หากให้บอกว่าตอนนี้สมาร์ทโฟนของค่ายไหถ่ายรูปสวยบ้าง? เราว่าคงได้คำตอบที่หลากหลายกันออกไปตามสไตล์การใช้งานและกำลังเงินของแต่ละคน และอีกอย่างคือสมาร์ทโฟนตอนนี้ในท้องตลาดก็พาเหรดกันชูจุดเด่นของตัวเองในเรื่องของกล้องเกือบทั้งหมด เราเชื่อว่าหลายคนชอบอยากได้ภาพสวยๆ เหมือนที่ช่างมืออาชีพแน่นอน
แต่ถ้าหากต้องให้บอกว่าผู้เขียนชอบหรือแอบเชียร์ตัวไหนในใจบ้าง … ส่วนตัวตอนนี้คงต้องยกให้ Xiaomi 13T | 13T Pro สมาร์ทโฟนกล้อง Leica ที่กำลังนั่งอยู่ในใจ
ใครที่ชอบถ่ายรูปและเดินทางไม่ควรพลาด Xiaomi 13T Pro สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมสเปกและฟีเจอร์ที่ครบครันและเป็นตัวเลือกดีๆ ให้เราได้เลือกหน้ามาไว้ใช้งานในท้องตลาดตอนนี้ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่กล้องหลักจาก Leica หน้าจออัลตร้าไดนามิก และหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+ รุ่นใหม่ล่าสุด เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ที่คุ้มค่า ถ้ากล้องมือถือถ่ายรูปออกมาสวยและดีขนาดนี้ แล้วคุณจะพกกล้องใหญ่ให้หนักกันอีกทำไม? มีกระเป๋าสั่นสะเทือนแน่นอน!!!
ส่วนใครที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ ไม่แน่ใจว่า Xiaomi 13T Pro จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีจริงหรือแค่ราคาคุย และมันจะใช้งานได้คุ้มค่า ถ่ายรูปออกมาได้สวยเหมือนที่เห็นรีวิวหรือไม่ งานนี้ไม่ต้องห่วง เพราะวันนี้พวกเราขอรับอาสาทดสอบ Xiaomi 13T Pro ให้ได้อ่านกัน
สำหรับบทความนี้จะเป็นการนำกล้องไปใช้งานจริงๆ แบบฉบับของคนใช้งานทั่วๆ ไปที่อยากได้รูปสวยก็หยิบมือถือขึ้นมา อาจจะไม่ได้สวยงามแบบสายบล้อกเกอร์มากนัก แต่อยากให้รู้ว่าเราใช้งานและถ่ายจริง เรียลสุดสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ก็โปรดให้อภัยกัน
สรุปสเปกของสมาร์ทโฟน Xiaomi 13T Pro
- ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 162.2 x 75.7 x 8.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 200 – 206 กรัม
- หน้าจอ ขนาด 6.67 นิ้ว AMOLED ให้สีสัน 68 พันล้านสี ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล, Refresh Rate 144Hz รองรับ Dolby Vision, HDR10+ ความว่าง 1,200 – 2,600 nits
- ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุแต่คาดว่า Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+
- กราฟิก : Immortalis-G715 MC11 RAM ขนาด 12 – 16GB LPDDR5x
- พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB / 512GB / 1TB UFS 5.0
- พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้
- การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/6E(AX)/7(BE), Bluetooth 5.3, 4G, 5G, A-GPS, GPS
- ลำโพง : Dual Speaker บนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้า
- ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ : 1080p@30fps
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว เลือกใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMICRON
- กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.9 พร้อม PDAF, OIS ระยะเลนส์ 24 มิลลิเมตร พร้อม One-Click AI Cinema , Xiaomi Pro Focus, Portrait Night Mode
- มุมกว้างความ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 เป็นเลนส์ระยะ 15 มิลลิเมตร
- เลนส์ซูมระยะ 50 มิลลิเมตร หรือ 2x Optical ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/2.0
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K @24 FPS / 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps Slowmotion ช้าสุด 1,920FPS , HDR, gyro-EIS, สีแบบ 10-bit
- LED Flash
- ปรับค่าสีได้ทั้ง Leica Authentic Look & Leica Vibrant Look และฟิลเตอร์ จาก Leica ทั้งหมด 5 รูปแบบ
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition แบบ 3D ToF Scanner และ ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 120W แบบ HyperCharge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 + MIUI 14
- สี Alpine Blue, Meadow Green, Black
พูดถึงดีไซน์และภาพรวมของ “Xiaomi 13T Pro” ดีไซน์สวยหรูจับถนัดมือ
Xiaomi 13T Pro มาพร้อมกับดีไซน์สวยแบบเรียบหรู โฉบเฉี่ยว เบาบาง ความรู้สึกเวลาหยิบจับใช้งานค่อนข้างทำออกมาได้ดีถนัดมือ ขนาดตัวเครื่อง 162.2 x 75.7 x 8.5 มิลลิเมตร [ยาว x กว้าง x หนา] และมีน้ำหนัก 200 – 206 กรัม มาพร้อมจอแสดงผลแบบ CrystalRes AMOLED Flat DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 144Hz และแสดงผลสีสันได้ถึง 68 พันล้านสี
โดยในรุ่นนี้หน้าจอกระจกจะเป็น Corning Gorilla Glass 5 แข็งแรง ทนทาน หายห่วง เหนือหน้าจอแสดงผลจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 20ล้านพิกเซล พร้อมกับลำโพงสนทนาทางด้านบนและมีเซนเซอร์ในหน้าจอพร้อมกับแจ้งเตือนและแสดงผลเวลา
ส่วนล่างมีปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android สามารถเลือกได้ทั้งปุ่มปกติ หรือ การปัด โดยเปลี่ยนได้ในตั้งค่า > ค้นหาคำว่า การควบคุมหรือ Navigate
พลิกมาที่ฝาหลัง Xiaomi 13T Pro มาในดีไซน์แบบเน้นความเรียบหรูดูพรีเมียม และอย่างที่เราทราบแล้วว่าในรุ่นนี้นั้นมาด้วยกันทั้งหมด 3สี อย่างสี Meadow Green และสี Black มาพร้อมแผงด้านหลังที่เป็นกระจกมันวาว และมีเพียงรุ่นสี Alpine Blue ที่มาพร้อมฝาหลังเป็นหนัง Xiaomi BioComfort vegan ระดับพรีเมี่ยมพร้อมพื้นผิวที่นุ่มและละเอียดอ่อนซึ่งทำให้ถือและใช้งานได้อย่างสบายเป็นพิเศษ
ส่วนนี้เราจะมองเห็นโมดูลกล้องหลังแบบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ขอบมนอยู่บนมุมซ้าย ไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้ก็คือกล้องถ่ายรูปที่ Xiaomi พัฒนาร่วมกับ Leica และโลโก้ Xiaomi
ในส่วนของรอบตัวเครื่องจะมาพร้อมกับการออกแบบที่เน้นวัสดุที่ดีและบางเบา มาพร้อมกับการออกแบบเรียบง่ายฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น
ต่อกันที่ด้านขวาจะเป็นตำแหน่งของปุ่มเพาเวอร์พร้อม และปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง
ส่วนของด้านบนตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของรูไมโครโฟน, ลำโพงตัวที่ 2 และ IR Blaser สำหรับทำงานร่วมกับ Xiaomi Remote
ตัวเครื่องด้านล่างจะเป็นตำแหน่งช่องใส่ซิมแบบ Dual Nano SIM , รูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียงแบบคู่แบบ Dual Speakers พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos,
ตัวเครื่องมาพร้อมคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP68 และรองรับระบบชาร์จเร็วแบบ 120W HyperCharge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 19 นาที
ตัวอย่างภาพจากกล้อง Xiaomi 13T Pro กล้องระดับมืออาชีพจาก Leica
พลิกมาที่ฝาหลัง เราจะพบเห็นกันโมดูลกล้องหลังแบบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ขอบมนอยู่บนมุมซ้าย ไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้ก็คือกล้องถ่ายรูปที่ Xiaomi พัฒนาร่วมกับ Leica ดังนั้นบอกได้คำเดียวว่าไม่ได้อวยเพราะกล้องทำออกมาได้ดีมากๆ แทบจะจบโดยที่ไม่ต้องผ่านการตกแต่งด้วยแอปอีกเลย แต่ถ้าใครจะสบายใจด้วยการผ่านแอปก็ได้ เข้า Lightroom แต่งนิดแต่งหน่อยคุมโทนให้ปังก็ไม่ติด
Xiaomi 13T Pro มาพร้อมกับกล้อง Leica Main ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX707 รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 กล้องตัวที่สอง กล้อง Leica Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ OmniVision OV50D รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 และ กล้อง Leica Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้ใส่ filter ตามสไตล์ที่ต้องการได้ หลากหลายเพิ่มเข้ามาให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น แถมมีให้เลือกใช้งานมากมายอีกต่างหาก
จบการทดลองกล้องหลังโดดเด่นดีจัดกันไปแล้ว ก็ขอต่อกันด้วยกล้องหน้าอีกสักหน่อย และเป็นไปตามที่คิด กล้องหน้าก็มีดีไม่แพ้กล้องหลังเช่นกัน กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/2.2
นอกจากนี้นั้นกล้องหลัง Xiaomi 13T Pro รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ทุกความยาวโฟกัส พร้อมการตัดต่อที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าสู่โหมด Pro ในฟีเจอร์โปรแกรมตัดต่อวิดีโอในแอปพลิเคชัน Xiaomi Gallery ที่สามารถใส่คำบรรยายและเพลงประกอบที่สามารถแก้ไขเป็นแทร็กแยกกันได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการสร้างวิดีโอสั้นสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือ vlog ส่วนตัวก็สามารถทำได้ง่ายๆ
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? สำหรับผลงานที่ถ่ายด้วย 13T Pro ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เอาจริงๆ นะทางทีมงานถ่ายกันแบบเบสิกมาก เน้นที่โหมดอะตโนมัติด้วยเพราะไม่อยากเล่นฟีเจอร์ยากๆ แล้วเกิดมีใครอ่านบทความเราจบแล้วถ่ายได้ไม่ถูกใจ เลยถ่ายกันแบบ้านๆ เนี้ยแหละครับ auto ล้วน ให้ทุกคนสามารถถ่ายกันได้เหมือนเรา
[ เล่าเท่าที่เล่น I Xiaomi 13T Pro ได้ใจคนชอบถ่ายรูปไปเต็มๆ ]
สำหรับเราแล้ว Xiaomi 13T Pro คืออีกหนึ่งสมาร์ตโฟนครบครันมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกของตัวเครื่องและสเปกของกล้องที่อย่าางที่เราทราบกันดีแล้วว่าในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Leica ครั้งแรกของXiaomi และนั้นทำให้คุณถ่ายรูปสวยสุดปังไม่แพ้การถ่ายด้วยกล้องใหญ่
และด้วยที่รุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Dimensity 9200+ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าทำงานได้เร็วแรงไม่แพ้รุ่นไหนแน่อนน เรียกว่าเป็นมือถือรุ่นหนึ่งที่มีคุณสมบัติครบทั้งขุมพลังแรง กล้องถ่ายภาพสวยงานออกแบบโดดเด่นและยังได้ในเรื่องสเปกที่จัดเต็ม นี่เป็นอีกมือถือที่พูดเลยว่า ไม่ควรพลาดจริงๆ
เราหลังว่าบทความ “เล่าเท่าที่เล่น” จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่สามารถช่วยแฟนๆ ในดารประกอบการตัดสินใจได้
ส่วนใครที่สนใจได้สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่จนอดใจไม่ไหวแล้วละก็เราขอแนะนำให้จัด Xiaomi 13T Pro ไปครอบครองด่วน …. วางจำหน่ายในราคา 19,990 บาท สำหรับรุ่น 12GB+512GB และราคา 23,990 บาท สำหรับรุ่น 16GB+1TB และคุณสามารถเดินเข้าไปทดสอบ หยิบจับกันได้ที่ Xiaomi Shop กันได้เลย
ขอขอบคุณ : Xiaomi Thailand