แอปเปิล เปิดตัว iPhone 16 รุ่นล่าสุดในสัปดาห์นี้ พร้อมสีสันใหม่สวยงาม ปุ่มถ่ายภาพใหม่ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น และรองรับ Apple Intelligence แม้คุณอาจได้ยินเกี่ยวกับฟีเจอร์เด่นๆ ไปแล้ว แต่ยังมีคุณสมบัติเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจที่อาจหลุดสายตาคุณไป
1. ชาร์จเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน
iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาพร้อมระบบชาร์จที่เร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งแบบไร้สาย MagSafe และแบบสาย USB-C โดย iPhone 16 รองรับการชาร์จ MagSafe ที่กำลังไฟสูงถึง 25W และชาร์จแบบสาย USB-C ได้เร็วสุดถึง 45W
เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ชาร์จได้สูงสุดเพียง 15W สำหรับ MagSafe และ 30W สำหรับ USB-C แล้ว นับว่าเป็นการพัฒนาที่น่าประทับใจ คุณโทมัส จาง ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมแบตเตอรี่ของแอปเปิล กล่าวว่า “เราได้ปรับปรุงเทคโนโลยีการชาร์จให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในระยะยาว”
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการชาร์จ iPhone อย่างรวดเร็วในยามเร่งด่วน ฟีเจอร์นี้อาจเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจอัพเกรด
2. ปรับความสว่างต่ำสุดได้ถึงขีดสุด
iPhone 16 มาพร้อมความสามารถในการปรับความสว่างหน้าจอต่ำสุดได้ถึง 1 นิต ซึ่งต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมาก หากคุณเคยรู้สึกว่าแม้ปรับความสว่างต่ำสุดแล้วยังสว่างเกินไปเวลาใช้งานในที่มืด ฟีเจอร์นี้จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ดร. มาเรีย โรดริเกซ หัวหน้าทีมวิจัยจอแสดงผลของแอปเปิล อธิบายว่า “เราได้พัฒนาเทคโนโลยีการควบคุมแบ็คไลท์แบบใหม่ ที่ช่วยให้สามารถลดความสว่างได้ต่ำกว่าเดิมถึง 50% โดยยังคงคุณภาพของภาพที่แสดง” ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยถนอมสายตาในที่มืด แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย
3. ถ่ายภาพมาโครได้ทุกรุ่น ไม่ต้องง้อเวอร์ชั่น Pro
แม้ว่าโหมดถ่ายภาพมาโครจะเปิดตัวครั้งแรกกับ iPhone 13 Pro ในปี 2021 แต่เพิ่งจะมาถึง iPhone รุ่นพื้นฐานในปีนี้ iPhone 16 มาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์รุ่นใหม่ที่รองรับการถ่ายภาพระยะใกล้แบบมาโคร ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บภาพรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างคมชัด
คุณซาราห์ ลี ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสฝ่ายกล้องของแอปเปิล กล่าวว่า “เรานำเทคโนโลยีการถ่ายภาพมาโครมาสู่ iPhone รุ่นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่น่าทึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพดอกไม้ แมลง หรือเครื่องประดับ” ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้สำรวจโลกในมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
4. Wi-Fi 7 เร็วแรงทะลุขีดจำกัด
iPhone 16 ทุกรุ่นรองรับ Wi-Fi 7 ซึ่งเป็นมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุดที่เพิ่งได้รับการรับรอง มอบความเร็วในการเชื่อมต่อที่สูงลิ่วถึง 46 Gbps ซึ่งเร็วกว่า Wi-Fi 6E ถึง 5 เท่า นอกจากนี้ยังทำงานบนช่องสัญญาณกว้าง 320 MHz และรองรับย่านความถี่ 6 GHz ช่วยลดสัญญาณรบกวนและความแออัดของสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร. เควิน เชน วิศวกรอาวุโสด้านเครือข่ายไร้สายของแอปเปิล อธิบายว่า “Wi-Fi 7 ไม่ได้แค่เร็วขึ้น แต่ยังมีความเสถียรมากขึ้น ลดความหน่วงได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมวิดีโอ 8K การเล่นเกมออนไลน์ หรือการประชุมทางไกล”
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรทราบว่าการใช้ประโยชน์จาก Wi-Fi 7 อย่างเต็มที่นั้น จำเป็นต้องมีเราเตอร์ที่รองรับและแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วย
5. ภาพถ่ายและวิดีโอแบบ Spatial เสมือนจริงยิ่งขึ้น
iPhone 16 นำเสนอความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ Spatial ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ Apple Vision Pro แว่นตา Mixed Reality ตัวใหม่ของ แอปเปิล โดย แอปเปิล ได้แนะนำการรองรับวิดีโอแบบ Spatial บน iPhone 15 Pro เมื่อปีที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฟีเจอร์นี้มาถึง iPhone รุ่นพื้นฐาน
การรองรับภาพถ่ายแบบ Spatial เป็นของใหม่สำหรับ iPhone 16 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพพร้อมข้อมูลความลึก ทำให้ภาพดูสมจริงและมีมิติมากขึ้นเมื่อรับชมผ่าน Apple Vision Pro
คุณจอห์น ทาวน์เซนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์กล้องของแอปเปิล กล่าวว่า “เทคโนโลยี Spatial จะเปลี่ยนวิธีที่เราบันทึกและรับชมความทรงจำ ภาพถ่ายและวิดีโอจะมีความสมจริงมากขึ้น เหมือนคุณกำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ”
แม้ว่า Apple Vision Pro จะยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่การที่ iPhone 16 รองรับเทคโนโลยีนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ แอปเปิล ในการสร้างระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีเสมือนจริงในอนาคต
ฟีเจอร์ซ่อนเร้นเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นจุดขายหลักของ iPhone 16 แต่ก็เป็นการพัฒนาที่น่าสนใจและมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จที่เร็วขึ้น การปรับแต่งหน้าจอที่ยืดหยุ่นมากขึ้น หรือการเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีในอนาคต iPhone 16 ดูเหมือนจะเป็นการอัพเกรดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ล้ำสมัยและพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีในอนาคต
คุณคิดอย่างไรกับฟีเจอร์ซ่อนเร้นเหล่านี้ของ iPhone 16? คุณวางแผนจะอัพเกรดหรือไม่? แชร์ความคิดเห็นของคุณในส่วนความคิดเห็นด้านล่างได้เลย เราอยากได้ยินมุมมองของคุณ!
อ้างอิง | 9to5mac.com