Huawei ได้เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบเปิดหูรุ่นใหม่ที่เรียกว่า FreeClip หูฟังรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อแฟชั่นและความสบาย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นสตรีทแวร์

“HUAWEI FreeClip” มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยตัวหูฟังทรงเมล็ดถั่วที่โอบรับเข้ากับส่วนโค้งของหูได้อย่างสบาย วัสดุที่ใช้ทำหูฟังนั้นทำจากซิลิโคนระดับพรีเมียมที่ช่วยป้องกันไม่ให้หูฟังหลุดง่าย

นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว FreeClip ยังให้เสียงคุณภาพสูงด้วยไดรเวอร์ขนาด 10 มิลลิเมตรและเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง HUAWEI Histen 7.1 หูฟังรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Bluetooth 5.2 และรองรับการชาร์จไร้สายอีกด้วย

รายละเอียดสเปกของ HUAWEI FreeClip

• ขนาดหูฟัง: 26.70 มม. (สูง) × 22 มม. (กว้าง) × 25.3 มม. (ลึก)
• ขนาดกล่องชาร์จ: 59.7 มม. (สูง) × 51.95 มม. (กว้าง) × 27.35 มม. (ลึก)
• ตัวหูฟังหนักข้างละ 5.6 กรัม
• กล่องชาร์จ: 45.5 กรัม
• ขนาดของ Driver : 10.8 มิลลิเมตร
• เซนเซอร์: VPU sensor/IMU sensor/Hall sensor/CAP sensor
• ฟีเจอร์พิเศษ
  • ใส่สลับข้างซ้ายขวาได้
  • ระบบบไมโครโฟนอัจฉริยะพร้อมกับ ระบบ DNN Algorithm
  • Auto Stop เมื่อถอดหูฟังออก
• ความจุแบตเตอรี่: หูฟัง 55 mAh
• กล่องชาร์จ 510 mAh
• การชาร์จแบบมีสาย: USB-C, ไร้สาย: สูงสุด 2 วัตต์
• การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3
• ไมโครโฟน: ไมโครโฟน  3 ตัว + ไมโครโฟน โบน คอนดักส์ชั่น 1 ตัว
• รองรับไฟล์เสียง SBC,AAC,L2HC และ LC3
• คุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP54 (เฉพาะหูฟัง)
• สีสัน : ม่วง, ดำ
• ราคา : 6,490 บาท

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง HUAWEI FreeClip ประกอบด้วย

• กล่องเคส HUAWEI FreeClip
• สายชาร์จไฟ USB-C To USB-C
• คู่มือ / ใบรับประกัน

พูดถึงดีไซน์และภาพรวมของหูฟัง HUAWEI FreeClip กันซะหน่อย

หูฟังของ HUAWEI FreeClip มาพร้อมกับการออกแบบที่ถูกเรียกว่า C-bridge Design พร้อมด้วยเทคโนโลยีการฟังแบบ Open-ear รวมไปถึง ระบบจดจำการสวมใส่ซ้ายขวาแบบอัตโนมัติ

ด้านล่างจะมีช่องเสียบ USB-C สำหรับชาร์จไฟ ข้างขวา จะมีปุ่ม Pairing การทำงานคือ เปิดฝาแล้วกดค้างไว้ จากนั้นขึ้นไฟสีขาว ด้านล่างมีแค่บานพับ การเปิดถือว่ากว้างพอที่จะดึงหูฟังออกมาได้ง่าย และเป็นแท่นชาร์จไฟไร้สายด้วย

อย่างที่เราเห็นกันแล้วว่า HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่น สามารถใช้งานด้วยการ “หนีบหู” ดังนั้นมันย่อมต้องคู่กับความสามารถในการสวมใส่สบายและระบายอากาศได้ดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้หูฟังประกอบด้วย 3ส่วนหลัก ได้แก่

“เมล็ดถั่ว” เป็นส่วนที่สวมใส่ในหู ออกแบบให้มีรูปทรงโค้งมนและสบายหู มีขนาด 26.7 มม. x 22 มม. x 25.3 มม.

ต่อมาคือส่วนของ “ลูกบอลเสียง” เป็นส่วนที่ผลิตเสียง ออกแบบให้มีรูระบายอากาศสองช่องเพื่อลดการรั่วไหลของเสียง ที่มีขนาด 10.8 มม. เส้นผ่านศูนย์กลาง

และส่วนสุดท้าย “ที่เกี่ยวหูรูปตัว C” เป็นส่วนที่ใช้ยึดหูฟังเข้ากับใบหู ออกแบบให้แนบสนิทกับใบหู ที่มาพร้อมขนาด 12 มม. x 12 มม. x 10 มม. 

รูปร่างและการออกแบบของ HUAWEI FreeClip ช่วยให้สวมใส่สบายแม้สวมใส่เป็นเวลานาน หูฟังมีน้ำหนักเบาเพียง 5.6 กรัมต่อข้าง จึงไม่รู้สึกหนักหรือกดทับหู การออกแบบแบบเปิดหูช่วยให้สามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ จึงปลอดภัยในการสวมใส่ขณะเดินทางหรือออกกำลังกาย

นอกจากรูปร่างและการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายแล้ว HUAWEI FreeClip ยังมีการออกแบบที่ทันสมัยอีกด้วย เมล็ดถั่วมีพื้นผิวที่เรียบเนียนไร้รอยต่อ เข้ากับรูปทรงของใบหน้าได้ดี ลูกบอลเสียงมีสีสันสดใสให้เลือกหลายสี เข้ากับสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย

หน้าตาไม่เหมือนใคร แต่การสวมใส่หูกลับง่ายดาย

การสวมใส่เราต้องเอาด้านกลมเข้าไปที่หู และ ด้านเหลี่ยมไว้ด้านหลังหู ก้านตรงกลางถ้าอยู่กลางหูพอดี = หูฟังจะอยู่ตำแหน่งที่พอดีและเสียงจะชัดเจนที่สุด ถ้าเสียงไม่ชัดเจน หรือมีย่านไหนตกไป แสดงว่า ใส่ไม่ถูกครับ

ต้องบอกก่อนว่าหูฟังรุ่นนี้จะมาพร้อมกับดีไซน์ลำโพงที่ไม่ได้เป็นแบบเสียบเข้าไปในหู (In-Ear) และไม่ได้วางหู (EarBuds) Huawei เรียกว่า เป็นแบบ Open Ear ให้ความสบายก็จริง เสียงถือว่าออกมาดีเลยกับ Driver ขนาด 10.8 มิลลิเมตร และยังปรับแต่งเสียงได้ทั้งหมด 4 รูปแบบ ให้เสียงที่กลางๆ ถ้าชอบเครื่องดนตรี และฟังเพลงกำลังดี ผมว่ามันกลมกล่อม แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบเบสหนักๆ อาจจะต้องบอกว่ายังไม่ใช่หูฟังที่เหมาะกับคุณ

การควบคุมสั่งการ

ทั้งนี้เราสามารถควบคุมการเล่นเพลงและการโทรผ่านทางแอปหรือจะใช้งานหูฟัง HUAWEI FreeClip ด้วยการแตะที่ตัวหูฟังตรงไหนก็ได้เช่นกัน

• แตะสองครั้ง เล่น/หยุดเสียงชั่วคราว หรือรับสาย/วางสาย
• แตะสามครั้ง เล่นเพลงถัดไป

ทั้งนี้คุณสามารถตั้งค่าให้ปุ่มต่างๆ สามารถเปลี่ยนไปตามที่เราต้องการ โดยใช้ Application HUAWEI AI Life โดยสามารถติดตั้งได้ทั้ง Android และ iOS

[ เล่าเท่าที่เล่น I หูฟัง HUAWEI FreeClip ]

เราเชื่อว่าหลายๆ คนหากได้เจอกับดีไซน์ HUAWEI FreeClip เข้าไปแล้วต้องมีคำถามแน่นอนว่ามันจะสามารถยึดติดกับหูและสวมใส่ได้นานและสบายแค่ไหน ส่วนตัวเท่าที่ได้ลองใช้งานมาสักระยะ เราว่าปัญหาที่กังวลเหล่านี้ตัดไปได้เลยเพราะทีมวิศวะกรของหัวเว่ยเขาทดสอบมาดีแล้ว มันสวมใส่สบาย การออกแบบแบบหนีบหูช่วยให้แนบสนิทกับใบหู ไม่หลุดง่ายจึงไม่รู้สึกหนักหรือกดทับหู และมันยังสามารถระบายอากาศได้ดี การออกแบบแบบเปิดหูช่วยให้สามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ จึงปลอดภัยในการสวมใส่ขณะเดินทางหรือออกกำลังกาย

ส่วนในเรื่องของเสียง…ตรงนี้เอาเป็นว่าอยากให้ไปลองทดสอบกันเองจะดีกว่า เพราะเราไม่กล้าเคาะว่าดีหรือไม่ดี ด้วยเทสเสียงของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ส่วนตัวแล้วเจ้าหูฟัง HUAWEI FreeClip คุณภาพเสียงดีอยู่นะเสียงคมชัดและเบสแน่น ทั้งยังรองรับเสียง Hi-Res Audio ให้เสียงที่มีคุณภาพสูง จะดูหนังหรือฟังเพลงก็ไม่ต้องกลัว

แถมแบตเตอรี่อึดก็สามารถใช้งานได้นาน เพราะเราสามารถใช้งานได้นานสูดที่ 36 ชั่วโมงเมื่อรวมกับที่กล่อง และสามารถชาร์จไฟครั้งหนึ่งใช้งานได้ 8 ชั่วโมง ทั้งนี้ถ้าจำเป็นต้องการชาร์จไฟด่วน โดยการวางที่กล่องเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้ 3 ชั่วโมง

ส่วนใครที่ชอบใช้สาย HUAWEI FreeClip ก็สามารถให้คุณโทรชัดด้วย AI Crystal-Clear ที่มาพร้อมด้วยระบบไมโครโฟนที่ละเอียดอ่อนซึ่งทํางานควบคู่กับอัลกอริทึมเครือข่ายประสาทเชิงลึก (DNN) แบบหลายช่องสัญญาณเพื่อเลือกเสียงจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยรวมแล้ว … รูปร่างและการออกแบบของ HUAWEI FreeClip ถือว่าดีเยี่ยม เป็นหูฟังที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และออกแบบได้อย่างทันสมัย และ HUAWEI FreeClip สามารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังแบบหนีบหูที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และมีคุณภาพเสียงดีได้เลย

ราคาอย่างเป็นทางการของ HUAWEI FreeClip

สำหรับราคาของ HUAWEI FreeClip จะอยู่ที่ 6,490 บาท ถือว่าไม่ได้แพงเลยครับ ถ้าใครชอบหูฟังแบบ Open Ear เสียงที่อยู่กลางๆ เน้นเบสและไม่อยากได้แบบใส่ในหูรุ่นนี้ใช้เลย แถมยังมีแคมเปญต่างๆ เช่น

โปรโมชั่นเปิดตัว HUAWEI FreeClip

รับฟรี HUAWEI Band 8 มูลค่า 1,499 บาท กระเป๋าหูฟัง มูลค่า 599 บาท จำกัด 50 สิทธิ์แรกเฉพาะช่องทางออนไลน์ บริการดูแลหูฟัง HUAWEI Loss Care มูลค่า 499 บาท (1 ข้าง 1ปี ในราค่าส่วนลด 50%) เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยยังเข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt 2024” ช้อปสูงสุด 50,000 บาท รับคืนสูงสุด 17,500 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI FreeClip ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567