How To

เล่นมือถือจนตาลาย = ตาบอด? เรื่องจริงหรือแค่ข่าวลือ?

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาว Social ทั้งหลาย! วันนี้เรามาพูดคุยกันแบบจัดเต็มกับประเด็นร้อนที่ใครๆ ก็สงสัย “เล่นมือถือนานๆ ทำให้ตาบอดได้จริงหรือ?”

แน่นอนว่าในยุคที่เราแทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสมาร์ทโฟน คำถามนี้ทำเอาหลายคนใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียว!

ความจริงที่คุณต้องรู้

ขอบอกตรงๆ เลยนะคะว่า การเล่นมือถือไม่ได้ทำให้ตาบอดแบบฉับพลันหรอกค่ะ แต่! (และนี่เป็น “แต่” ที่สำคัญมาก) การใช้สมาร์ทโฟนอย่างไม่ระมัดระวังเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตาของคุณได้แน่นอน

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาสุดที่รัก

  1. อาการตาแห้ง ตาล้า เมื่อเราจดจ่อกับหน้าจอมือถือ เรามักจะกะพริบตาน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ทำให้ตาแห้ง ระคายเคือง และล้าได้ง่าย บางคนถึงขั้นมีอาการตาแดง น้ำตาไหล หรือมองเห็นภาพซ้อนชั่วคราวเลยทีเดียว
  2. สายตาสั้นชั่วคราว หรือที่เรียกว่า “สายตาล้า” กล้ามเนื้อตาของเราต้องทำงานหนักเพื่อโฟกัสที่หน้าจอขนาดเล็กในระยะใกล้เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการตาล้า มองใกล้ชัดแต่มองไกลเบลอ แม้จะเป็นแค่ชั่วคราว แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจส่งผลต่อสายตาในระยะยาวได้
  3. ปัญหาการนอน แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือสามารถรบกวนการผลิตเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับของเรา ทำให้นอนยาก นอนไม่หลับ ส่งผลให้ตาโทรม และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
  4. อาการปวดคอ บ่า ไหล่ การก้มหน้าจ่อมือถือเป็นเวลานานทำให้เกิดท่าทางที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ปวดคอ บ่า ไหล่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงดวงตา ทำให้ตาเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น
  5. ความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อม แม้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่นักวิจัยบางท่านเชื่อว่าการสัมผัสกับแสงสีฟ้าจากจอดิจิทัลเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะยาวได้
istock-1147722562
เล่นมือถือจนตาลาย = ตาบอด? เรื่องจริงหรือแค่ข่าวลือ?

แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ?

ไม่ต้องกลัวไปค่ะ! เรายังสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างสนุกและปลอดภัย เพียงแค่ปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้:

  1. ใช้กฎ 20-20-20 ทุกๆ 20 นาที ให้มองไกลออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาได้พัก
  2. ปรับความสว่างหน้าจอ ตั้งค่าความสว่างให้พอดี ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป และเปิดโหมดกรองแสงสีฟ้า (Night mode) โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
  3. รักษาระยะห่าง ถือมือถือให้ห่างจากตาประมาณ 30-40 เซนติเมตร และวางในตำแหน่งที่สายตามองลงเล็กน้อย
  4. พักเป็นระยะ อย่าจ้องหน้าจอนานเกินไป ควรพักสายตาและยืดเส้นยืดสายทุกๆ ชั่วโมง
  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยป้องกันอาการตาแห้งได้ดี
  6. นอนให้เพียงพอ พยายามนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน และหลีกเลี่ยงการใช้มือถือก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
  7. ตรวจสุขภาพตาประจำปี อย่าลืมไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะถ้าคุณใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเป็นประจำ

เทรนด์ใหม่เพื่อถนอมสายตา

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกล เรามีตัวช่วยมากมายในการดูแลสุขภาพตา:

  • แว่นกรองแสงสีฟ้า: ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้ดี แถมยังเท่อีกด้วย!
  • แอปพลิเคชันถนอมสายตา: มีแอปมากมายที่ช่วยเตือนให้คุณพักสายตา ปรับความสว่างหน้าจอ และกรองแสงสีฟ้าโดยอัตโนมัติ
  • สกรีนโปรเตกเตอร์กรองแสงสีฟ้า: นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยปกป้องดวงตาคุณได้ตั้งแต่ชั้นแรก

การเล่นมือถือไม่ได้ทำให้ตาบอดโดยตรง แต่การใช้งานอย่างไม่ระมัดระวังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตาในระยะยาวได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ ที่เราได้แนะนำไป คุณก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างสนุกและปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเลิกเล่น Social Media แต่อย่างใด

เป็นไงบ้างคะ? หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและดูแลดวงตาคู่สวยได้ดีขึ้นนะคะ อย่าลืมแชร์เคล็ดลับดีๆ เหล่านี้ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวไลฟ์สไตล์สุดชิคในครั้งหน้าค่ะ!

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
รวม “แอพแอนตี้ไวรัส” ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ iPad ที่ควรต้องมีในปี 2022
5 เช็คลิสต์เลือกหูฟังไร้สายชิ้นแรกในชีวิต เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า ครบเครื่อง คุ้มราคา
แนะวิธีจัดการกับ ‘ความเครียด’ ผ่าน 5 กิจกรรมง่ายๆ ที่สามารถทำได้ ‘From Home’

Leave Your Reply

*