เกมเมอร์ทั้งหลาย เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การเล่น RoV (Arena of Valor) บนสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Infinix GT 20 Pro 5G ที่จะทำให้คุณต้องร้องว้าว!
เพราะวันนี้เราได้มีโอกาสทดสอบเล่นเกมมิ่งโฟนที่ใช้ในการแข่งขัน RPL อย่างเป็นทางการ อย่าง Infinix GT 20 Pro 5G” และแน่นอนว่าหลังคุณได้อย่าวบทความนี้จบเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องคันไม้คันมืออยากทอลองเล่น GT 20 Pro 5G อย่างแน่นอน
อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกที่คุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เปิดตัว Infinix GT 20 Pro 5G สุดยอดเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ที่จะมาเขย่าวงการเกมเมอร์ให้คึกคักด้วยขุมพลังชิปเช็ตและเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง MediaTek Dimensity 8200 ULTIMATE ที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพโดย Garena RoV อย่างละเอียดในด้านต่าง ๆ อาทิ ความเสถียรในการรองรับอัตราเฟรมเรทสูง 120 FPS การรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยของตัวเครื่อง และการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น
Infinix GT 20 Pro 5G มาพร้อมความโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยีจัดเต็ม และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพจากโปรเพลเยอร์และสโมสร จึงได้เป็นเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการในศึกอีสปอร์ตระดับนานาชาติ สุดยิ่งใหญ่อย่าง RoV Pro League 2024/WINTER
แกะกล่องสำรวจอุปกรณ์
- ตัวเครื่อง Infinix GT 20 Pro 5G
- ฟิล์มกระจกนิรภัย
- สาย USB Type-C
- อะแดปเตอร์ จ่ายไฟ 45W
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- เคสซิลิโคน
- สติกเกอร์ Free Fire สำหรับแต่งเคส
- คู่มือและใบรับประกัน
ดีไซน์พรีเมียมการออกแบบเหนือจินตนาการ พร้อม Mecha Loop LED Interface
Infinix GT 20 Pro มาพร้อมขนาดตัวเครื่อง 164.3 x 75.4 x 8.2 มม. น้ำหนัก 194 กรัม กับดีไซน์แบบไซเบอร์-เมคานิกส์ เพื่อสะท้อนจิตวิญญาณของรุ่น GT ที่เปรียบเสมือนโลหะ ขุมพลัง และความเร็ว พร้อมด้วยลวดลายใบพัดที่เป็นเอกลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างทรงพลัง
จอแสดงผล FHD+ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 144Hz แบบไร้ขอบ เร่งความสว่างได้สูงสุด 1300 nits อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจากอินฟินิกซ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน IRX
ด้านบนของหน้าจอเป็นตำแหน่งของกล้องเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
ด้านล่างหน้าจอเป็นระบบนำทางแบบซอฟต์แวร์ในการทำงานขึ้นพื้นฐานต่าง ๆ
ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมการทำงานหลักไม่ว่าจะเป็นปุ่มพาวเวอร์ ที่ทำหน้าที่สำหรับ ล็อค-ปลดล็อค | เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง-ลดเสียง โดยสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นกดปุ่มพาวเวอร์ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือจะกดปุ่มพาวเวอร์พร้อมปุ่มลดเสียง เพื่อแคปหน้าจอ ตามการตั้งค่า และในส่วนด้านซ้ายไม่มีปุ่ม หรือพอร์ตใด ๆ
ขอบด้านบนของตัวเครื่องมีช่องของลำโพงเสียง [ลำโพงสเตอริโอจูนโดย JBL] ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และ IR Blaster
ต่อกันที่ขอบด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วยช่องใส่ซิมการ์ด, รูไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, พอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือถ่ายโอนข้อมูลตรงกลางตัวเครื่อง และลำโพงเสียง
ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM)
ตัวเครื่องด้านหลังของ Infinix GT 20 Pro มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย ล้ำยุค และมีความเป็นอนาคต ตามฉบับเกมมิ่งโฟน ใส่ลวดลายแบบ Mecha Loop LED Interface รองรับการปรับแสงไฟลวดลาย พร้อมไฟ MiniLEDs บริเวณแผงด้านหลัง รองรับการปรับแสงไฟลวดลาย ฝาหลังคือสุดจริง ๆ ไฟมีลูกเล่นให้เราได้เลือกใช้งานค่อนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฉดสีและเอฟเฟ็กต์ แบ่งเป็น 8 โทนเฉดสีกับเอฟเฟ็กต์ไฟ 4 สไตล์ แบ่งเป็น Breathe, Rhythm, Gradient และ Meteor
ส่วนบนเราจะพบกับโมดูลกล้องดีไซน์สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว นำโดยกล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 พร้อมระบบกันสั่น OIS และกล้องเสริมความละเอียด 2ล้านพิกเซล และไฟแฟลชที่ว่างเรียงอยู่ในกรอบ
เรื่องของเสียงก็จัดว่าพร้อมมองความบันเทิงที่มีอรรถรสแบบจัดเต็ม โดยสมาร์ทโฟน Infinix GT 20 Pro 5G มาพร้อมลำโพงสเตอริโอที่ได้ JBL แบรนด์ระดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว ต่อเนื่องทุกการใช้งาน
Infinix GT 20 Pro 5G รองรับการชาร์จด้วยโหมดไฮเปอร์ชาร์จและการชาร์จเร็ว 45W พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh และ Stable Frame-rate Engine ที่ช่วยในการจัดการพลังงาน ระบายความร้อนอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด และเมื่อต้องชาร์จก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ Infinix GT 20 Pro 5G ยังมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ขนาดใหญ่ช่วยให้เล่นเกมได้ยาวนานโดยไม่ร้อนมือ ช่วยควบคุมอุณหภูมิของอุปกรณ์ให้เหมาะสม แม้จะเล่นในโหมดกราฟิกสูงสุดก็ตาม ส่วนระบบสั่นสะเทือนแบบ 4D Linear Motor ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับประสบการณ์การเล่นเกม
หน้าจอหลัก – หน้าเมนูการใช้งาน – หน่วยความจำภายในและระบบปฎิบัติการ
Infinix GT 20 Pro 5G มากับระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14 ทำให้หน้าตาของอินเทอร์เฟซต่าง ๆ ใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟน Androidรุ่นอ่าน ๆ
ในขณะที่ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการทรัพยากรสูง
อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าฝาหลัง Infinix GT 20 Pro 5G นั้นสามารถเปลี่ยนสีได้ และมาพร้อม LED ดีไซน์ล้ำ เอาใจเกมเมอร์
บอกเลยว่าสนุก เพราะสีไฟเยอะมากจริง ๆ ไฟคือที่มีลักษณะเป็นกลไกแสดงสถานะของเครื่องระหว่างเล่นเกมอย่างสวยงามเป็นฟีเจอร์ที่ชอบมาก
Infinix GT 20 Pro 5G ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz ทำให้การเคลื่อนไหวในเกมลื่นไหลและคมชัด
ประสิทธิภาพการประมวลผลระดับท็อป Infinix GT 20 Pro 5G ทุกการใช้งานจะเพลินกว่าที่เคย ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 Ultimate ควบคู่กับ RAM สูงสุด 12GB
โดยประสิทธิภาพการเล่นเกมได้รับการสนับสนุนจาก Stable Frame-rate Engine ที่สามารถปรับการเล่นเกมให้เหมาะสม เพื่อรักษาสมดุลของอุณหภูมิและการใช้พลังงาน ส่งผลให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแต่ใช้พลังงานน้อยที่สุด
นำมาทดสอบเล่น RoV
หลังจากที่ได้ทำการทดสอบเล่นเกม RoV บน Infinix GT 20 Pro 5G ต้องบอกว่าประทับใจสุด ๆ (สมกับที่การันตีด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนในการแข่งขัน RoV Pro League 2024 Winter อย่างเป็นทางการ) ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimnesity 8200 Ultimate ทำให้การเล่นเกมลื่นไหลไร้สะดุด แม้ในช่วง Team Fight ที่มีเอฟเฟกต์จำนวนมาก ไม่มีอาการกระตุก แม้ในฉากต่อสู้หมู่
ความกว้างของจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมอัตรารีเฟรช 144Hz ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และการตอบสนองที่รวดเร็ว ช่วยให้เราเห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูได้อย่างแม่นยำ
ในเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนเรือธงเราก็ต้องไม่พลาดที่จะนำมาทดสอบเกมที่มาพร้อมกับทรัพยากรสุดโหดอย่าง Genshin Impact เกมผจญภัยแนว RPG แบบโอเพ่นเวิลด์ คุณจะได้สัมผัสการผจญภัยบนโลกแห่งจิตนาการที่มีนามว่า “โลกแห่ง Teyvat” ในโลกโอเพ่นเวิลด์แสนกว้าง ที่หากเครื่องแรงจริงต้องเล่นได้
แน่นอนว่าหลังจากได้ทดสอบเล่นคร่าว ๆ ส่วนตัวเราว่า Infinix GT 20 Pro 5G ทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโหลดเกมและเปลี่ยนฉากที่สามารถทำได้อย่างลื่นไหน หรือจะเป็นเรื่องของกราฟิกสวยงามคมชัดเมื่อทำการการตั้งค่าระดับสูง เอาเป็นว่า Infinix GT 20 Pro 5G พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งระดับท็อปที่สามารถรันเกมหนักๆ อย่าง Genshin Impact ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความเสถียร และความสวยงามของภาพ การเล่น Genshin Impact บนเครื่องนี้ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับการเล่นบนคอนโซลหรือ PC เลยทีเดียว
จะเล่น RoV หรือ Genshin Impact ก็เอาอยู่ ก็สามารถระบบระบาย แม้จะเล่นติดต่อกัน เล่นต่อเนื่องนานกว่า 2 ชั่วโมงโดยไม่มีปัญหาความร้อน ตัวเครื่องเพียงแค่อุ่นเล็กน้อยแต่ไม่ร้อนจนจับไม่ได้
และปิดท้ายกันด้วยทดสอบเรื่องจอและเสียง
อย่างที่เกริ่นไปแล้วบ้างว่า GT 20 Pro 5G มาพร้อมกับจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรช 144Hz แบบไร้ขอบ เร่งความสว่างได้สูงสุด 1300 nits ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงความสวยงามตระการตา สีสันสดใส และการเคลื่อนไหวนุ่มนวลราวกับดูภาพยนตร์ หรือแม้ดูต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลายาวนานก็ไม่ทำให้สร้างความเมื่อยล้าให้แก้ด้วยตา
ส่วนเรื่องเสียงก็ไม่ต้องห่วงเพราะ GT 20 Pro 5G มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอจาก JBL แบรนด์ระดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม ทำให้เสียงที่ออกมาคุณภาพดี ให้เสียงดังกังวาน ชัดเจน กระชับ ไม่แหลมจัดเกินไป รวม ๆ ยามใช้งานสบายหูดี!
แม้จะจัดหนักเรื่องเกม แต่ก็สถ่ายรูปสวยไม่แพ้กันใคร!
ในด้านการถ่ายภาพ Infinix GT 20 Pro มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108ล้านพิกเซล เซนเซอร์ ISOCELL HM6 พร้อมระบบกันสั่น OIS, พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, เลนส์ Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และ เลนส์ Depth : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ทำให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ก็เหมาะสำหรับการถ่ายเซลฟี่และการสตรีมเกม
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย GT 20 Pro ในสภาวะแสงต่าง ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหน้า
สรุปสเปคเบื้องต้นของ Infinix GT 20 Pro ส่งท้าย
- ขนาดตัวเครื่อง : 164.26 x 75.43 x 8.15 มม.
- น้ำหนัก : 194 กรัม
- ระบบปฏิบัติการ : XOS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว (ความละเอียด 2436 x 1080 พิกเซล) อัตรารีเฟรชเรท 144Hz กับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 360Hz และอัตราการกะพริบหน้าจอ 2340Hz PWM Dimming ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1300nits ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimnesity 8200 Ultimate
- CPU : Octa-core
- GPU : Mali-G610 MC6
- RAM : 8GB / 12GB (+12GB RAM เสมือน)
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB
- ซิมการ์ด : Dual SIM (nano + nano)
- การยืนยันตัวตน : เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและระบบสแกนใบหน้า
- กล้องหลัง : แบ่งเป็น 3 เลนส์ รายละเอียดดังนี้
- ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น
- เลนส์ Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Depth : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า : ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 (wide)
- ระบบเสียง : ลำโพง Stereo, JBL พร้อมรองรับระบบเสียง DTS และ Hi-Res Audio
- ระบบเชื่อมต่อ : 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, WiFi 6, Wi-Fi 802.11 ac, Bluetooth 5.3,GPS/GLONASS, NFC
- พอร์ต USB Type-C
- มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP54
- ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W
[ เล่าเท่าที่เล่น I Infinix GT 20 Pro 5G คือคำตอบที่คุ้มค่าที่สุด! ]
สรุปส่งท้าย… หลังจากได้ทดลองเล่นและใช้งาน Infinix GT 20 Pro 5G มาสักระยะนั้นสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่เกิดมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง หากคุณเป็นแฟนเกมและกำลังมองหาสมาร์ทโฟนเกมมิ่งตัวใหม่ Infinix GT 20 Pro 5G คือคำตอบที่คุ้มค่าที่สุด!
ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย Infinix GT 20 Pro 5G
โดยสมาร์ทโฟน Infinix GT 20 Pro 5G เปิดตัวพร้อมกับสามสีสันให้เลือก ได้แก่ Mecha Blue (ฟ้า) Mecha Orange (ส้ม) และ Mecha Silver (เงิน) โดยมีความจุให้เลือกคือ 12+256GB ในราคา 12,999 บาท พิเศษ! สำหรับทุกการสั่งซื้อทุกช่องทาง จะได้รับฟรี Game Power Gift Boxset มูลค่า 1,599 บาท พร้อมหูฟัง TWS และ Phone Cooling Fan
นอกจากนี้อินฟินิกซ์ยังได้เตรียมกิจกรรมสุดพิเศษไว้ให้แฟน ๆ ได้ร่วมสนุกด้วยการจัดทัวร์นาเมนต์การแข่งขันสุดมันส์ “Infinix GT Master” การแข่งขันเกม RoV ให้กับเหล่าเกมเมอร์ได้มาประลองฝีมือ เพื่อชิงของรางวัลมากมายมูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท
โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20 – 30 มิถุนายน 2567 ตลอดจนเตรียมพบเซอร์ไพรส์จากสองหนุ่ม โตโต้ – เมธาสิทธิ หรือ Moowan Brand Ambassador จาก Bacon Time และโอม – พฤทธิ์ หรือ Difoxn จาก Talon Esports ที่ได้มาร่วมงานกับอินฟินิกซ์เป็นครั้งแรกอีกด้วย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/InfinixMobileThailand/