ตามรายงานล่าสุด บริษัท Berkshire Hathaway ของนักลงทุนชื่อดัง Warren Buffett ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท Apple Inc. ออกไปเกือบครึ่งหนึ่งของการถือครองทั้งหมดในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2567

การลดสัดส่วนการลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้ปรับลดการถือครองลงประมาณร้อยละ 13 ในไตรมาสแรกของปีเดียวกัน

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Berkshire Hathaway ได้ดำเนินการเพิ่มเงินสดสำรองอย่างต่อเนื่อง โดยลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นหลักหลายตัว การขายหุ้น Apple ครั้งล่าสุดนี้ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองของ Berkshire Hathaway ลดลงจากประมาณ 789 ล้านหุ้น เหลือเพียง 400 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.6 ของบริษัท Apple ทั้งหมด

มูลค่าการถือครองหุ้น Apple ของ Berkshire Hathaway ปัจจุบันอยู่ที่ 84.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 135.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2566 Berkshire Hathaway เคยถือครองหุ้น Apple จำนวน 905 ล้านหุ้น ซึ่งหากคำนวณด้วยราคาปัจจุบันจะมีมูลค่าสูงถึง 198.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การตัดสินใจลดสัดส่วนการลงทุนครั้งใหญ่นี้อาจสะท้อนถึงมุมมองของบัฟเฟตต์ต่อสถานการณ์ตลาดและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Apple แม้ว่าก่อนหน้านี้ บัฟเฟตต์จะเคยให้ความมั่นใจว่า Apple จะยังคงเป็นหุ้นที่ถือครองมากที่สุดในพอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway เว้นแต่จะมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการจัดสรรเงินทุน

ผลจากการขายหุ้นครั้งนี้ทำให้เงินสดสำรองของ Berkshire Hathaway เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมียอดรวมสูงถึง 277 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากไตรมาสก่อนหน้า

แม้จะมีการลดสัดส่วนการถือครองลงอย่างมาก Tim Cook ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple ยังคงแสดงความชื่นชมต่อการลงทุนของ Berkshire Hathaway โดยกล่าวในการประชุมประจำปีของบริษัทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีพวกเขาเป็นผู้ถือหุ้น”

แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของบัฟเฟตต์สร้างความตื่นตระหนกให้วงการการลงทุนไม่น้อย ใครจะรู้ว่าอนาคตของ “แอปเปิลทอง” จะเป็นเช่นไร และเหตุใด “เทพหุ้น” ถึงได้ตัดสินใจเด็ดขาดเช่นนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า การขยับครั้งใหญ่นี้จะส่งผลอย่างไรต่อตลาดหุ้นโลกในระยะยาว

อ้างอิง |  9to5mac.com