Mobvoi บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชั้นนำที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ Google และ Volkswagen เปิดตัว ทิควอทช์ ซี 2 (TicWatch C2) เจเนอเรชั่นที่ 2 ของสมาร์ทวอชรุ่นคลาสสิคจากทิควอทช์ ในประเทศอังกฤษ เปิดพรีออเดอร์พร้อมกันทั่วโลก เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยเดือนพฤศจิกายน 61 นี้ โดยบริษัทอินโนเวชั่น อีทีซี

นายธรรมสร มีรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง (Co-Founder) บริษัท อินโนเวชั่นอีทีซี จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวของ TicWatch ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัท ได้เริ่มทำตลาด TicWatch ในประเทศไทยมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2561 นี้ ยอดขาย TicWatch ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกรุ่น

โดยเฉพาะรุ่น TicWatch Pro กำลังที่เป็นที่นิยมของตลาดผู้ใช้สมาร์ทวอชในเมืองไทยอย่างมาก ล่าสุด Mobvoi จึงได้เปิดตัวรุ่นใหม่ TicWatch C2 เจเนอเรชั่นใหม่ของ TicWatch Classic ที่จะมาพร้อมตัวเรือนแสตนเลส สตีล สายหนังแท้ รองรับการใช้งานระบบ NFC Payment ติดตามข้อมูลสุขภาพ และฟิตเนสได้ รวมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย

“TicWatch C2” เป็นสมาร์ทวอชระบบ Wear OS โดย Google™ ที่มีแอพลิคเคชั่นสำหรับสมาร์ทวอชมากมาย และมีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกนับพัน พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานผู้ช่วย Google Assistant ชูจุดเด่นที่วัสดุระดับพรีเมียม สวย ดูดี ทน เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตัวเรือนด้านหน้าผลิตจากแสตนเลสสตีล ที่มาพร้อมกับสายหนังแท้หรูหรา

หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว (360 x 360 พิกเซล) เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 4.1 และไวไฟ 802.11 b/g/n มี GPS GLONASS Beidou  มีเซ็นเซอร์ตรวจจับด้านสุขภาพและการออกกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหว การหมุน ทิศทางการเคลื่อนที่ แบตเตอรี่ความจุ 400 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วัน

และฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ ครบครัน อาทิ สามารถสั่งงานโดยตรงด้วยเสียงผ่าน Google Assistant™ ใช้ Google Pay ชำระเงินได้โดยตรง ผ่านระบบ NFC Payment มีฟีเจอร์กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68 (IP68 Water and dust resistant) โดยจุดเด่นอีกประการที่สำคัญคือเพิ่มขนาดใหม่สำหรับผู้มีข้อมือเล็ก ในรุ่น TicWatch C2 18mm (มีเฉพาะตัวเรือนสีโรสโกลด์) ที่ตัวเรือนมีความบางพิเศษ คือหนาเพียง 12.80 มิลลิเมตรที่มากับสายหนังแท้ขนาด 18 มิลลิเมตร

โดยในรุ่นปกติ TicWatch C2 20mm ที่มีให้เลือก 2 สีคือตัวเรือนสีดำ และสีแพลตตินั่ม (เงิน) จะมีความหนา 13.10 มิลลิเมตร และมากับสายหนังแท้ขนาด 20 มิลลิเมตร

นายชนินทร์ มโนชญากร ผู้ร่วมก่อตั้ง (Co-Founder) บริษัท อินโนเวชั่นอีทีซี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า TicWatch C2 จะเข้ามาสร้างสีสันให้กับตลาดผู้ใช้สมาร์ทวอชในเมืองไทยได้อีกรุ่น ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมที่การันตีโดยบริษัทชั้นนำอย่าง Mobvoi และราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ทาง อินโนเวชั่นอีทีซี ยังสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ด้วยการรับประกันสินค้าในระยะเวลา 1 ปี และสามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทันทีภายใน 7 วัน หากเครื่องมีปัญหา  อย่างไรก็ตามคาดว่าการมาของ TicWatch C2 จะสามารถขยายกลุ่มผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้เลือกใช้สมาร์ทวอชเรือนแรก และกลุ่มผู้ใช้ที่เคยใช้เจเนอเรชั่นแรกของทิควอท์ชคลาสสิค โดย TicWatch C2 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนธันวาคม  2561 ที่จะถึงนี้ ในราคาระหว่าง 7,000 – 8,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาด)

ปัจจุบัน TicWatch ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยได้แก่รุ่น TicWatch C รุ่น TicWatch S&E รุ่น TicWatch Pro ที่ร้าน B2S สาขาเซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, B2S พัทยา, B2S ชลบุรี ร้าน Be trend สาขาเอ็มโพเรียม และสยามพารากอน หรือสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ Lazada, Shopee, facebook fanpage: Ticwatch Thailand และ www.ticwatchthailand.com

ข้อมูลทางเทคนิค TicWatch C2 20mm

  • รุ่น TicWatch C2 20mm
  • ขนาด 42.83 x 42.83 x 13.10
  • สี Black, Platinum
  • ตัวเรือน แสตนเลสสตีล (ด้านหน้า)
  • สาย หนังแท้ (เปลี่ยนสายได้) ขนาด 20mm
  • ระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google
  • สามารถใช้ได้กับ Android, iPhone
  • ระบบประมวลผล Qualcomm® Snapdragon Wear™ 2100
  • หน้าจอ 1.3″ AMOLED (360 x 360 px)
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth v4.1, WiFi 802.11 b/g/n
  • GPS GPS + GLONASS + Beidou
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Heart-rate sensor
  • NFC payments Yes (Google Pay)
  • แบตเตอรี่ 400mAh (2 วัน)
  • กันน้ำ IP68

ข้อมูลทางเทคนิค TicWatch C2 18mm

  • ขนาด 42.83 x 42.83 x 12.80
  • สี Rose Gold
  • ตัวเรือน แสตนเลสสตีล (ด้านหน้า)
  • สาย หนังแท้ (เปลี่ยนสายได้) ขนาด 18mm
  • ระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google
  • สามารถใช้ได้กับ Android, iPhone
  • ระบบประมวลผล Qualcomm® Snapdragon Wear™ 2100
  • หน้าจอ 1.3″ AMOLED (360 x 360 px)
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth v4.1, WiFi 802.11 b/g/n
  • GPS GPS + GLONASS + Beidou
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Heart-rate sensor
  • NFC payments Yes (Google Pay)
  • แบตเตอรี่ 400mAh (2 วัน)
  • กันน้ำ IP68
SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Apple เปิดตัว “AirPods Pro” รุ่นใหม่พร้อมเปิดขายวันที่ 30 ตุลาคมนี้ในราคา 9,490 บาท
ของมันต้องมี! ลำโพง Motorola แบบไร้สาย รุ่น Sonic Maxx 810 เอาใจสายปาร์ตี้
Huawei เปิดตัว “Huawei Watch GT 2” ดีไซน์ใหม่ แบตใช้ได้ 2 สัปดาห์

Leave Your Reply

*