Apple Watch Series 10 เปิดตัวแล้วพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย ทั้งหน้าจอใหญ่ขึ้น ดีไซน์บางลง และความสามารถในการแยกเสียงสนทนาที่ได้รับการยกย่องว่า “เหนือความคาดหมาย” จากนักวิจารณ์ชั้นนำ นับเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทวอทช์ครั้งสำคัญ

Apple ได้เปิดตัว Apple Watch Series 10 รุ่นล่าสุดของนาฬิกาอัจฉริยะชื่อดัง โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ในหลายด้าน ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นด้วยขนาดตัวเรือน 42 มม. และ 46 มม. ดีไซน์ที่บางลงกว่ารุ่นก่อนถึง 10% และตัวเลือกสีใหม่อย่าง Jet Black ที่มาพร้อมกับวัสดุอะลูมิเนียมขัดเงา

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความสามารถในการชาร์จที่เร็วขึ้น ลำโพงในตัวที่สามารถเล่นเสียงได้ ระบบแยกเสียงสนทนาสำหรับการโทร แอปพลิเคชัน Depth และ Tides สำหรับกิจกรรมทางน้ำ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่างการตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับบน watchOS 11

หน้าจอใหญ่ขึ้น ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า

Victoria Song นักเขียนจาก The Verge กล่าวถึงหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นของ Series 10 ว่า “โดยปกติแล้วฉันมักจะต่อต้านเทรนด์นาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่หน้าจอของ Series 10 นั้นคุ้มค่ากับทุกมิลลิเมตรจริงๆ” เธอยังเสริมอีกว่า “ฉันไม่ได้คิดถึงหน้าจอของ Ultra เลย Series 10 มีน้ำหนักเบากว่าครึ่งหนึ่ง และด้วยความหนาเพียง 9.7 มม. ทำให้บางกว่า Ultra ถึง 30% สวมใส่สบายใต้แขนเสื้อ ไม่เกะกะระหว่างเล่นพิลาทีส และไม่เลื่อนไปมาบนข้อมือขณะวิ่ง”

นอกจากนี้ หน้าจอ OLED แบบมุมกว้างยังได้รับคำชื่นชมว่าสามารถมองเห็นเวลาได้จากทุกมุมมอง ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ปุ่มบนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีนิ้วใหญ่หรือต้องการความแม่นยำในการสัมผัส

นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ: การตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ฟีเจอร์การตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจ แม้ว่านักวิจารณ์จะยังไม่ได้ทดสอบอย่างละเอียด เนื่องจากเพิ่งเปิดใช้งานได้ไม่นาน ฟีเจอร์นี้ใช้เซ็นเซอร์วัดความเร่งเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวเล็กๆ ที่ข้อมือ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการหายใจที่ผิดปกติ หากพบความผิดปกติบ่อยครั้งในหลายคืน อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนและสุขภาพโดยรวม การที่ Apple Watch Series 10 สามารถตรวจจับภาวะนี้ได้ อาจช่วยให้ผู้ใช้ตระหนักถึงปัญหาและปรึกษาแพทย์ได้ทันท่วงที นับเป็นก้าวสำคัญในการใช้เทคโนโลยีสวมใส่เพื่อติดตามสุขภาพอย่างครอบคลุม

ดีไซน์ที่เรียบหรู น้ำหนักเบา

David Phelan จาก Forbes ชื่นชมดีไซน์ที่บางลงและสีสัน Jet Black ว่า “บนข้อมือ Series 10 ขนาด 46 มม. ให้ความรู้สึกเรียบหรูและมีสไตล์มากกว่า Ultra 2 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังรู้สึกถึงความแตกต่างของน้ำหนักได้อย่างชัดเจน” เขายังเสริมอีกว่า “ส่วนหนึ่งของความหรูหรานี้มาจากการที่ Apple เน้นความเงางามในปีนี้ วัสดุอะลูมิเนียมได้รับการขัดเงาด้วยอนุภาคนาโนก่อนจะผ่านกระบวนการแอโนไดซ์ 30 ขั้นตอน สีสัน Jet Black นั้นดูดีมาก ชวนให้นึกถึงสีเดียวกันบน iPhone 7 เมื่อปี 2016”

น้ำหนักที่เบาลงของ Series 10 เป็นจุดเด่นที่สำคัญ โดยรุ่น 46 มม. มีน้ำหนักเพียง 42 กรัมหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือก เมื่อเทียบกับ Apple Watch Ultra 2 ที่มีน้ำหนัก 62 กรัม ทำให้ Series 10 เหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายมากขึ้น

ประสิทธิภาพด้านเสียงที่ดีขึ้น

Lexy Savvides จาก CNET ทดสอบความสามารถในการเล่นเสียงผ่านลำโพงของ Series 10 และพบว่า “เสียงดังสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 92 เดซิเบล แต่เพลงส่วนใหญ่ที่เล่นอยู่ในช่วง 80 ถึง 87 เดซิเบล” แม้ว่าจะไม่ดังเท่ากับลำโพงของสมาร์ทโฟน แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การฟังเพลงขณะออกกำลังกายหรือการรับฟังการแจ้งเตือน

เธอยังทดสอบระบบแยกเสียงสนทนาในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน และกล่าวว่า “ระบบแยกเสียงสนทนาของ Apple Watch Series 10 นั้นเหนือความคาดหมายจริงๆ แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก เสียงสนทนายังคงชัดเจน เหมือนกับว่าเสียงรบกวนอยู่ห่างออกไปเป็นช่วงตึก” ฟีเจอร์นี้ใช้ประโยชน์จาก Neural Engine เพื่อกรองเสียงรบกวนระหว่างการโทรหรือ FaceTime ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของผู้ใช้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น กลางแจ้งในวันที่ลมแรงหรือในร้านอาหารที่คนพลุกพล่าน

การชาร์จที่รวดเร็วขึ้น

Todd Haselton จาก CNBC ชื่นชมความเร็วในการชาร์จที่เพิ่มขึ้น โดยกล่าวว่า “การชาร์จนั้นยอดเยี่ยมมาก Series 10 มีขดลวดชาร์จใหม่ใต้กระจกด้านหลัง ที่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน” ความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็วนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้ที่มีตารางเวลาที่ยุ่ง หรือต้องการชาร์จอย่างรวดเร็วก่อนออกจากบ้านหรือระหว่างการเดินทาง

เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 9 รุ่นก่อนหน้า Series 10 มีการปรับปรุงที่โดดเด่นในหลายด้าน:

1. ขนาดหน้าจอ: Series 10 มีหน้าจอใหญ่กว่า ทำให้การอ่านและโต้ตอบกับข้อมูลบนหน้าจอสะดวกยิ่งขึ้น
2. ความบาง: ด้วยดีไซน์ที่บางลง 10% ทำให้ Series 10 สวมใส่สบายกว่าและดูเรียบหรูยิ่งขึ้น
3. ประสิทธิภาพด้านเสียง: ระบบแยกเสียงสนทนาและความสามารถในการเล่นเสียงผ่านลำโพงเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่มีใน Series 9
4. การชาร์จ: Series 10 มีความเร็วในการชาร์จที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที
5. ฟีเจอร์สุขภาพ: การเพิ่มความสามารถในการตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นการยกระดับการติดตามสุขภาพที่สำคัญ
6. ดีไซน์: ตัวเลือกสี Jet Black ใหม่และกระบวนการขัดเงาพิเศษทำให้ Series 10 มีความสวยงามและหรูหรามากขึ้น

แอปพลิเคชันใหม่สำหรับกิจกรรมทางน้ำ

Apple Watch Series 10 มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน Depth และ Tides ที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมทางน้ำโดยเฉพาะ แอป Depth ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามความลึกและระยะเวลาที่อยู่ใต้น้ำได้ ในขณะที่แอป Tides ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำขึ้นน้ำลงในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักว่ายน้ำ นักดำน้ำ หรือผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ

ฟีเจอร์นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการพัฒนา Apple Watch ให้เป็นอุปกรณ์ที่ครอบคลุมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่เพียงแต่เป็นอุปกรณ์ติดตามสุขภาพและฟิตเนสเท่านั้น

บทสรุป: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของ Apple Watch

Apple Watch Series 10 นับเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่น่าสนใจ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพและการใช้งานทั่วไป พร้อมดีไซน์ที่สวยงามและบางเบาขึ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่

จุดเด่นสำคัญของ Series 10 ได้แก่:

• หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า
• ดีไซน์ที่บางและเบากว่ารุ่นก่อนหน้า
• ระบบแยกเสียงสนทนาที่ได้รับคำชื่นชมว่า “เหนือความคาดหมาย”
• การเพิ่มความสามารถในการตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
• การชาร์จที่รวดเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
• แอปพลิเคชันใหม่สำหรับกิจกรรมทางน้ำ

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Apple Watch Series 9 อาจต้องพิจารณาว่าการอัปเกรดนี้คุ้มค่ากับราคาหรือไม่ ในขณะที่ผู้ที่ใช้รุ่นเก่ากว่าหรือกำลังมองหานาฬิกาอัจฉริยะเป็นครั้งแรก อาจพบว่า Series 10 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ด้วยการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการปรับปรุงและซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย Apple Watch Series 10 จึงเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทวอทช์ครั้งสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสวมใส่อย่างต่อเนื่อง

อ้างอิง | Macrumors.com