Apple เปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Plus อย่างเป็นทางการในงาน Event ล่าสุด โดยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนหน้า แต่มาพร้อมนวัตกรรมภายในที่น่าสนใจหลายประการ
Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Plus อย่างเป็นทางการ นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในทุกด้าน
หัวใจสำคัญของ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus คือชิปประมวลผล A18 ที่ทรงพลัง ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 ชิปนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประหยัดพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ โดย CPU แบบ 6-core มีความเร็วเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิป A16 Bionic ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงถึง 30% ส่วน GPU แบบ 5-core นั้นเร็วขึ้นสูงสุด 40% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 35%
ชิป A18 นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูงได้อย่างลื่นไหล รวมถึงรองรับการประมวลผลภาพถ่ายและการทำงานของ Apple Intelligence ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในด้านการถ่ายภาพ iPhone ทั้งสองรุ่นได้รับการปรับปรุงระบบกล้องครั้งใหญ่ โดยมีกล้อง Fusion 48MP พร้อมตัวเลือกเทเลโฟโต้ 2 เท่าที่มีคุณภาพระดับออปติคัล ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมุมมองมากขึ้น เสมือนมีกล้อง 2 ตัวในกล้องเดียว
นอกจากนี้ยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP ใหม่ที่สามารถถ่ายภาพมาโครได้ด้วยระบบออโต้โฟกัส และรับแสงได้มากขึ้นสูงสุด 2.6 เท่า เพื่อภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงขึ้น
Apple ได้แนะนำตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวควบคุมนี้ประกอบด้วยสวิตช์ที่มีการขยับขึ้นลงของปุ่มเพื่อให้ประสบการณ์แบบการคลิก พร้อมด้วยเซ็นเซอร์แรงกดความแม่นยำสูงและเซ็นเซอร์แบบคาปาซิทีฟ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดกล้อง ถ่ายภาพ และเริ่มการบันทึกวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว
ในด้านความปลอดภัยและการสื่อสาร iPhone รุ่นใหม่รองรับการส่งข้อความผ่านดาวเทียม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารได้แม้อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณเซลลูลาร์หรือ Wi-Fi นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติวิดีโอสดสำหรับ SOS ฉุกเฉิน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดหรือรูปภาพกับศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินในระหว่างการโทรฉุกเฉิน เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
Apple Intelligence เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus โดยใช้ประโยชน์จากพลังของ Apple Silicon และโมเดลเจเนอเรทีฟเพื่อทำความเข้าใจและสร้างภาษากับรูปภาพ ทำให้การทำงานในชีวิตประจำวันสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ระบบนี้ช่วยในการปรับปรุงการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปเนื้อหาของข้อความ รวมถึงการสร้าง Genmoji ที่ไม่ซ้ำใครและ Image Playground ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ในด้านการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม iPhone ทั้งสองรุ่นใช้วัสดุรีไซเคิลมากกว่า 30% โดยรวม ซึ่งรวมถึงการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85% ในตัวเครื่อง และโลหะรีไซเคิล 80% หรือมากกว่าในส่วนประกอบหลายส่วน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังทำจากโคบอลต์รีไซเคิล 100% และเป็นครั้งแรกสำหรับ iPhone ที่มีการใช้ลิเทียมรีไซเคิลมากกว่า 95% สอดคล้องกับเป้าหมาย Apple 2030 ที่มุ่งมั่นให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ทั้งหมดของบริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้
ราคาและการวางจำหน่าย iPhone 16 และ iPhone 16 Plus
iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มีให้เลือกในห้าสีสันสดใส ได้แก่ น้ำเงินอัลตร้ามารีน เขียวอมฟ้า ชมพู ขาว และดำ โดยมีความจุให้เลือก 128GB, 256GB และ 512GB ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท สำหรับ iPhone 16 และ 34,900 บาท สำหรับ iPhone 16 Plus
ผู้สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน เวลา 19:00 น. (เวลาประเทศไทย) และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายน โดย Apple มีโปรแกรมแลกเปลี่ยนที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับเครดิตมูลค่าตั้งแต่ 4,500 บาท ถึง 22,600 บาท เมื่อนำ iPhone 12 หรือรุ่นที่สูงกว่ามาแลก
ด้วยนวัตกรรมและการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกด้าน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ทั้งในด้านประสิทธิภาพ การถ่ายภาพ ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อ้างอิง | Macrumors.com
