iOS 17 จะเปิดตัวในวันที่ 18 กันยายน พร้อมโหมดสแตนด์บาย, NameDrop, วิดเจ็ตแบบโต้ตอบ และอื่นๆ
วันนี้ที่งาน “Wonderlust” ของ Apple ประกาศว่า iOS 17 และ iPadOS 17 จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคนที่มี iPhone และ iPad รุ่นที่รองรับเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 กันยายน
การมาของ iPhone 15 ทำให้ระบบปฏิบัติการใหม่ของ iOS อย่าง iOS 17 / iPad OS 17 ก็พร้อมที่จะปล่อยอัปเดตเช่นเดียวกัน โดยกำหนดการการอัปเดตเผยออกมาแล้วพบกัน 18 กันยายน นี้ ทั้งนี้ความสามารถจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลย
iOS 17 เพิ่มตัวเลือก StandBy ใหม่สำหรับ iPhone ซึ่งช่วยให้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลเมื่ออยู่ในแนวนอนและเชื่อมต่อกับเครื่องชาร์จ โหมดสแตนด์บายจะแสดงเวลา กิจกรรมสด การแจ้งเตือนที่เข้ามา และวิดเจ็ตมากมาย
วิดเจ็ตที่คุณใช้บนหน้าจอล็อคและหน้าจอโฮมเป็นแบบโต้ตอบได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ เช่น ควบคุมไฟอัจฉริยะหรือปิดการเตือนความจำโดยไม่ต้องเปิดแอพ การแก้ไขอัตโนมัติฉลาดขึ้นกว่าเดิม และแก้ไขข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้นด้วยการแตะอย่างรวดเร็ว
AirDrop มีฟีเจอร์ NameDrop ใหม่สำหรับการแชร์ข้อมูลผู้ติดต่อกับบุคคลใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว และแอพ Phone มี Contact Poster ที่ปรับแต่งได้ ซึ่งให้คุณเลือกสิ่งที่ผู้อื่นเห็นเมื่อคุณโทรหาพวกเขา
ข้อความเสียงสดจะแสดงข้อความเสียงที่ใครบางคนฝากไว้บนหน้าจอล็อคของคุณ เพื่อให้คุณสามารถรับสายได้หากจำเป็น แอพข้อความมีรูปลักษณ์ที่ประณีตและคุณสมบัติเช็คอินที่จะช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย
FaceTime รองรับข้อความวิดีโอ คุณจึงสามารถฝากข้อความเสียงแบบวิดีโอได้หากมีคนพลาดสาย และยังสามารถใช้บน Apple TV ได้อีกด้วย Safari มีการล็อคหน้าต่างการเรียกดูแบบส่วนตัวและคุณสมบัติการแชร์รหัสผ่าน และการป้องกันการติดตามที่ดียิ่งขึ้น ขณะนี้แอพ Maps ทำงานแบบออฟไลน์ แอพ Photos สามารถจดจำสัตว์เลี้ยงของคุณได้ และ Visual Look Up ใช้งานได้กับอาหาร สัญลักษณ์ วิดีโอ และอื่นๆ
มีฟีเจอร์การติดตามอารมณ์ใหม่ในแอพ Health และในปลายปีนี้ Apple ก็วางแผนที่จะเพิ่มแอพบันทึกประจำวันด้วย
รายชื่อ iPhone ที่ได้ไปต่อกับ iOS 17
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 13
- iPhone 13 mini
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone 12
- iPhone 12 mini
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone SE (รุ่นที่ 2 หรือที่ใหม่กว่า)
รายชื่อ iPad ที่ได้ไปต่อกับ iPad OS 17
- iPad (รุ่นที่ 6 และใหม่กว่า)
- iPad mini (รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า)
- iPad Air (รุ่นที่ 3 และใหม่กว่า)
- iPad Pro รุ่น 9 นิ้ว (รุ่นที่ 2 และใหม่กว่า)
- iPad Pro รุ่น 5 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1 และใหม่กว่า)
ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ iOS 17 และ iPad OS 17 แบบย่อ
iOS 17
ลูกเล่นของ iOS 17 มีการเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่หน้า Phone Call ที่เราสามารถแสดงผลรูปหน้าได้เต็ม และยังมีฟีเจอร์ Live Voice Mail สามารถแสดงผลข้อความได้ด้วยแต่ได้เฉพาะบางภาษาแน่นอน
- Face Time สามารถแสดงผลหน้าจอได้เต็มและสามารถให้ส่องไปยังวัตถุเช่นสัตว์เลี้ยงของเราได้ด้วย
- Message มีการเพิ่ม Search Filter เลือกการเพิ่ม, แสดงผลข้อความเสียงเป็นข้อความได้, Check-in กิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันรหรือดีเลย์ และยังสามารถแสดงผลแบตเตอรี่, สถานที่เฉพาะคนที่ตั้งอยู่ในกิจกรรม Check-in ได้, สามารถเพิ่มสติ๊กเกอร์ไปในข้อความที่เราสนใจ และยังสามารถเอาคลิปสั้นๆ มาทำเป็น Sticker ได้
- AirDrop : เพิ่มฟีเจอร์ NameDrop กับเพื่อนของเราตั้งแต่เบอร์โทรศัพท์ รูปภาพ, วิดีโอขนาดใหญ่, รวมไปถึง การแชร์เพลงได้ ทั้งนี้ Shareplay เปิด API ให้นักพัฒนาได้ทดลอง
- Keyboard : เพิ่มความฉลาดของการพิมพ์ หรือ Intelligent Keyboard โดยมีระบบแก้ไขข้อความให้ถูกต้องได้แค่แตะ และคาดเดาประโยคในการพิมพ์ได้ และยังสามารถเติมประโยคด้วยเสียงได้
- Journal : โปรแกรมไดอารี่ที่คุณสร้างเองหรือระบบสร้างก็ได้สามารถเลือกภาพ วิดีโอ เนื้อเรื่องสถานที่เข้ารวมกันทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดีในการไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ
- Standby สามารถทำงานเมื่อคุณ iPhone บนแทน iPhone จะทำหน้าที่เป็นหน้าจอไว้สั่งงานเบื้องต้นและเมื่อ iPhone ชาร์จไฟจะหรี่แสงไม่ให้รบกวนสายตาคุณ
- นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกทั้งใส่ชื่อคนในรูปได้, ตั้ง Offline Maps และรวมไปถึงคำสั่ง Hey Siri จะเหลือแค่ Siri เท่านั้น
- Safari เน้นความปลอดภัยแลพมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ใช้งานได้ปลอดภัย
iPadOS 17
- Widget, Lock Screen : การสั่งงานจะง่ายมากขึ้นสามารถแตะเพื่อสั่งงานได้หลากหลายและสามารถปรับได้หลากหลาย รวมถึง Lock Screen เราสามารถ สั่งงานได้หลากหลายหน้าจอ รวมถึง Live Photos สามารถสแดงผลได้ในแบบ Slowmotion หรือจะแสวดงผลตามดาวที่คุณต้องการ ปรับแต่งนาฬิกา เพิ่ม Widget อยู่ทางซ้ายมือและใส่ได้ตามใจ
- Live Activities : แสดงผลกิจกรรมที่คุณต้องทำหรือเวลาต่างๆ ไว้บนหน้า Lock Screen ได้แบบ iPhone
- Health: ครั้งแรกบน iPad สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone, Apple Watch เมื่อหน้าจอใหญ่แสดงผลได้มากขึ้นและยังเปิด Health API สำหรับ iPad ให้นักพัฒนาเพิ่มลูกเล่นได้
- PDF : สามารถเติมข้อความ และส่งอีเมลได้ด้วย และยังสามารถให้ Note เขียนเข้าไปและยังสามารถเขียนข้อความร่วมกันกับเพื่อนคุณ ไม่ว่าอยู่ใกล้หรือไกลผ่าน Face Time ได้ด้วย
- นอกจากนี้ยังสามารถใช้กล้องบนหน้าจอภายนอกของ หน้าจออื่นๆ ได้
รายชื่อของ iPhone ที่ไม่สามารถอัปเดต iOS 17 ประกอบไปด้วย iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X
อ้างอิง – www.macrumors.com