolt ก็ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อ Studio Display และอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต่อพ่วงอยู่กับ Mac ด้วยสายเส้นเดียวได้ และสายเส้นเดียวกันนี้ยังจ่ายไฟ 96 วัตต์ให้กับโน้ตบุ๊ก Mac ทำให้ Studio Display สามารถชาร์จแบบเร็วกับ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วได้ หรือถ้าอยากจัดสุดยอดห้องตัดต่อหรือสตูดิโอแอนิเมชั่น ก็สามารถเชื่อมต่อ Studio Display กับ MacBook Pro ได้สูงสุด 3 จอ
Magic Keyboard พร้อม Touch ID, Magic Trackpad และ Magic Mouse มีตัวเลือกใหม่ในสีเงิน/ดำที่เข้ากันอย่างลงตัวกับดีไซน์ของ Studio Display ให้ลูกค้าซื้อแยกต่างหากได้
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
Studio Display ใหม่พร้อมให้สั่งซื้อแล้ววันนี้ทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store ในขณะที่ Mac Studio จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้
Mac Studio วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท และ 62,900 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา นอกจากนี้ยังสามารถดูตัวเลือกในการปรับแต่งตามความต้องการได้ที่ apple.com/th/store
ที่มา : www.apple.com/th/newsroom