ซีค (SEEK) บริษัทต้นสังกัดของ จ๊อบส์สตรีท (JobStreet) และ จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) แพลตฟอร์มจัดหางานชั้นนำตอกย้ำความมุ่งมั่นในการไม่สนับสนุนการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมและการค้าแรงงานทาสสมัยใหม่ที่บุคคลตกอยู่ในการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่น ถูกควบคุม ถูกบังคับใช้งานทั่วทั้งภูมิภาค ด้วยการแต่งตั้ง สกอตต์ สไตล์ส เป็น ที่ปรึกษาพิเศษเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรมในเอเชีย
ดัชนีแรงงานทาสโลก (Global Slavery Index) ประมาณการว่า ในประเทศแถบเอเชียที่ซีคดำเนินงานอยู่ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย มีเหยื่อการค้าแรงงานทาส 6 คน ในทุก ๆ 1,000 คน ซึ่งเทียบเท่ากับชาย หญิง และเด็กจำนวน 2.9 ล้านคน กำลังอยู่ตกอยู่ในวังวนของการค้าแรงงานทาสในภูมิภาคนี้
ปีเตอร์ บิโธส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีค เอเชีย กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรที่มุ่งพัฒนาชีวิตผู้คนนับล้านผ่านอาชีพการงานที่ดีขึ้น เรามีส่วนรับผิดชอบในการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า สิ่งแวดล้อมในตลาดดิจิทัลของเราปลอดภัยสำหรับผู้หางานทั่วทั้งภูมิภาค เราให้ความสำคัญ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้และชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้คนหางานสามารถหาตำแหน่งงานที่ดี และเพื่อให้ผู้ประกอบการว่าจ้างงานอย่างมีจริยธรรม พร้อมป้องกันความเสี่ยงเรื่องการค้าแรงงานทาสผ่านประกาศหางานที่อาจถูกนำใช้เป็นรูปแบบการหลอกลวงเพื่อล่อลวงแรงงานมาโดยไม่สมัครใจ เราได้สำรวจผู้ที่เหมาะสมทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกมาระยะหนึ่ง เพื่อค้นหาผู้บริหารที่สามารถเป็นผู้นำ และทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับปัญหานี้ การแต่งตั้งคุณสกอตต์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเราเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความพยายามอย่างต่อเนื่องและยาวนานของเราในการช่วยยุติปัญหาแรงงานทาสในภูมิภาคนี้”
สกอตต์ จะทำงานร่วมกับทีมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ความรับผิดชอบหลักคือการระบุความเสี่ยง และจุดเปราะบางในกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มของซีค ที่อาจถูกผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบ นอกจากนี้เขาจะยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการ
และวิธีการต่าง ๆ ในการสร้างความโปร่งใสเพื่อให้ผู้หางานตระหนักถึงสิทธิที่พึงมี พร้อมทั้งเฝ้าระวังการจ้างงานที่ไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้างงานที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานข้ามชาติ ผู้ใช้แรงงาน และแรงงานที่ทำงานที่บ้าน เพื่อให้ผู้สมัครงานที่ใช้แพลตฟอร์มการจ้างงานของซีคได้รับการจ้างงานที่เป็นธรรมและปลอดภัย นอกจากนี้ สกอตต์ยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการเป็นผู้นำในการคิดริเริ่มกับพันธมิตรและรัฐบาลทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อส่งเสริมแนวทางปฏิบัติในการจ้างงานที่เป็นธรรม และยุติการใช้แรงงานทาสทุกรูปแบบ
สกอตต์จะทำงานขึ้นตรงกับ มิเชล มานิการ์ท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ประจำภูมิภาคเอเชีย มิเชลแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งครั้งนี้ว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับสกอตต์เข้าร่วมงานกับซีค และเราเชื่อว่าเขาจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้ความมุ่งมั่นเรื่องการจ้างงานที่เป็นธรรมในเอเชียของเราให้ก้าวหน้าไปอีก ซีคไม่เพียงแต่จะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของเขาเกี่ยวกับสิทธิแรงงาน และประเด็นต่าง ๆ ในเรื่องแรงงานในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังได้รับความทุ่มเทจากเขาในเรื่องสิทธิมนุษยชนและความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกที่แท้จริงในภูมิภาคนี้”
สกอตต์กล่าวว่า “ผมเชื่อเสมอว่าการบังคับใช้แรงงานและการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมเป็นปัญหาของโลกที่แก้ไขได้ ความคืบหน้าที่เราเห็นในช่วงเก้าปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าความเชื่อนี้เป็นความจริง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ฝังลึกซึ่งจำเป็นต้องมีการแทรกแซงตลาดทั่วทั้งภูมิภาคอย่างต่อเนื่องยาวนาน แพลตฟอร์มของซีคเป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับมิเชล ปีเตอร์ และทีมงานเพื่อทำให้ความพยายามนี้ประสบความสำเร็จสูงสุด”
ทั้งนี้ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ที่ต้องการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการจ้างงานอย่างเป็นธรรมในประเทศไทย คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การแต่งตั้งและขึ้นดำรงตำแหน่งของที่ปรึกษาพิเศษเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรมในครั้งนี้ ตอกย้ำความตั้งใจของซีค เอเชีย ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงและเคารพสิทธิที่คนหางานพึงมีเป็นหลักสำคัญ สำหรับในประเทศไทย เราได้มีการสร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมแพลตฟอร์มหางานอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีก่อนหน้า จ๊อบส์ดีบี ได้สื่อสารและให้ความรู้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับจ้างงานโดยไม่จำกัดสถานภาพทางสังคม ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการบางส่วนเข้าใจและเริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายรับสมัครงาน โดยลดข้อจำกัดด้านสถานภาพลง และเปิดโอกาสให้คนหางานที่มีศักยภาพได้แสดงความสามารถมากขึ้น ปีนี้จะเป็นการพูดถึงสิทธิพื้นฐานต่าง ๆ ของคนหางานที่ผู้ประกอบการพึงเคารพ โดยเน้นไปที่การแนะนำเกี่ยวกับหลักปฎิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน ภายใต้กฎหมายแรงงาน ครอบคลุมเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพราะเราเชื่อว่าการจ้างงานที่เป็นธรรม คือปัจจัยแห่งความสําเร็จที่ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่าของธุรกิจ แต่ยังเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ธุรกิจเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน”