ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กระแสความสนใจเกี่ยวกับ iPhone SE รุ่นที่ 4 ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า Apple กำลังเร่งพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้อย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า iPhone SE รุ่นประหยัดนี้จะเปลี่ยนจากการใช้จอแสดงผลแบบ LCD (Liquid Crystal Display) มาเป็นจอแสดงผลแบบ OLED (Organic Light-Emitting Diode) ที่มีคุณภาพสูงกว่า

ล่าสุด รายงานจากแหล่งข่าวในเอเชียได้ยืนยันแนวโน้มดังกล่าว ทำให้เชื่อได้ว่า Apple กำลังวางแผนยกระดับเทคโนโลยีการแสดงผลของ iPhone SE อย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ iPhone SE รุ่นที่ 4 มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ iPhone รุ่นอื่นๆ ที่ใช้จอ OLED มากขึ้น แม้จะยังคงอยู่ในระดับราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อวงการอุตสาหกรรมการผลิตจอแสดงผล โดยเฉพาะผู้ผลิตจอ LCD รายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Japan Display (JDI) และ Sharp ที่จะถูกคัดออกจากห่วงโซ่อุปทานของ iPhone นับเป็นจุดจบของยุคจอ LCD สำหรับ iPhone อย่างแท้จริง

Apple เริ่มใช้จอ OLED ครั้งแรกใน iPhone X เมื่อปี 2560 และได้ทยอยใช้จอ OLED แทนที่จอ LCD ในรุ่น iPhone ระดับสูงมาโดยตลอด ส่งผลให้ยอดการผลิตจอ LCD สำหรับ iPhone ของ JDI และ Sharp ลดลงอย่างมาก จากเดิมที่เคยผลิตถึง 200 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2558 เหลือเพียงประมาณ 20 ล้านชิ้นในปี 2566

ในขณะเดียวกัน Apple ได้เริ่มสั่งซื้อจอ OLED สำหรับ iPhone SE รุ่นใหม่จากบริษัท BOE Technology Group ของจีน และ LG Display ของเกาหลีใต้ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานของบริษัท

iPhone SE รุ่นที่ 4 คาดว่าจะมาพร้อมกับการปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยจะมีดีไซน์คล้าย iPhone 14 มีระบบ Face ID แทน Touch ID พอร์ต USB-C ปุ่ม Action โมเด็ม 5G ที่ออกแบบโดย Apple เอง ชิปประมวลผล A18 และหน้าจอแบบเต็มที่ไม่มีปุ่มโฮม นอกจากนี้ ขนาดหน้าจอคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 4.7 นิ้วเป็น 6.06 นิ้ว และ RAM ภายในอาจเพิ่มขึ้นเป็น 8GB จาก 4GB ในรุ่นปี 2565

ผู้ผลิตชิ้นส่วนของ Apple คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยอาจวางจำหน่ายก่อนเทศกาลตรุษจีนในเดือนมกราคม 2568 หรืออาจเป็นเดือนมีนาคม 2568 ตามประเพณีการเปิดตัว iPhone SE ในรุ่นก่อนหน้า

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการยกระดับเทคโนโลยีของ iPhone SE เท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดฉากยุคจอ LCD ใน iPhone อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตจอแสดงผลทั่วโลก และตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Apple ในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

อ้างอิง | Phonearena.com