![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2024/07/iPhone-17-Plus-Feature-Purple-807x454.jpg)
ในขณะที่ผู้ใช้งาน iPhone ทั่วโลกกำลังรอคอยการเปิดตัว iPhone 16 ในเดือนกันยายนนี้ แวดวงเทคโนโลยีกลับมีความตื่นเต้นเป็นพิเศษกับข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 17 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2025
ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้หลายแห่งชี้ว่า Apple กำลังเตรียมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ iPhone รุ่นนี้ ซึ่งอาจเป็นการปรับโฉมที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัว iPhone X ในปี 2017
ดีไซน์บางเฉียบ
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดของ iPhone 17 คือการออกแบบที่บางเฉียบ ตามรายงานจากผู้ผลิตชิ้นส่วนในห่วงโซ่อุปทานของ Apple ระบุว่า บริษัทกำลังพยายามลดความหนาของตัวเครื่องลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยอาจใช้แนวทางการออกแบบเดียวกับ iPad Pro รุ่น M4 ขนาด 12.9 นิ้ว ซึ่งมีความหนาเพียง 5.1 มิลลิเมตร การลดความหนาของตัวเครื่องนี้อาจส่งผลให้ iPhone 17 มีน้ำหนักเบาลงอย่างมาก ทำให้สะดวกต่อการพกพาและการใช้งานมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลว่าการลดความหนาอาจส่งผลกระทบต่อความทนทานของตัวเครื่องและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
การปรับเปลี่ยนตำแหน่งกล้อง
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า iPhone 17 จะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของชุดกล้องหลัง โดยย้ายจากมุมบนซ้ายมาอยู่ตรงกลางด้านบนของตัวเครื่อง คล้ายคลึงกับการออกแบบของ Google Pixel การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความแตกต่างด้านการออกแบบอย่างชัดเจน แต่ยังอาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของกล้องและความสมดุลของตัวเครื่องเมื่อถือในมือ
จอแสดงผลประสิทธิภาพสูง
ในส่วนของจอแสดงผล คาดว่า iPhone 17 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี ProMotion ที่รองรับอัตรารีเฟรชตั้งแต่ 1Hz ถึง 120Hz ในทุกรุ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งานและประหยัดพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า Apple กำลังพัฒนาการเคลือบหน้าจอแบบใหม่ที่มีคุณสมบัติป้องกันการสะท้อนแสงและทนต่อรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี Ceramic Shield ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
![](http://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2024/07/iPhone-17-Plus-Feature-1024x576.jpg)
การปรับปรุงกล้องหน้าและ Dynamic Island
การปรับปรุงกล้องหน้าและ Dynamic Island เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่คาดว่าจะมีใน iPhone 17 โดยอาจมีการปรับลดขนาดของ Dynamic Island ให้กะทัดรัดยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าจอที่ใช้งานได้ พร้อมทั้งอัปเกรดกล้องหน้าเป็นความละเอียด 24 ล้านพิกเซล จากเดิม 12 ล้านพิกเซล การเพิ่มความละเอียดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ที่มีรายละเอียดสูงและสามารถครอปภาพได้มากขึ้นโดยไม่สูญเสียคุณภาพ
ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง คาดว่าจะใช้ชิป A19
ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน iPhone 17 คาดว่าจะมาพร้อมกับชิป A19 ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรที่ได้รับการปรับปรุง แม้ว่าจะไม่ใช่ชิป 2 นาโนเมตรตามที่มีการคาดการณ์ในตอนแรก แต่ชิปรุ่นใหม่นี้ก็คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPU, GPU และ Neural Engine สำหรับงานด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า iPhone 17 รุ่นไฮเอนด์อาจมาพร้อมกับ RAM ขนาด 12GB ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแบบมัลติทาสก์และรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการทรัพยากรสูงได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้อาจส่งผลให้ iPhone 17 มีราคาสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจมีราคาสูงกว่า iPhone 15 Pro Max ซึ่งปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ iPhone 17 อาจกลายเป็น iPhone ที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา
แม้ว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงการคาดการณ์และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ก่อนการเปิดตัวจริงในปี 2025 แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Apple ในการผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและการอัปเดตเกี่ยวกับ iPhone 17 ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ ซึ่งอาจเป็นการปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งของ Apple
อ้างอิง – Mmacrumors.com