เสียวหมี่ ประเทศไทย ร่วมแสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่าน ภาพยนตร์สั้น “The Warrior” จากผลงานผู้กำกับคนไทย เฟรม-เกษมพันธ์ ภายใต้โปรเจกต์ PrimeTime Mini Series

เสียวหมี่ สานต่อความสำเร็จของ Xiaomi Studios ผ่านโปรเจกต์พิเศษ PrimeTime Mini Series ที่ในปีนี้ได้รวบรวมครีเอเตอร์มือดีจาก 6 ประเทศมาสร้างสรรค์ผลงาน โดยประเทศไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ PrimeTime Mini Series นี้ด้วย

Xiaomi Studios คือ โปรเจกต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นฮับของการผลิตและแชร์คอนเทนต์ของเหล่าบรรดาครีเอเตอร์ทั้งหลายตั้งแต่ปี 2019 โดย Xiaomi ไม่เพียงแค่ตั้งใจจะสรรสร้างสุดยอดภาพยนตร์จากสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่เท่านั้น แต่เรายังอยากให้พื้นที่นี้เป็นแพลตฟอร์มของเหล่าครีเอเตอร์ทั่วโลกที่จะปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกผลิตโดยสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่อีกด้วย

สำหรับประเทศไทย คนไทยเราก็ได้มีโอกาสร่วมสร้างสรรค์และแชร์ผลงานภายใต้โปรเจกต์ Xiaomi Studios ครั้งแรกในปี 2020 และในปีนี้ ประเทศไทยได้เป็นหนึ่งในหกประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ไทย สเปน เยอรมนี อิตาลี และโปแลนด์ สำหรับโปรเจกต์ PrimeTime Mini Series ที่จะสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้นจากราวที่น่าสนใจในแต่ละประเทศ ด้วยมุมมองในการถ่ายทำที่แปลกใหม่จากสมาร์ทโฟน Xiaomi 12 Series

primetime-03

ในปีนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ได้คัดเลือก ‘เฟรม-เกษมพันธ์ จุจินดาเลิศ’ ผู้กำกับที่สร้างผลงานการกำกับมิวสิควิดีโอ และภาพยนตร์แฟชั่น โดยจบการศึกษาจาก คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เอก Visual communication design ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการโฆษณาที่มีผลงานโดดเด่นในแง่ของการตีความเชิงสัญลักษณ์ ร่วมกับการออกแบบภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนคว้าผลงาน Cannes Silver Lions จากโปรเจกต์ Hairtag ในปี 2014 และอีกหลายรางวัลตามมา

จากผลงานที่มีเอกลักษณ์ และประสบการณ์กำกับที่ผ่านมา จึงได้รับเลือกจากทาง Xiaomi Studios เพื่อเข้าร่วมโปรเจกต์พิเศษ PrimeTime Mini Series ในการสื่อสารความเป็นไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ผ่านการนำเสนอเรื่องราวความเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ และศิลปะแม่ไม้มวยไทยใน The Warrior

“เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากครับ ที่ได้ร่วมงานกับ Xiaomi และถือเป็นความท้าทายมากๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่ใช้มือถือถ่ายภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ทำให้ต้องทำการบ้าน เรียนรู้ความสามารถของ Xiaomi 12 Pro อย่างเจาะลึก ก่อนนำมาถ่ายทอดเรื่องราวนี้ออกมา” เฟรม-เกษมพันธ์ กล่าว

โดยที่มาของเรื่องราวที่ผู้กำกับเฟรมเลือกนำมาถ่ายทอดผ่านมุมมองของ Xiaomi 12 Pro ก็คือการหยิบจุดเด่นของประเทศไทยในมุมมองของสายตาคนทั้งโลกอย่างศิลปะการต่อยมวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่อยู่คู่กับคนไทย และสร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ผสมผสานกับเรื่องราวความรู้สึกของการเป็นนักสู้ที่ยืนหยัด ไม่ยอมแพ้ กับอาการเมาหมัดที่นักมวยหลายคนประสบพบเจอ ผ่านมุมมองความคิดของตัวละครที่สามารถพาผู้ชมเข้าถึงจิตวิญญาณความรู้สึกในแต่ละช่วงเวลา ด้วยมุมมองของภาพที่ผ่านการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์ของเฟรมได้อย่างน่าสนใจ

primetime-05

ด้วยจุดเด่นของสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกล้องปกติ ทำให้ ‘เฟรม’ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบในการเคลื่อนที่ และปรับมุมมองในการเข้าไปถ่ายทำในจุดต่างๆ ที่กล้องปกติไม่สามารถทำได้ เมื่อรวมกับความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ของการถ่ายทำ ได้ด้วยสมาร์ทโฟน Xiaomi 12 Pro รุ่นนี้

ร่วมติดตามผลงานของ เฟรม-เกษมพันธ์ ในชื่อ The Warrior จากโปรเจกต์ PrimeTime Mini Series ได้ที่ช่องทาง YouTube ของ Xiaomi Thailand ที่ https://youtu.be/fF3UbV8-UZY หรือ Website ของ Xiaomi ที่ http://s.mi.com/zVcRoNaC

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ช้อปปี้ผนึกกำลังเจวายพี ประกาศเปิดตัว “JYP Official Shop” บนช้อปปี้
แคสเปอร์สกี้เผยผู้ใช้เอเชียแปซิฟิก 15% ยอมรับการชำระเงินดิจิทัลในช่วงโควิด
เอไอเอส ผนึก สามย่านมิตรทาวน์ ปั้นเป็นมิกซ์ยูสนวัตกรรรมแห่งใหม่

Leave Your Reply

*