หลังจาก realme ประกาศวางจำหน่าย realme C65 ในประเทศไทยไปไม่นาน ในตอนนี้ทาง realme ได้ส่งรุ่นน้องอย่าง realme C63 ออกมาเป็นตัวเลือกดี ๆ อีกหนึ่งรุ่น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

realme C63 มาพร้อมสองเฉดสี คือ Jade Green กับ Leather Blue ความพิเศษ คือ สีน้ำเงินเป็นผิวหนังสังเคราะห์จึงไม่เกิดรอยนิ้วมือ ไม่เกิดรอยคราบมัน ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนอีกเฉดสี คือ สีเขียว ได้รับแรงบันดาลใจจากมรกต เท็กเจอร์จะคล้ายกันเลย ช่วยเพิ่มความหรูหรา ขอบเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียม เพิ่มความทนทาน

สำหรับตัวเครื่องที่เราได้มาทดสอบและเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันในความนี้เป็นเฉดสี Leather Blue ให้ความทนทานต่อรอยเปื้อนและความทนทาน ทำให้ได้ความรู้สึกแตกต่างจากกระบวนการเคลือบทั่วไปที่สามารถยึดติดกับวัสดุทั่วไปได้ หมึกแม่เหล็กต้องใช้กระบวนการหลายสิบขั้นตอนเพื่อสร้างอนุภาค ให้พื้นผิวแสงและเงาที่เหนือกว่าช่วงราคาได้

สเปคเบื้องต้น realme C63

• ขนาดตัวเครื่อง : 167.26 x 76.67 x 7.74 มม.
• น้ำหนัก : 189-191 กรัม (แตกต่างกันตามเฉดสี)
• ระบบปฏิบัติการ : Android 14 บนพื้นฐาน realme UI 5.0
• หน้าจอแสดงผล : IPS-LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 1080 พิกเซล มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz กับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 180Hz ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 560nits
• หน่วยประมวลผล : UNISOC T612
• GPU : Mali-G57
• RAM : 16GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB
• MicroSD Card : 2TB
• ถาดซิมการ์ด : (nano + nano + microSD)
• กล้องหลัง : เลนส์คู่ แบ่งเป็นดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ AI
• กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.05
• ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
• พอร์ตUSB Type-C
• มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP54
• แบตเตอรี่ : 5000mAh เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W SuperVOOC Fast Charge

แกะกล่องสำรวจอุปกรณ์และการออกแบบดีไซน์

• ตัวเครื่อง realme C63
• อะแดปเตอร์
• สาย USB Type-C
• เข็มนำถาดซิมออก
• เคสซิลิโคน
• ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง)
• คู่มือและใบรับประกัน

ดีไซน์โดดเด่นทันสมัย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก

หลังจากได้แกะกล่องและได้เจอกับตัวจริง realme C63 ที่วางอยู่ด้านในกล่องแล้ว บอกเลยว่าดีไซน์ภายนอกนั้นทำมาได้ดีมีการออกแบบที่หรูหราน่าใช้งาน

realme C63 มาพร้อมขนาดตัวเครื่อง 167.26 x 76.67 x 7.74 มม. น้ำหนัก 189-191 กรัม (แตกต่างกันตามเฉดสี) เรียกได้ว่าทำให้บางเฉียบแค่ 7.74 มม. บางกว่าความหนาเฉลี่ยของคู่แข่งในกลุ่มถึง 5% มาพร้อมคุณสมบัติป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP54

realme C63 มาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 1080 พิกเซล มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz กับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 180Hz ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 560nits ผู้ใช้จึงรู้สึกสบายตาแม้เล่นโทรศัพท์มือถือในเวลากลางคืน และด้วยเซ็นเซอร์วัดแสงคู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังเพื่อการหรี่แสงหน้าจอที่ชาญฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และด้วยอัตราความแม่นย้ำในการสัมผัสมากกว่า 96% เมื่อคุณต้องการปลดล็อคด้วยมือที่เปียก อัตราความสำเร็จของการปลดล็อคแบบดิจิทัลและการปลดล็อครูปแบบจะมากกว่า 95%

ด้านหน้าส่วนบน: เหนือหน้าจอขึ้นไปจะเป็นส่วนของกล้องหน้าที่ถูกวางไว้ด้านหน้าบนจอแสดงผล ที่ดีไซน์เว้ารูปตัวอักษรยู (U) สำหรับติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซนเซอร์ 1/4 นิ้ว รูรับแสง f/2.05 เหนือขึ้นไปเป็นลำโพงเสียง

ด้านล่างหน้าจอ: ประกอบไปด้วยปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ซึ่งจะประกอบไปด้วยปุ่ม Recent App, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ ตามแบบฉบับของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไป

ตัวเครื่องด้านล่าง: ประกอบไปด้วยพอร์ตและช่องการเชื่อมต่อต่างๆ ถูกวางไว้ในส่วนนี้เกือบทั้งหมด เริ่มกันจากทางซ้ายสุดเป็นตำแหน่งของช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

ตัวเครื่องด้านบนของรุ่นมาพร้อมดีไซน์ราบเรียบ

ด้านข้างฝั่งขวา: นั้นจะประกอบไปด้วยปุ่มปรับระดับเสียง และสำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง พร้อมทำหน้าที่เป็นปุ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ส่วนด้านข้างฝั่งซ้าย: ช่องใส่ถาดซิมการ์ด Dual SIM (nano + nano)

ส่วนของช่องใส่ซิมการ์ดเป็นซิมการ์ดแบบ Dual SIM (nano + nano) และช่องใส่ microSD ที่รองรับในการเพิ่มความจุในเครื่องได้มากสุดถึง 2TB

พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่องกันบ้าง ตัวเครื่องด้านหลังมาพร้อมการออกแบบของเหลวเรืองแสง หนังวีแกนระดับพรีเมี่ยม realme C63 เป็นรุ่นแรกในตระกูล C series ที่ใช้หนังวีแก้นระดับพรีเมียมสำหรับฝาหลังให้สัมผัสลายลิ้นจี่ผิวหยาบ ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้ในรุ่นเรือธงเท่านั้น ทำให้ยามเราหยิบขึ้นมาใช้งานสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายและหรูหรา

ทำให้มั่นใจได้ถึงความเพลิดเพลินทั้งทางสายตาและสัมผัส ส่วนทางกับราคาที่ขาย และอีกอย่างแม้จะเป็นหนังวีแกน แต่ก็มีความคงทนแม้โดนของเหลวเปรอะเปื้อน ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ และค่อนข้างแข็งแรง

ด้านหลังของตัวเครื่องเราจะเห็นโมดูลกล้องรูปทรงสี่เหลี่นมเลนส์เดโคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในช่วงราคานี้มีราคาสูงกว่า แข็งแรงกว่า และมีพื้นผิวที่แข็งแรงกว่า สีฟ้าอโนไดซ์กลมกลืนกับสีหนังธรรมดาช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับฝาหลัง

กล้องมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED ที่เสริมทัพความฉลาดด้วย AI ช่วยให้ถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น

บริเวณฝาหลังด้านล่างข้างซ้ายมีข้อความเขียนว่า Redmi สกรีนอย่างชัดเจน

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 45W ใช้งานได้ยาวนาน

อย่างที่บอกไปแล้วว่า realme C63 จัดเต็มทุกเรื่องเรื่อง ดังนั้นแบตเตอรี่จึงเป็นอีกความโดดเด่นของรุ่นนี้ realme C63 มีขนาดแบตเตอรี่สูงถึง 5,000mAh พร้อม Fast Charge 45W ราบรื่นเป็นเวลา 4 ปี รับรองระบบชาร์จเร็วโดย TÜV Rheinland Safe พร้อมการ ป้องกันความปลอดภัย 38 รายการ ด้วยระบบชาร์จไว 45W ชาร์จแค่ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ถึง 50% ด้วย AI Boost เอกสิทธิ์เฉพาะของ realme ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

อีกทั้งตอบโจทย์ทุกความท้าทายในการใช้งานด้วยมาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่น IP54 และด้วยพลังของ Air Gestures, Rainwater Touch and Mini Capsule 2.0 นอกจากการกันน้ำและกันฝุ่นแล้ว realme C63 ยังทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นไปอีก ด้วยพลังการประมวลผลที่แข็งแกร่งของ IC แบบสัมผัส ผ่านอัลกอริธึมกันน้ำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถระบุต้าแหน่งการ สัมผัสของน้ำได้อย่างแม่นย้ำ และแยกความแตกต่างระหว่างมือและน้ำ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานขั้นพื้นฐาน เช่น การปัดและคลิก โทรออก และดูข้อมูลได้ตามปกติแม้ในขณะที่มือเปียก หน้าจอถูกปกคลุมไปด้วยละอองน้ำ และมีหยดน้้าขนาดเล็กบนหน้าจอ

นอกจากนี้ realme C63 ยังนำเสนอการชาร์จที่รวดเร็วที่ทนทานที่สุดในระดับเดียวกัน ด้วยวงจรชีวิตการชาร์จและการคายประจุสูงสุด 1,600 ครั้ง โดยคิดจากการชาร์จหนึ่งครั้งต่อวัน รับประกันการใช้งานที่ยาวนานถึงสี่ปี เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งเสนอได้เพียง 1200 รอบ ท้าให้แบตเตอรี่ของเราทนทานยิ่งขึ้น

หน้าจอหลัก – หน้าเมนูการใช้งาน – หน่วยความจำภายในและระบบปฎิบัติการ

realme C63 มาพร้อมชิปเซ็ต Octa-core โปรเซสเซอร์ UNISOC T612 อันทรงพลัง รองรับพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 256GB RAM ขนาดใหญ่รองรับการรันแอปพลิเคชั่นหลายตัวในพื้นหลัง ท้าให้การสลับแอปพลิเคชั่นราบรื่นยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ realme ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี DRE ซึ่งแปลง ROM เป็น RAM เสมือนเพื่อขยาย RAM realme C63 สามารถขยาย RAM 8GB ได้สูงสุด 8GB เพื่อเพลิดเพลินกับประสบการณ์ขนาด 16GB

และ realme C63 ยังจัดเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI Boost มาให้ เพื่อช่วยประเมินและวิเคราะห์การทำงานของระบบ ผ่าน AI ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรให้พร้อมทำงานในการเปิดแอพพลิเคชันต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพล่วงหน้าสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันหรือเกมที่ต้องการทรัพยากรเพื่อการทำงานหนักๆ ได้อย่างเต็มที่

AI Boost จะเข้ามาช่วยให้ระบบทำงานเปิดแอพต่างๆ ได้เร็วขึ้น ดีขึ้น และความราบรื่น ส่วนเวลาที่เล่นเกม ยังช่วยลดเวลาหน่วงลง พร้อมเพิ่มความเสถียรของเฟรมเรตได้นิ่งขึ้นได้ถึง

Air Gestures หนึ่งเดียวในเซกเมนต์

realme C63 พร้อมมอบประสบการณ์ AI ระดับเรือธง ที่รองรองรับเทคโนโลยี Mini Capsule, เทคโนโลยี Rainwater Smart Touch และระบบควบคุมแบบ air gestures ที่ให้ผู้ใช้สามารถรับสาย ปิดเสียงสายเรียกเข้า และปัดขึ้น/ลงระหว่างสตรีมวิดีโอได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ

ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการรับสาย จะมีสายเข้าหรือโทรออกก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเพราะด้วย Air Gestures จะช่วยใหชีวิตคุณง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

• รับสาย: เมื่อมีสายเข้า ให้ท้าท่าทางขึ้นไปด้านหน้ากล้องด้านหน้า 20-40 ซม. เพื่อรับสาย
• ปิดเสียงสายเรียกเข้า: การพิมพ์ฝ่ามือตรงกับกล้องหน้าและกดค้างไว้ 1.5 วินาทีเพื่อปิดเสียงการโทร

นอกจากนี้นั้นเรายังสามารถรับและปิดเสียงสายเรียกเข้าผ่านการใช้ท่าทางเมื่อไม่สะดวกที่จะสัมผัสโทรศัพท์มือถือด้วยมือทั้งสองข้าง หรือแม้แต่ปัดเพื่อสลับการสตรีมวิดีโอบนแอพวิดีโอสั้น tiktok, youtube, Instagram, facebook ทำให้สามรถใช้งานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเพียงแต่ปัดขึ้นและลงเพื่อสลับระหว่างวิดีโอสตรีมต่างๆ

นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี Rainwater Smart Touch ปลดล็อกหน้าจอได้แม้จะมีน้ำฝนหยดโดนจอก็ตาม

ระบบความปลอดภัยยังคงจัดเต็ม

โดยในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย realme C63 มีมาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ข้างตัวเครื่อง, การสแกนใบหน้าก็สแกนได้แม่นยำ หรือการล้อกด้วยด้วยเลขธรรมดา

ที่ถ่ายรูปสวย ให้ความละเอียดถึง 50 ล้านพิกเซล

realme C63 ยังคงไว้ใจได้เรื่องกล้องโดยกล้องโดยประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/1.8 และเลนส์ AI พร้อมไฟแฟลช LED ช่วยให้ถ่ายภาพได้ชัดเจนและสวยเหมือนเดิม

อีกหนึ่งไฮไลท์ในรุ่นนี้คือฟิลเตอร์ใหม่สองตัวที่เป็นภาพยนตร์และคมชัด การใช้ฟิลเตอร์สองตัวจากซีรีย์เรือธงท้าให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพในสไตล์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความ สนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพ

อีกทั้งให้เอฟเฟกต์เบลอที่สมจริงยิ่งขึ้น และปรับปรุงการปรับโทนสีผิวให้เป็นธรรมชาติ ฟังก์ชันการถ่ายภาพอื่นๆ ได้แก่ ภาพถ่าย, วิดีโอ, กลางคืน, ความละเอียดสูง, มืออาชีพ, ภาพบุคคล, ไทม์แลปส์, สโลว์โมชั่น, พาโนรามา และ Google Lens ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.05

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย realme C63ในสภาวะแสงต่าง ๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย…หมดห่วงเวลาถ่ายตอนกลางคืน ไม่ต้องกลัวว่าถ่ายออกมาแล้วจะไม่คมชัด หรือพอคืนแล้วจะถ่ายไม่ได้

ในส่วนการถ่ายภาพบุคคล Portrait จะกล้องหน้าหรือกล้องกล้องหลังก็ทำออกมาได้ดีทั้งคู่

กล้องหน้าเซลฟี่ที่มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซลถือว่าทำผลงานได้ดีมาก ๆ เหมือนเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ วางขายในตลาดตอนนี้

มอบความสนุกแบบเต็มอรรถรสด้วยจอและเสียงที่ไว้ใจได้

ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาโค้งมนจับถนัดมือ น้ำหนักเบา ทำให้พกพาสะดวก realme C63 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล : IPS-LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 1080 พิกเซล ทำให้ภาพคมชัด สีสันสดใส รับชมคอนเทนต์ได้อย่างเต็มอรรถรส ด้วยจอแสดงผลขนาดขนาดใหญ่ทำให้สามารรถมอบประสบการณ์ชมภาพยนตร์และเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน แม้ว่าจะถูกวางให้เป็นสมาร์ตโฟนราคาประหยัด

[ เล่าเท่าที่เล่น I realme C63 คือคำตอบที่ใช่ ในราคาแค่นี้ ]

realme C63 คือคำตอบของสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่าสุดๆ ในราคานี้ ฟีเจอร์ครบครัน ไม่ว่าจะถ่ายรูป เล่นเกม หรือทำงาน ในราคาที่เอื้อมถึง เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และที่ชอบมากในรุ่นนี้คือเรื่องของ AI ลดเสียงรบกวนการลดเสียงรบกวนด้วย AI เป็นคุณสมบัติขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนเบื้องหลังระหว่างการโทร มอบประสบการณ์การสื่อสารที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกล การหาสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในราคาที่เอื้อมถึงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ realme C63 ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นไปได้! ด้วยฟีเจอร์ครบครัน ประสิทธิภาพสูง และราคาที่สมเหตุสมผล realme C63 จึงเป็นคำตอบสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ตโฟนคุ้มค่าที่สุดในปีนี้

ใครกำลังมองหาสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในงบไม่เกินหมื่น แนะนำให้ลองพิจารณารุ่นนี้ดูนะ รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน!

ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย:

realme C63 มีให้เลือก 2 สีทั้ง Leather Blue และ Jade Green เปิดจำหน่ายในราคา 5,499 บาทสำหรับรุ่นความจุ 8GB+128GB จำหน่ายผ่านช่องทางโอเปอร์เรเตอร์ AIS, TRUE และ DTAC พร้อมแพคเกจเริ่มต้นต่ำสุดเพียง 2,799 บาท ช่องทางอีคอมเมิร์ชทั้ง Shopee, Lazada และ Tiktok และช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

โดยสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันในทุกช่องทางตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนพร้อมรับ realme Gift Box มูลค่า 890 บาทเลยทันที