เป็นเวลา 2 ปีแล้วที่ iPhone 13 Pro เปิดตัวและวางขายก่อนที่จะยกเลิกเพราะการมาของ iPhone 14 Pro นั่นเอง

หลายคนที่ใช้อยู่ก็อยากรู้ว่าทำไมเราควรจะอัปเกรดจาก iPhone 13 Pro ที่มีสีสันสวยอย่าง Sierra Blue ทำไมถึงควรเปลี่ยนมา iPhone 15 Pro ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ มาเริ่มกันเลย

ชิปใหม่กว่า

เริ่มต้นกับเรื่องของชิปประมวลผลกันก่อน เดิมๆ แล้ว iPhone 13 Pro ใช้ชิป A15 ที่ตอนนี้ประจำการอยู่ใน iPhone 14 ปกติ แต่ชิปที่ดีกว่าคือ A16 ที่เร็วกว่าถึง 17% แต่มีการคาดการณ์ว่า A17 ที่อยู่ใน iPhone 15 Pro จะผลิตในขนาดเล็กเพียง 3 นาโนเมตร คาดว่าจะได้พลังที่แรงกว่าและประหยัดไฟมากขึ้น ใครที่อยากได้ชิปแรงไม่ควรพลาด

พอร์ท USB-C

จากข่าวลือที่ดูเหมือนจะเป็นจริง เมื่อ iPhone 15 ทุกรุ่นจะเปลี่ยนมาใช้ USB-C ทั้งหมดแทน นั่นหมายความว่าการรองรับระบบชาร์จไฟนั้นสารถเสียบได้หลากหลาย ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงกว่า Lightning แน่นอน (แต่รุ่นปกติ จะไม่ได้ความเร็วถ่ายโอนระดับ Thunderbolt แต่ยังเป็น USB 2.0 หรือความเร็ว 480Mbps เช่นเคย)

ขอบด้านข้างแบบ Titanium

ขอบบอดี้แบบ Titanium ถูกใช้ครั้งแรกในสินค้า Apple คือ Apple Watch Ultra เพิ่มความแกร่งได้มากขึ้น แต่ล่าสุดมีข่าวเผยออกมาบอกว่า iPhone 15 Pro จะได้ขอบแบบ Titanium มาแทน ขอบสแตนเลส และโค้งรับกับมือไม่เหลี่ยมแบบเดิมอีกต่อไป

ลาก่อนคันโยกปรับเสียง สวัสดีปุ่ม Action

การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือปุ่ม Action ที่มีการเผยออกมาก่อนหน้านี้ปุ่มนี้สามารถตั้งค่าให้ทำอะไรก็ได้ เหมือนกับ Apple Watch Ultra เพื่อเพิ่มความหลากหลายกว่า เพราะปุ่มเดียวสามารถทำได้ทั้ง ปิด/เปิด เสียง, เปิดไฟฉาย, ปรับให้โหมดรบกวนทำงาน รวมถึงเปิดโหมด Low Power และอื่นๆ

เท่ากับฟีเจอร์นี้ถ้ามาจริงก็โบกมือคันโยกเปลี่ยนรูปแบบเสียงและสั้นที่ใช้มาอย่างยาวนานได้เลย

ได้ Dynamic Island

iPhone 15 Pro vs iPhone 13 Pro

การเปิดตัว iPhone 14 Pro มีสิ่งที่น่าสนใจคือการเพิ่ม Dynamic Island เกาะหรรษาที่เพิ่มพื้นที่ในหน้าจอได้ และแสดงผลต่างๆ แทนติ่งด้านบน ทำให้รู้สึกเสียพื้นที่น้อยที่สุด เชื่อว่าสาวกบางคนต้องชอบถ้าได้เห็น

เพิ่ม Always On Display

batch_apple-iphone-14-pro-iph_1
iPhone 15 Pro vs iPhone 13 Pro

เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Always On Display ที่มีใน iPhone 14 Pro สามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆ ได้ครบครัน และแตะก็สามารถใช้งานได้ และเป็นการลดแสงหน้าจอเพื่อแสดงผล แม้จะกินไฟบ้างแต่เชื่อว่าสาวกเห็นยังไงก็ต้องใช้แน่นอน

ขอบหน้าจอบางลง

พูดถึงของเครื่องใหม่คงไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะมีความเป็นไปได้ว่า iPhone 15 Pro จะได้ขอบหน้าจอที่บางลงกว่ารุ่นเดิม เห็นได้ชัดอย่าง Apple Watch Series 7 เปลี่ยนเป็น Series 8 ที่ได้ขอบหน้าจอที่บางลงเป็นต้น

ปรับปรุงกล้องใหม่ให้ดีมากขึ้น

iPhone 14 มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานที่ยาวนานถึง 23 ชั่วโมงเรียกว่านานอยู่แล้ว ถ้าจะดีกว่านี้คงต้องรอ iPhone 15 เพราะจะปรับปรุงให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานมากขึ้นกว่าเดิม

ฟีเจอร์ความปลอดภัยเยอะขึ้น

sat
iPhone 15 Pro vs iPhone 13 Pro

ความปลอดภัยเป็นอีกเรื่องที่คนใช้ iPhone สามารถขิงได้ การเปลี่ยนครั้งนี้คุณจะได้ฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาเช่นระบบขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม ระบบนี้ทำงานเมื่อไม่มีสัญญาณ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกชนิด, Crash Detection ฟีเจอร์ความช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยจะมีการจับเรื่องการสั่นสะเทือนและโทรไปยังหน่วยกู้ภัยซึ่งเป็นเบอร์กลาง ฟีเจอร์นี้รุ่นเดิมไม่มีนะ

5G ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่

มีการคาดการณ์ว่า iPhone 15 Pro จะได้ชิป Modem ใหม่คือ Snapdragon X70 ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพของ 5G ให้ดีมากขึ้น

เรื่องอื่นๆ ที่เปลี่ยนล่ะ

(Image Credit – PhoneArena)

ก็จะมีเรื่องกล้องที่เพิ่มทั้งความละเอียดในตัวหลัก, Action Mode, การซูมที่คาดว่าจะทำได้ดีขึ้นใน iPhone 15 Pro Max, RAM ที่เยอะขึ้น และการเปลี่ยนมาใช้ eSIM ในตลาดสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดอาจจะเป็นไปได้ว่า iPhone 15 Pro Series จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ คงต้องรอดูกันว่าฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือไม่ลุ้นกันต่อไปครับ

(Image Credit – PhoneArena)

iPhone 15 Series คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือนกันยายนนี้ตามเวลาเดิมเหมือนทุกปีแต่การผลิตคาดว่าจะเริ่มทดสอบในช่วงมีนาคม ที่จะถึงนี้

ที่มา – www.sanook.com/hitech, www.macrumors.com,www.phonearena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
5 ฟีเจอร์ลับของ iPhone 16 ที่คุณต้องรู้
ไม่ใช่ทุกคนที่ซื้อได้! เพราะ Samsung Galaxy F จะมีราคาสูงมาก
“realme GT Neo2 5G” โดดเด่นด้วยโทนสีใหม่ “NEO Green” เตรียมเปิดตัวในไทย 3 พ.ย.นี้

Leave Your Reply

*