Dyson Zone เปิดตัวเป็นเครื่องกรองอากาศแบบสวมใส่เครื่องแรกจาก Dyson มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดักจับมลพิษได้ทั้งก๊าซ สารก่อภูมิแพ้และฝุ่นละอองที่ยังเป็นหูฟัง มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนและระบบเสียงคุณภาพสูง นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ให้ทั้งเสียงใสและอากาศบริสุทธิ์

Jake Dyson หัวน้าวิศวกรของ Dyson ได้เผยโฉม Dyson Zone หูฟังกรองอากาศเครื่องแรกจาก Dyson ถือเป็นก้าวแรกของ Dyson ในการพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์แบบสวมใส่

โดย Dyson Zone เป็นหูฟังแบบครอบหูคุณภาพสูงที่มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน พร้อมเครื่องกรองอากาศที่ไหลเวียนไปยังจมูกและปาก โดยผลิตภัณฑ์นี้เกิดจากการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาด้านคุณภาพอากาศเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone นี้จะมาช่วยรับมือปัญหาการใช้ชีวิตในเมืองทั้งเรื่องคุณภาพอากาศและมลภาวะทางเสียง

ในขณะที่ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละเมืองใหญ่ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น องค์การอนามัยโลกได้คาดการณ์ไว้ว่า 9 ใน 10 ของประชากรเมืองทั่วโลกจะได้รับอากาศที่มีค่ามลภาวะเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดไว้ โดยถึงแม้การระบาดของ COVID-19 จะทำให้ค่าไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ในอากาศลดลง แต่หลังจากหลายเมืองใหญ่ได้คลายมาตรการและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ก็ทำให้ค่าดังกล่าวกลับมาเท่าเดิม หรือมากกว่าระดับก่อนการล็อกดาวน์ในหลายเมืองทั่วโลก

นอกจากนั้นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับประชากรในเมืองนั่นก็คือมลภาวะทางเสียง โดยมีการคาดการณ์ว่ามีประชากรกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก หรือนับเป็น 20 เปอร์เซ็นของประชากรในทวีปยุโรปได้รับมลภาวะทางเสียงอย่างต่อเนื่องเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด

Jake Dyson หัวหน้าวิศวกรของ Dyson กล่าวว่า “ปัญหามลภาวะในอากาศถือเป็นปัญหาระดับโลก ที่ส่งผลต่อคนทั่วโลกในทุกๆ ที่ที่เราไป ทั้งที่บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ขณะเดินทางไม่ว่าจะเป็นการเดิน จักรยาน หรือแม้แต่ขนส่งสาธารณะ หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone สามารถกรองอากาศได้แม้ในขณะเคลื่อนที่ และแตกต่างจากหน้ากากอนามัยปกติด้วยความสามารถในการส่งอากาศบริสุทธิ์ได้โดยไม่สัมผัสผิวหน้าด้วยการทำงานของตัวกรองคุณภาพสูงและแอร์ปั๊มขนาดเล็ก 2 เครื่อง โดยหลังจากการพัฒนามานานถึง 6 ปี เราตื่นเต้นที่จะนำเสนอประสบการณ์เสียงใสและอากาศบริสุทธิ์ในทุกๆ ที่ที่คุณไป”

dysonzone(2)

ตัวต้นแบบ 500 ชิ้นในระยะเวลา 6 ปี

หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปีของ Dyson ในด้านการไหลของอากาศ การกรองอากาศ และเทคโนโลยีมอเตอร์ รวมไปถึงความเข้าใจเชิงลึกในด้านคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกอาคาร คอมเพรสเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณที่ครอบหูทั้งสองข้างจะนำอากาศจากภายนอกเข้าผ่านตัวกรอง 2 ชั้นและส่งอากาศบริสุทธิ์จากทั้งสองข้างสู่จมูกและปากของผู้สวมใส่ผ่านหน้ากากแบบไม่สัมผัสกับใบหน้า การออกแบบช่องอากาศออกในหน้ากากทำให้มั่นใจได้ว่าการไหลของกระแสอากาศบริสุทธ์จะอยู่บริเวณจมูกและปากเท่านั้นและทำให้เกิดการไหลย้อนกลับของอากาศจากภายนอกน้อยที่สุด Dyson Zone ให้คุณภาพเสียงแบบเต็มอิ่มและบรรเทามลภาวะทางเสียงภายในเมืองด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation (ANC) รวมถึงการการให้เสียงคุณภาพสูงที่ลดการผิดเพี้ยนและการตอบสนองความถี่ในย่าน Neutral frequency response เพื่อที่ให้เสียงในรูปแบบที่ตรงตามต้นฉบับของศิลปินมากที่สุด

Dyson Zone ถูกพัฒนามาเป็นระยะเวลานานกว่า 6 ปีโดยเริ่มต้นจากเครื่องครอบจมูกและปากที่เชื่อมกับเครื่องกรองอากาศในรูปแบบกระเป๋าสะพาย โดยในระหว่างการพัฒนามีเครื่องต้นแบบที่ถูกสร้างขึ้นกว่า 500 ชิ้นและเกิดการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็น Dyson Zone ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศไว้บริเวณต้นคอด้านหลังจนกลายมาเป็นเครื่องกรองอากาศบริเวณหูทั้งสองข้าง หรือจะเป็นที่ครอบจมูกและปากที่กลายมาเป็นหน้ากากที่สามารถถ่ายทอดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบไม่สัมผัสใบหน้าทั้งหมด ทำให้เกิดเครื่องกรองอากาศในรูปแบบใหม่ล่าสุด

ในระหว่างการพัฒนา เป้าหมายของวิศวกรของ Dyson คือการคิดค้นอุปกรณ์ที่สัมผัสใบหน้าน้อยที่สุดเพื่อลดความไม่สบายและการระคายเคืองที่พบบ่อยในอุปกรณ์แบบสัมผัสเต็มใบหน้า ทำให้หน้ากากบริเวณใบหน้าจึงเป็นส่วนที่สำคัญในการออกแบบเพราะการไหลของอากาศและการออกแบบหน้ากากถือเป็นส่วนสำคัญในการส่งอากาศบริสุทธิ์

โดยทั้งรูปทรงของหน้ากากบริเวณด้านข้างและตรงกลางที่กระจายกระแสอากาศบริสุทธิ์ทั้งสองข้างออกแบบมาเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศที่ออกมาจากเครื่องกรองได้ไปสู่จมูกและปากของผู้สวมใส่ในทุกรูปหน้า และเหนือไปกว่าการทดสอบทั่วไป วิศวกรของ Dyson ใช้หุ่นจำลองการหายใจที่ติดตั้งปอดจำลองที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์และเซนเซอร์ เพื่อจำลองการหายใจของมนุษย์ในห้องควบคุม และตรวจวัดค่ามลภาวะในจมูกและลำคอเพื่อทดสอบความสามารถในการกรองอากาศที่สุดท้ายจะเข้าสู่ของปอดจำลองของหุ่นทดสอบที่ชื่อแฟรงค์

คอมเพรสเซอร์ในบริเวณที่ครอบหูทั้งสองข้างถูกออกแบบมาอย่างแม่นยำเพื่อให้ดึงอากาศเข้ามาผ่านตัวกรอง 2 ชั้น โดยทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดบริเวณหูฟัง โดยตัวกรองแบบ Negatively Charged Electrostatic จะดักจับอนุภาคขนาดเล็กเช่นสารก่อภูมิแพ้และอนุภาคมลภาวะจากกิจกรรมในเมืองเช่นฝุ่นละอองจากการเบรก การเผาไหม้จากกิจกรรมทางอุตสาหกรรม หรือฝุ่นจากการก่อสร้าง ในขณะที่ตัวกรองชั้นที่ 2 เป็นตัวกรองคาร์บอนที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมเพื่อดักจับก๊าซมลพิษที่พบได้บ่อยในตัวเมืองเช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) โดยคอมเพรสเซอร์จะพาอากาศบริสุทธิ์ไปสู่จมูกและปากผ่านหน้ากากแบบไม่สัมผัสใบหน้าที่ออกแบบสำหรับการถ่ายเทอากาศไปสู่จมูกและปากโดยเฉพาะ

dysonzone(3)

สร้างสรรค์และออกแบบด้วยแนวคิดทางวิทยาศาสตร์

นับเป็นก้าวแรกสู่โลกของเครื่องเสียงของ Dyson ซึ่งวิศวกรของ Dyson ก็ได้นำเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาใช้มากกว่าที่จะใช้วิธีที่ยึดติดกับ ‘Golden Listener’ แบบทั่วไป ทีมวิศวกรเครื่องเสียงและผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงของ Dyson ต้องการที่จะสร้างเครื่องเสียงที่ขับเคลื่อนโดยผลการทดลองที่เกิดจากการทดลองซ้ำๆ ซึ่งผลที่ได้คือเครื่องเสียงที่ให้เสียงได้อย่างสมบูรณ์และชัดเจน พร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนอันล้ำหน้า

โดยถึงแม้จะถูกจำกัดเรื่องพื้นที่ของอุปกรณ์แบบสวมใส่ ทีมวิศวกรของ Dyson ได้พัฒนาระบบ Neodymium Electroacoustic ประสิทธิภาพสูงไว้ในหูฟังทั้งสองข้าง ด้วยการตอบสนองความถี่ที่กว้าง ความสมดุลของเสียงทั้งซ้ายขวา และการผิดเพี้ยนของเสียงที่น้อยมากจนมนุษย์ไม่สามารถฟังออกได้ ทำให้สามารถนำเสนอประสบการณ์เสียงแบบที่ตรงกับความตั้งจของศิลปินมากที่สุด

ในระหว่างกระบวนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการพัฒนา ทีมวิศวกรของ Dyson ได้พัฒนาระบบตัดเสียงรบกวนแบบล้ำหน้าที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของการลดทอนเสียงรบกวนแบบปกติและระบบ ANC ที่มีการจัดวางไมโครโฟนที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้ขณะเดินทาง นอกจากนั้นที่ครอบหูยังประกอบไปด้วยโฟมแน่นคุณภาพสูงและที่ครอบหัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้รู้สึกสบายขณะใส่แต่ก็แน่นเพียงพอที่จะลดเสียงจากภายนอก

ออกแบบมาให้ใส่สบาย

เรารู้ดีว่าแต่ละคนมีรูปทรงศีรษะที่แตกต่างกัน และด้วยการที่เป็นอุปกรณ์แบบสวมใส่ชิ้นแรกจาก Dyson ทีมวิศวกรจึงต้องคิดเกี่ยวกับความสบายในวิธีใหม่ๆ จากการค้นคว้าวิจัยเชิงลึกเรื่องรูปทรงของศีรษะและใบหน้าทำให้ทีมวิศวกรสามารถออกแบบ Dyson Zone ให้ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในทุกๆ รูปทรงของหน้า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องแรงกดของที่ครอบหัว วัสดุที่ใช้ในหน้ากาก การปรับขนาดของอุปกรณ์และในมิติอื่นๆ เกี่ยวกับการใส่หูฟังที่สบายที่สุด

Dyson Zone ถูกออกแบบให้กระจายน้ำหนักไปในแต่ละข้างของศีรษะมากกว่าที่จะกดน้ำหนักทั้งหมดที่ด้านบน โดยการออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจากอานม้าที่ออกแบบให้โค้งเว้าไปตามหลังของม้าเพื่อกระจายน้ำหนักไปสู่ด้านซ้ายและขวา ซึ่งถูกใช้ในการออกแบบหมอนรองบริเวณศีรษะในส่วนที่ครอบหัว

ในส่วนของการออกแบบที่ครอบหู มีสามปัจจัยสำคัญในการออกแบบนั่นก็คือ ความสบาย ความมั่นคง และการลดทอนเสียงจากภายนอก ซึ่งแน่นอนว่าวัสดุในการทำที่ครอบหูนั่นก็คือโฟม แต่ทีมวิศวกรของ Dyson ได้ลงลึกไปในส่วนประกอบของโฟมแต่ละชนิดเพื่อเสาะหาชนิดที่เหมาะที่สุดในการทำที่ครอบหูโดยวัดจากความแน่นของโฟม อัตราการอัดแน่น และการคืนตัวของโฟม

ซึ่งทั้งหมดนี้เองจะส่งผลถึงแรงกดไปสู่ศีรษะ โดยในการเลือกโฟมที่ดีที่สุดสำหรับใช้ในที่ครอบหูจะต้องพิจารณาหลายปัจจัยให้สมดุลกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมใส่ที่สบาย ความแน่นขณะครอบหู และที่สำคัญที่สุดคือจะช่วยในด้านของเสียงได้อย่างไร การเพิ่มพื้นที่สัมผัสของโฟมครอบหูเป็นการทำให้แนบสนิทมากขึ้น เพื่อลดทอนเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีกว่า โฟมของ Dyson Zone  จึงถูกตั้งใจออกแบบมาให้แบนแนบไปกับผิวสัมผัสมากกว่าหูฟังแบบเดิมเพื่อความสบายและการลดเสียงรวมไปถึงการจัดองศาให้ตรงกับหูเพื่อความสบายขั้นสุด

dysonzone(4)

ร่วมพัฒนาด้วยทีมจากทั่วโลก

หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone ร่วมออกแบบโดยทีมวิศวกรจากหลายภูมิภาค ทั้งสหราชอาณาจักร สิงค์โปร์ มาเลเซีย และจีน โดยฐานหลักในการพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ได้อยู่ที่สำนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่เอง การพัฒนาแอปพลิเคชันถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การทำงานและเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นและจัดเก็บข้อมูลเรื่องมลภาวะในอากาศและมลภาวะทางเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นแล้วการเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่สวมไปนอกอาคาร ความแข็งแรงทนทานเป็นอีกสิ่งสำคัญ

โดยหูฟังกรองอากาศ Dyson Zone ได้ถูกทดสอบอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ทดสอบในห้องควบคุมอุณหภูมิ ทดสอบการตก ทดสอบความทนทานของวัสดุ ความแข็งแรงของปุ่มกด และอื่นๆ อีกมากมาย โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบที่สำนักงาน Dyson Malaysia Development Centre ในประเทศมาเลเซียมีส่วนสำคัญในการทดสอบการใช้งานในประเทศเขตร้อนชื้นเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากการทดสอบในประเทศอังกฤษ

หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone

  • นำเสนอประสบการณ์ใหม่ของอุปกรณ์กรองอากาศและหูฟังเสียงคุณภาพแบบสวมใส่
  • ตัวกรองแบบ Electrostatic สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 1 ไมครอนได้ถึง 99% ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ หรือแบคทีเรีย
  • ตัวกรองคาร์บอนโพแทสเซียม สามารถดักจับก๊าซที่พบได้ในเมืองเช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และโอโซน (O3)
  • หน้ากากลดการสัมผัสด้านหน้าถูกออกแบบมาเพื่อพากระแสอากาศจากทั้งสองข้างไปสู่จมูกและปากของผู้สวมใส่ ออกแบบมาสำหรับใช้นอกอาคารและในสภาวะที่มีลมจากภายนอก
  • อุปกรณ์ที่เล็กที่สุดของ Dyson ในขณะนี้ หัวใจของหูฟังกรองอากาศ Dyson Zone อยู่ที่มอเตอร์ทั้งสองที่อยู่บริเวณที่ครอบหูทั้งสองข้าง
  • ระบบตัดเสียงรบกวนประสิทธิภาพสูงและระบบ Neodymium Electroacoustic ให้เสียงที่สมบูรณ์และเต็มอิ่ม ตรงตามต้นฉบับของศิลปิน
  • ในการพัฒนา Dyson Zone ได้ร่วมพัฒนาโดยนักเรียนจาก Dyson Institute of Engineering and Technology จำนวน 15 คนที่สนับสนุนการพัฒนาในหลากหลายด้านตั้งแต่ การพัฒนาด้านเสียง ระบบไฟฟ้า และระบบไหลเวียนของอากาศ
  • 3 โหมดตัดเสียงรบกวน: Isolation, Conversation และ Transparency
    • โหมด Isolation: เป็นการตัดเสียงรบกวนระดับสูงสุด เพื่อการฟังเพลงแบบเต็มอิ่มไร้การรบกวน หรือเวลาที่ต้องการโฟกัสงานตรงหน้า
    • โหมด Conversation: จะเปิดโหมดนี้อัตโนมัติเมื่อเลื่อนหน้ากากลง ปิดการทำงานของเครื่องกรองอากาศอัตโนมัติเพื่อลดการใช้แบตเตอรี่
    • โหมด Transparency: โหมดนี้ออกแบบเพื่อให้ผู้สวมใส่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว โดยการเพิ่มเสียงที่มีความสำคัญ เช่น ไซเรนเสียงรถพยาบาล หรือประกาศต่างๆ
  • โหมดกรองอากาศ 4 โหมด: low, medium, high, และ auto ในแต่ละโหมดจะตอบสนองการหายใจในแต่ละรูปแบบที่เกิดจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยในโหมด auto จะมีการวัดความเร็วโดยเครื่องวัดความเร็วในอุปกรณ์และปรับระหว่างโหมด low, medium, high อัตโนมัติ
  • การใช้งาน 4 รูปแบบ:
    • ใช้ทั้งเครื่องกรองอากาศและหูฟัง ต้องสวมหน้ากากไว้
    • สามารถใช้หูฟังอย่างเดียวได้ โดยสามารถขยับหน้ากากได้
    • ในกรณีที่ต้องสวมที่ปิดปากและจมูกในที่สาธารณะ ภายในกล่องมีอุปกรณ์ที่ปิดปากและจมูกมาให้
    • ในกรณีที่ต้องสวมหน้ากากแบบมาตรฐาน FFP2 ในที่สาธารณะ ภายในกล่องมีอุปกรณ์ที่ปิดปากและจมูกตามาตรฐาน FFP2 มาให้

หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 นี้ โดยช่วงเวลาจะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แบบละเอียดและรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการวางจำหน่ายจะประกาศในเร็วๆ นี้

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เลอวอย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหล่าคนรักสัตว์ กับเครื่องฟอกอากาศรุ่นล่าสุด “Levoit Vital 200S”
Xiaomi เปิดตัว SmartMi Full DC Inverter แอร์อัจฉริยะ เงียบและประหยัด ราคาหมื่นเดียว
Sony เคาะราคา Sony Alpha 7C ในไทย 61,990 บาท พร้อมเลนส์ 72,990 บาท

Leave Your Reply

*