OnePlus บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศจีน ได้เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด OnePlus Buds Pro 3 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ
ทำให้สามารถแข่งขันกับ AirPods Pro 2 ของ Apple ได้อย่างน่าสนใจ โดยมีจุดเด่นสำคัญคือราคาที่ย่อมเยากว่า โดยวางจำหน่ายที่ 179 ดอลลาร์สหรัฐ
ในด้านการออกแบบ OnePlus Buds Pro 3 มีลักษณะคล้ายคลึงกับ AirPods Pro โดยใช้ดีไซน์แบบใส่ในหูพร้อมจุกซิลิโคนและก้านยาว แต่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือสีเงินของก้านหูฟัง และรูปทรงของเคสชาร์จที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เคสชาร์จมีรูปทรงรีที่กว้างและมนกว่า AirPods Pro อีกทั้งยังหุ้มด้วยวัสดุคล้ายหนังที่ให้ลุคที่โดดเด่น การสวมใส่ให้ความรู้สึกสบายใกล้เคียงกับ AirPods Pro เนื่องจากใช้จุกซิลิโคน นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการทำงานด้วยการบีบที่ก้านหูฟัง สำหรับการเล่น/หยุดเพลง ข้ามแทร็ก เล่นซ้ำ และปรับระดับเสียง
คุณภาพเสียงของ OnePlus Buds Pro 3 ถือว่าโดดเด่นมาก โดยให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า AirPods Pro 2 แม้จะไม่มีตัวเลือกในการปรับ EQ ก็ตาม หูฟังรุ่นนี้มอบความสมดุลระหว่างเสียงเบสและความถี่สูงได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยเสียงที่เต็มอิ่มและการแยกแยะแทร็กที่ชัดเจน ความคมชัดของเสียงและโน้ตความถี่สูงเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ DAC สองตัวต่อหูฟังหนึ่งข้าง โดยแบ่งเป็นหนึ่งตัวสำหรับลำโพงทวีตเตอร์และอีกหนึ่งตัวสำหรับวูฟเฟอร์
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ของ OnePlus Buds Pro 3 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทัดเทียมกับหูฟังระดับไฮเอนด์ทั่วไป โดยสามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้เสียงรอบข้างได้ตามต้องการ
แบตเตอรี่ของ OnePlus Buds Pro 3 สามารถใช้งานได้นานถึง 43 ชั่วโมง ซึ่งยาวนานกว่า AirPods Pro ถึง 13 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ตรวจจับหูเมื่อใช้งานร่วมกับ iPhone และมีคุณภาพไมโครโฟนที่ดีสำหรับการโทร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก OnePlus ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หูฟังรุ่นนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android เป็นหลัก ผู้ใช้ iPhone จะไม่ได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ของ AirPods เช่น การเชื่อมต่อแบบรวดเร็วและการสลับอุปกรณ์อัตโนมัติ รวมถึงไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ spatial audio ได้ ยกเว้นเมื่อจับคู่กับโทรศัพท์ Google Pixel ที่รองรับฟีเจอร์นี้
โดยสรุปแล้ว OnePlus Buds Pro 3 นำเสนอคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ระบบตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ในราคาที่คุ้มค่า แม้จะขาดการผสานรวมกับระบบนิเวศของ Apple แต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องมีฟีเจอร์พิเศษเฉพาะของ Apple
อ้างอิง | Macrumors.com