อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลกที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย
ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม Infinix Zero 5G มาพร้อมกับสโลแกน “5G is NOW” เหนือระดับด้วยชิปเซ็ต 5G ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของค่าย ในช่วงราคาไม่เกิน 8,000 บาท และจัดเต็มครอบคลุมทุกการใช้งาน
Infinix Zero 5G โดดเด่นด้วย MediaTek Dimensity 900 ขนาด 6 นาโนเมตร ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโค้งมนสวยงาม ผสานกับหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว FHD+ และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อมชาร์ตเร็ว 33 วัตต์ เพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมที่ดีที่สุด มอบประสบการณ์การรับชมความบันเทิงรูปแบบต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพรวมถึงการถ่ายภาพที่ทำได้อย่างมืออาชีพ
ด้วยความละเอียดกล้อง 48 ล้านพิกเซล พร้อมการซูมแบบพิเศษสูงสุดถึง 30 เท่า กำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศที่ร้าน True Shop และร้าน Infinix Official Store บน Shopee และ Lazada เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป
เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ ในทุกการใช้งานอย่างรวดเร็วด้วย 5G
Infinix Zero 5G ครั้งแรกกับเทคโนโลยี 5G ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตทรงพลังจาก MediaTek Dimensity 900 ขนาด 6 นาโนเมตร ซึ่งนับเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของค่ายที่ใช้เทคโนโลยี 5G ที่มีการเชื่อมต่อรวดเร็วเป็นพิเศษ พร้อมรองรับแอปพลิเคชันที่มีปริมาณการรับและการส่งข้อมูลสูงๆ เช่น การเล่นเกมและการสตรีมวิดีโอ
ซึ่งช่วยให้สามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแบบไม่มีสะดุด นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Octa-core ที่มีหน่วยประมวลผลด้านประสิทธิภาพแบบ Arm Cortex-A78 สองตัวที่มีความเร็วสัญญาณ 2.4 GHz และหน่วยประมวลผลกราฟิก Arm Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ที่ทำงานสูงสุดถึง 2GHz ที่ให้ทุกการใช้งานมีประสิทธิภาพ โดยผู้ใช้งานจะได้สัมผัสประสบการณ์การตอบสนองที่เร็วขึ้น สามารถใช้งานได้ราบรื่นและเชื่อมต่อได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 900 5G ให้แรมมาถึง 8GB และที่เก็บข้อมูล 128GB พร้อมมีการการันตีความแรงด้วยคะแนน Antutu ที่ได้ไปถึง 486,136 คะแนน โดยให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเหล่าเกมเมอร์ด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi 6 และ 2×2 MIMO ที่ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อ 1.2Gbps ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับ Dimensity 900 พร้อมกับ Bluetooth 5 และ GNSS (L1+L2) แล้ว จึงทำให้การเชื่อมต่อไร้สายประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม และเพิ่มเติมการใช้งานได้อย่างเหนือระดับ
บันทึกทุกช่วงเวลา ด้วยคุณภาพกล้อง 48 ล้านพิกเซล พร้อมซูมพิเศษถึง 30 เท่า
Infinix Zero 5G มอบความเพลิดเพลินให้กับผู้ใช้งาน และทำให้ทุกการถ่ายภาพทำได้อย่างมืออาชีพด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงสุดถึง 48 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับระบบซูมได้ถึง 30 เท่า สามารถจับภาพวัตถุระยะไกลด้วยความละเอียดแบบคมชัด ส่วนกล้องหน้าของรุ่นนี้ มีไฟแฟลชคู่ ผสานกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ AI ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่ช่วยเพิ่มความสนุกและทำให้คุณเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Pro Night Style ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพในที่มืดหรือมีแสงน้อยได้อย่างสวยงาม ทำให้ผู้ใช้บันทึกภาพในช่วงเวลาสุดพิเศษได้อย่างน่าประทับใจ
เหนือกว่าด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว FHD+ พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz
สมาร์ตโฟน Infinix Zero 5G รุ่นนี้มาพร้อมการดีไซน์แบบ Uni-Curve ที่มีความโค้งมน ด้วยวัสดุกระจกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้จับได้อย่างถนัดมือ ที่มาพร้อมกับประสบการณ์การรับชมภาพที่สมบูรณ์แบบด้วยจอภาพขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูงแบบ FHD+ ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง และภาพมีความลื่นไหลต่อเนื่องด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz ซึ่งเหมาะต่อการเล่นเกม รับชมภาพยนตร์ และดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว
แบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33 วัตต์ เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน
มอบประสบการณ์การเล่นเกมยาวนานด้วยแบตเตอรี่อึด ถึก ทน ขนาดความจุ 5000mAh ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วปลอดภัยกำลังไฟ 33 วัตต์ ที่ช่วยให้การชาร์จแบตกลับมามีพลังงาน 100% ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมรองรับการเล่นเกมต่อเนื่องยาวนาน และสามารถสแตนบายการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน และยังมีเทคโนโลยี HyperEngine 3.0 ที่สามารถเชื่อมต่อ 5G ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยไม่ลดประสิทธิภาพการเล่นเกม
แฟนๆ อินฟินิกซ์และสายเกมตัวจริงห้ามพลาด! Infinix ZERO 5G พร้อมเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในราคา 7,999 บาท พร้อมรับฟรีของแถมสุดพรีเมียมอีกมากมาย โดย Infinix ZERO 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (Cosmic Black) สีเหลือง (Skylight Orange) และ สีฟ้า (Horizon Blue)
เริ่มวางจำหน่ายวันแรกตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถซื้อสินค้าได้ที่ร้าน True Shop และร้าน Infinix Official Store บน Shopee และ Lazada