เรียกว่ากระแสของ iPhone 15 มาพร้อมกับตัวเครื่องที่เป็นไทเทเนียมในรุ่น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max นั้นทำให้มันเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง
และยังเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ สำหรับโทรศัพท์หนักที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี อีกทั้งหลายๆ คนยังฝากความหวังไปยัง Samsung Galaxy S24 Series ที่จะเปิดตัวต้นปี 2024 คงจะได้ใช้วัสดุแบบเดียวกัน (ลุ้นต่อไปว่ามันจะมาพร้อมการดีไซน์แบบไหน)
ล่าสุดมีข่าวลือออกมาว่า Samsung จะทำการเปิดตัว Galaxy S24 ในช่วงต้นปี 2024 โดยล่าสุดมีข่าวลือว่าจะมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่องจากขอบโค้งมนมาเป็นขอบเหลี่ยม เพื่อให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์ของมือถือพับได้อย่าง Galaxy Z Fold5 และ Galaxy Z Flip5
เท่ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เหมือนกับย้อนหายุคช่วง Samsung Galaxy S21 และ Samsung Galaxy S22 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้ เนื่องจากการออกแบบขอบเหลี่ยมช่วยให้จับถือได้ถนัดมือและดูทันสมัยมากขึ้น
ตามข่าวลือล่าสุด Galaxy S24 Ultra จะใช้ตัวเครื่องไทเทเนียมแทนอลูมิเนียมที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่งและทนทานมากขึ้น ไทเทเนียมเป็นโลหะที่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการสึกหรอ และน้ำหนักเบากว่าเหล็กถึงสองเท่า ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนที่ต้องการความทนทานสูง
การเลือกใช้ไทเทเนียมสำหรับตัวเครื่อง Galaxy S24 Ultra จะช่วยให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายจากการตกหล่นและกระแทกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ไทเทเนียมยังช่วยให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาลง ซึ่งจะช่วยให้พกพาสะดวกยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไทเทเนียมมีราคาสูงกว่าอลูมิเนียม ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิต Galaxy S24 Ultra สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า Samsung จะยังคงรักษาราคาให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะทำให้ราคาสูงได้
หากเลือกใช้ไทเทเนียมจริงใน Galaxy S24 Ultra จะมีข้อดีดังนี้
- มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการสึกหรอ
- น้ำหนักเบากว่าเหล็กถึงสองเท่า
- ป้องกันความเสียหายจากการตกหล่นและกระแทกได้ดีขึ้น
ข้อสังเกตของวัสดุไทเทเนียม
- ราคาสูงกว่าอลูมิเนียม
โดยรวมแล้ว การใช้ไทเทเนียมสำหรับตัวเครื่อง Galaxy S24 Ultra ถือเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย เนื่องจากช่วยให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
ส่วนรุ่นอื่นๆ จะมีรายละเอียดตั้งแต่ หน้าจอของ Galaxy S24 คาดว่าจะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.1 นิ้วสำหรับรุ่น S24 และ 6.6 นิ้วสำหรับรุ่น S24+ ทั้งคู่จะมีมีอัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุด 120Hz และกล้องหน้าเจาะรู เหมือนเดิม
และในรุ่น Ultra คาดว่าจะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว โดยมีอัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) ที่ 144Hz และกล้องหน้าแบบ Infinity-O เหมือนรุ่นก่อน
ตอนนี้ก็เหลือเพียงข้อมูลทั้งหมดข้างต้นเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น รายละเอียดอย่างเป็นทางการของ Galaxy S24 Serries จะมีการประกาศอีกครั้งในช่วงที่ใกล้กับวันเปิดตัวกันอีกครั้ง
แต่จากข้อมูลทั้งหมดโดยรวมแล้ว ยังคงเชื่อว่า Galaxy S24 จะเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่คุ้มค่าและน่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
อ้างอิง – www.gsmarena.com