การเปิดตัว iPhone 14 Series และเปิดจองกันแล้วอย่างเป็นทางการ แน่นอว่ามีผู้ใช้งาน iPhone รุ่นเดิมจำนวนมากที่รอคอยการเปลี่ยนแปลงหรือการอัพเกรดรุ่นนี้หรือไม่

อย่างที่ทราบกันดีว่าการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 14 Series ส่วนสำคัญประกอบด้วยการขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม, การตรวจจับอุบัติเหตุจากการชน, เพิ่มคุณภาพกล้องและอื่นๆ พอเป็นที่ทำให้น่าตื่นเต้น หรือบางคนบอกว่า ลูกค้าบางรายอาจจะตั้งตารอคอยการมาของ iPhone ในปีหน้า หรือ iPhone 15 นั่นเอง เป็นเวลาที่เหมาะสม

สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เจอจาก iPhone รุ่นใหม่ในปีหน้าจะมีความสำคัญต่อผู้ที่เลือกที่จะไม่อัปเกรดเป็นรุ่น ‌iPhone 14‌ หรือไม่เพราะ ในปี 2023 นี้จะเป็นวันครบ 10 ปีนับตั้งแต่เปิดตัว ‌iPhone‌ 5s อย่างเป็นทางการ และ 5ปี นับตั้งแต่ Apple เปิดเผยการออกแบบ ‌iPhone‌ แบบเต็มหน้าจอขนาดใหญ่เครื่องแรกด้วย ‌iPhone‌ XS Max แต่ที่นี้เรามาดูกับเรื่องที่มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดบน iPhone 15 Series ประกอบด้วย

• เปลี่ยนมาใช้ พอร์ต USB-C
• หน้าจอแบบเจาะรูแทนรอยบน ‌iPhone 15‌ และ ‌iPhone 15‌ Plus
• ระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID ใต้จอแสดงผล
• ชิพ A17 ผลิตด้วยกรรมวิธีการผลิต 3 นาโนเมตร
• กล้องเทเลโฟโต้ Periscopic เฉพาะใน ‌iPhone 15‌ Pro Max

การเลือกใช้ USB-C แทน Lightning

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้า Apple เชื่อว่าอย่างน้อย ‌iPhone 15‌ บางรุ่นซึ่งจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จะมาพร้อมพอร์ต USB-C แทน Lightning เพื่อปรับปรุงการถ่ายโอนข้อมูลและความเร็วในการชาร์จ ทางด้าน Mark Gurman แห่ง Bloomberg ยืนยันคำกล่าวอ้างของ Kuo โดยกล่าวว่า Apple กำลังทดสอบ iPhone ที่มีพอร์ต USB-C แทน Lightning Gurman กล่าวเสริมว่าหาก Apple เปลี่ยน ‌iPhone‌ จาก Lightning เป็น USB-C จะเปิดตัวอะแดปเตอร์ Lightning เป็น USB-C เพื่อให้ iPhone ที่มี USB-C เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมและสายเคเบิลที่ใช้ Lightning

เบื้องต้นแนะนำว่า Apple จะเก็บพอร์ต Lightning ไว้บน ‌iPhone‌ จนกว่าจะไม่ต้องการพอร์ตใดๆ อีกต่อไป โดยอาศัย MagSafe เพียงอย่างเดียวแทน ‌MagSafe‌ เปิดตัวครั้งแรกใน ‌iPhone‌ กับ iPhone 12 ในปี 2020 และยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ใน ‌iPhone‌ ที่ไม่มีความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูล ตอนนี้ดูเหมือนว่า Apple ได้เปลี่ยนแผนแล้ว

เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้สำหรับการเปลี่ยนแปลงคือแรงกดดันด้านกฎระเบียบในการสร้างมาตรฐานในประเทศต่างๆ เช่น อินเดียและบราซิล สหภาพยุโรปกำลังดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้งเพื่อบังคับให้ Apple นำ USB-C มาใช้ใน iPhone, iPads และ AirPods ทั้งหมดที่จำหน่ายในยุโรปภายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024

ยังไม่ชัดเจนว่า iPhone 15 รุ่นใดจะมีพอร์ต USB-C แต่ดูเหมือนว่า Apple สามารถจองคุณสมบัติสำหรับรุ่น “Pro” ไว้ได้ USB-C เป็นเอกสิทธิ์ของ iPad Pro เป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะขยายไปยัง iPad Air และ iPad mini ดังนั้นรูปแบบที่คล้ายกันสำหรับ “iPhone” จึงเป็นไปได้ หากเป็นเช่นนั้น หลังจาก 10 ปีของตัวเชื่อมต่อ Lightning ที่ติดตั้งเลือกใช้ใน ‌iPhone‌ ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ปีนี้ iPhone 14 Series อาจเป็น iPhone รุ่นเรือธงรุ่นสุดท้ายที่มีพอร์ต Lightning

นอกจากนี้ Kuo กล่าวต่อไปว่าอุปกรณ์เสริมเช่น AirPods, MagSafe Battery Pack และ Magic Keyboard, Mouse และ Trackpad trio จะเปลี่ยนไปใช้ USB-C ใน “อนาคตอันใกล้นี้”

Dynamic Island: ไม่มีรอยบน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus อีกต่อไป

Ross Young ผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงผล ซึ่งมักจะเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับแผนการของ Apple เป็นนักวิเคราะห์คนแรกที่เปิดเผยว่า ‌iPhone 14 Pro‌ จะมีคุณลักษณะ “รูปทรงเม็ดยา” และช่องเจาะแบบวงกลมหลังจากการรั่วไหลของส่วนประกอบ จากนั้นปรากฏว่า ‌iPhone 14 Pro‌ ที่เจาะไว้จะปรากฏเป็น “เม็ดยา” ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยซอฟต์แวร์ในคุณสมบัติที่เรารู้จักในขณะนี้เรียกว่า “Dynamic Island”

ทั้งนี้ Dynamic Island ไม่ใช่คัตเอาท์แบบคงที่ และสามารถเปลี่ยนขนาดและรูปร่างเพื่อผสมผสานเข้ากับ UI และมอบเครื่องมือภาพใหม่ด้านหน้าและตรงกลางหน้าจอของ ‌iPhone‌ ในการใช้งานมาตรฐาน จะเป็นคัตเอาท์รูปเม็ดยาขนาดเล็ก แต่

Apple เลือกใช้พิกเซลเพื่อขยายให้เข้ากับงานต่างๆ เช่น การชำระเงินของ Apple Pay และการตรวจสอบสิทธิ์ด้วย Face ID

Touch ID ใต้จอแสดงผล

 มีรายงานว่า Apple ได้ทำการทดสอบเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอสำหรับ iPhone 13 บางรุ่นเป็นอย่างน้อย ตามรายงานของ Joanna Stern จาก The Wall Street Journal และ Mark Gurman แห่ง Bloomberg แต่ดูเหมือนว่า Apple ตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวในขณะนั้น

ก็ทำให้ iPhone 15 อาจจะมีบางรุ่นที่ได้ใช้งาน Touch ID โดยจะฝั่งใหน้าจอในปี 2023 เป็นต้น

การมาของ ชิป A17 Bionic (3nm)

Apple มุ่งมั่นที่จะสั่งซื้อชิปที่ผลิตขึ้นโดยใช้กระบวนการ 3nm ของ TSMC ซึ่งจะมีรายงานว่าใช้สำหรับชิป A17 ของ iPhone 15 รุ่นต่างๆ กระบวนการ 3nm ให้ผลการใช้พลังงานที่ดีขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์และประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์จากกระบวนการ 5nm ที่อยู่เบื้องหลัง A14 และ A15 ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าที่โดดเด่น

ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่า A17 จะวางจำหน่ายใน ‌iPhone 15 ทุกรุ่นหรือไม่ แต่ Apple ยังคงมีแนวโน้มที่เริ่มต้นด้วยชิป A15 ใน ‌iPhone 14‌ และ ‌iPhone 14‌ Plus และใช้ A16 Bionic ขนาด 4 นาโนเมตรสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้แทน

กล้อง Periscope บน iPhone 15 Pro Max

ในปี 2023 คาดว่า ‌iPhone‌ จะใช้ “เลนส์เทเลโฟโต้ที่สามารถซูมได้ไกลมากขึ้น” เป็นครั้งแรก หลังจากข่าวลือเกี่ยวกับคุณสมบัตินี้เป็นเวลาหลายปี

Apple ถูกกล่าวหาว่าประสบปัญหาในการพัฒนาระบบกล้องปริทรรศน์ของตัวเอง เนื่องจากเทคโนโลยีส่วนใหญ่ได้รับการปกป้องโดยสิทธิบัตรอื่น ๆ แม้ว่าจะยังยื่นจดสิทธิบัตรกล้องปริทรรศน์ของตัวเองอยู่ และมีรายงานว่ากำลังสำรวจการซื้อส่วนประกอบจากผู้ถือสิทธิบัตรที่มีอยู่แทน ตัวอย่างเช่น Samsung เป็นเจ้าของเทคโนโลยี “ball-type actuator” ที่ใช้ในเลนส์ปริทรรศน์หลายรุ่น

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก ‌iPhone 15‌ Pro Max จะเป็นสมาร์ทโฟน Apple รุ่นเดียวในปี 2023 ที่ได้รับเลนส์กล้องปริทรรศน์และใช้ประโยชน์จากการซูมแบบออปติคอลที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก นักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo ด้วยรุ่น ‌iPhone 15‌ Pro ขนาด 6.1 นิ้วที่ใช้เลนส์เทเลโฟโต้ในปัจจุบัน ซูมออปติคอล

มีสมาร์ทโฟน Android บางรุ่นที่มีเลนส์ปริทรรศน์อยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น Galaxy S22 Ultra ของ Samsung มีการซูมออปติคอลสูงสุด 10x และซูมดิจิตอล 100x ด้วยการเพิ่มเลนส์ปริทรรศน์ ‌iPhone 15‌ Pro Max จะเป็นไปตามความเหมาะสม Kuo กล่าวว่าเซ็นเซอร์ 1/3 นิ้วจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสง f / 2.8 ซูมออปติคอลสูงสุด 6x และระบบป้องกันภาพสั่นไหวของเซ็นเซอร์ ตามบริบท รุ่น ‌iPhone 14 Pro‌ จำกัดการซูมแบบออปติคอล 3 เท่า

สรุปในภาพรวมที่ปรากฏทั้งหมดนี้

ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นการรวบรวมข่าวลือที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับ  iPhone ในอนาคตด้วยเกลือเล็กน้อย และยังมีเวลาอีกมากสำหรับแผนการของ Apple ที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม จากประวัติของนักวิเคราะห์และผู้รั่วไหลหลายคนที่ได้รับข่าวลือเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความจริงบางอย่างสำหรับคนที่คอคอย

ทั้งนีก็มีการคาดว่า USB-C น่าจะเป็นหนึ่งในการอัพเกรดที่มีความหมายที่สุดสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ แต่กล้องปริทรรศน์, Touch ID ที่อาจอยู่ใต้จอแสดงผล, เทคโนโลยีขั้นสูงในการส่งมอบชิป A17 และแม้แต่ Dynamic Island ที่ขยายไปยังขยายรูปแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดก็สามารถทำได้ สำหรับการอัปเกรดโดยรวมที่สำคัญพอสมควร

ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกใช้อุปกรณ์ใด แต่ทางด้าน Kuo เชื่อว่า ‌iPhone 15‌ รุ่นต่างๆ อาจมีความแตกต่างของคุณสมบัติมากขึ้นระหว่างอุปกรณ์แต่ละเครื่อง ดังนั้นลูกค้าอาจต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากขึ้นว่าจะเลือกซื้อรุ่นใดเพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ

สำหรับตอนนี้ ความสำคัญทั้งหมดอยู่ที่ ‌iPhone 14‌ และ ‌iPhone 14 Pro‌ ซึ่งจะเริ่มเข้าถึงลูกค้าในวันศุกร์ที่ 16 กันยายนนี้  สำหรับคนที่รอคอยรุ่นใหม่ก็ต้องรติดตามกันต่อไป

ข้อมูล :www.macrumors.com