News

iPhone 16 กับพอร์ต USB-C ก้าวใหม่ของ Apple สู่มาตรฐานสากล เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและความเข้ากันได้กับอุปกรณ์หลากหลาย

Apple เปิดตัว iPhone 16 รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นคือการใช้พอร์ต USB-C แทนที่พอร์ต Lightning แบบเดิม เปิดโลกแห่งการเชื่อมต่อและการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

iPhone 16 ทุกรุ่นมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์ต่อพ่วงได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น Pro และ Pro Max ที่รองรับความเร็ว USB-3 ซึ่งสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วถึง 10 Gbps ทำให้การทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การชาร์จแบตเตอรี่แบบสากล

ด้วยพอร์ต USB-C ผู้ใช้ iPhone 16 สามารถใช้สายชาร์จเดียวกันกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น iPad, Mac หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น Apple ให้สายชาร์จ USB-C คุณภาพดีมาในกล่อง แต่ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อสายชาร์จจากแบรนด์อื่นได้ตามต้องการ

การชาร์จ iPhone 16 ให้เร็วที่สุดควรใช้อะแดปเตอร์ขนาด 30 วัตต์ ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จจาก 0% เป็น 50% ได้ภายในเวลาประมาณ 30 นาที นอกจากนี้ iPhone 16 ยังสามารถใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองชาร์จอุปกรณ์อื่นได้ด้วยกำลังไฟ 4.5 วัตต์ เช่น ชาร์จ AirPods หรือแม้แต่ iPhone เครื่องอื่น

การเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอก

iPhone 16 สามารถเชื่อมต่อกับจอภายนอกได้ง่ายๆ ด้วยสาย USB-C to HDMI เพื่อแสดงผลหน้าจอบนทีวีหรือมอนิเตอร์ 4K สำหรับการนำเสนองานหรือเล่นเกม หากต้องการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน แนะนำให้ใช้ Apple USB-C Digital AV Adapter ที่ช่วยให้เชื่อมต่อ HDMI พร้อมชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยได้

การเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วยฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกและการ์ด SD

ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ USB-C หรือการ์ดรีดเดอร์ SD เพื่อจัดการไฟล์ผ่านแอป Files ได้โดยตรง เหมาะสำหรับการนำเข้าภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลสู่แอป Photos โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์

สำหรับ iPhone 16 Pro แอปกล้องสามารถบันทึกวิดีโอ ProRes 4K ที่ความเร็วสูงถึง 120 FPS ไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล USB-3 ภายนอกได้โดยตรง ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับนักสร้างคอนเทนต์มืออาชีพที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ โดยการใช้งานนี้จำเป็นต้องใช้สาย USB-3 เพื่อรองรับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 10 Gbps

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย

USB-C บน iPhone 16 รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมแบบปลั๊กแอนด์เพลย์ได้หลากหลาย โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เพิ่มเติม เช่น:

  • คีย์บอร์ด USB สำหรับการพิมพ์งาน
  • ไมโครโฟน USB-C สำหรับการบันทึกเสียงคุณภาพสูง
  • อะแดปเตอร์ USB-C to Ethernet สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบมีสาย
  • คีย์บอร์ด MIDI สำหรับการสร้างเพลงด้วยแอป GarageBand

นอกจากนี้ iPhone 16 ยังรองรับหูฟัง USB-C ทั่วไป รวมถึง Apple USB-C EarPods ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB-C ได้ด้วย

การใช้งานร่วมกับฮับ USB-C แบบหลายพอร์ต

ผู้ใช้สามารถใช้ฮับ USB-C แบบหลายพอร์ตกับ iPhone 16 ได้ เช่น ฮับ 5-in-1 ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับจอภายนอก ชาร์จแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB อื่นๆ พร้อมกันได้ อย่างไรก็ตาม ควรระวังเรื่องกำลังไฟที่ iPhone จ่ายออกมาได้สูงสุดที่ 4.5 วัตต์ ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับอุปกรณ์บางชนิด

ข้อควรระวังเกี่ยวกับสาย USB-C

ผู้ใช้ควรทราบว่าสาย USB-C ไม่ได้มีคุณภาพเท่ากันทุกเส้น บางเส้นรองรับเฉพาะการชาร์จ ในขณะที่บางเส้นรองรับการถ่ายโอนข้อมูลด้วย สำหรับการใช้งานกับ iPhone 16 Pro ที่ต้องการความเร็วสูงสุด ควรเลือกใช้สาย USB-3 ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Apple นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานการเชื่อมต่อที่เป็นสากลมากขึ้นในวงการสมาร์ทโฟน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์เสริมร่วมกันได้อย่างสะดวกมากขึ้น และลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระยะยาว

อ้างอิง | 9to5mac.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เสียวหมี่ประกาศวางจำหน่ายแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6S Pro และ Redmi Pad Pro พร้อมด้วยสมาร์ทโฟน Redmi 13 
ลือ Apple อาจให้ Samsung เป็นคนหาจอ AMOLED 120Hz สำหรับรุ่น iPhone 13 Pro
Google Home Max ลำโพงอัจฉริยะรุ่นใหญ่สุด ถูกประกาศหยุดขายแล้ว

Leave Your Reply

*