Synology ผู้นำด้านโซลูชันการจัดเก็บและปกป้องข้อมูล เผยสถิติการโจมตีทางไซเบอร์ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่เพิ่มขึ้น 22% ต่อสัปดาห์ พร้อมเปิดตัว 4 โซลูชันใหม่ในปี 2024 เพื่อยกระดับความปลอดภัยข้อมูลองค์กร
นายรหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมี 2 เทรนด์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรทั่วโลก ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) และการหันมาใช้ระบบ On-premise Productivity Tools มากขึ้น
เทรนด์แรก คือ การโจมตีทางไซเบอร์โดยเฉพาะ Ransomware ที่มีอัตราการโจมตีเพิ่มขึ้นถึง 22% ต่อสัปดาห์ ส่งผลให้องค์กรต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการกู้คืนข้อมูล โดย 71% ขององค์กรที่ถูกโจมตีไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้สมบูรณ์ แม้จะยอมจ่ายค่าไถ่แล้วก็ตาม
เทรนด์ที่สอง คือ การที่องค์กรทั่วโลกหันมาใช้ระบบ On-premise Productivity Tools มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูล หลังจากพบว่า 81% ขององค์กรในปี 2022 ประสบปัญหาข้อมูลรั่วไหล การใช้ On-premise Productivity Tools ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างละเอียดและลดต้นทุนการจัดการข้อมูลในระยะยาว
เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายด้านความปลอดภัยข้อมูลในยุคดิจิทัล Synology ได้เปิดตัว 4 โซลูชันใหม่ในปี 2024 ประกอบด้วย:
- โซลูชันการจัดเก็บและการจัดการข้อมูล (Data Storage and Management): Scale-out solution ที่รองรับการขยายได้ถึง 96 โหนด และรองรับทั้ง File Storage และ Object Storage พร้อมการรองรับ Synology Drive และ Office เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร
- โซลูชันป้องกันข้อมูล (Data Protection): Active Protect Appliances ที่รองรับการปกป้องเซิร์ฟเวอร์ได้มากถึง 2,500 เครื่อง ในหลายไซต์ทั่วโลก พร้อมระบบสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง
- โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังและเตือนภัยครบวงจร (Surveillance): Surveillance Station พร้อมระบบ Centralized Management System (CMS) และฟีเจอร์ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวัง พร้อมเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่หลายรุ่น เช่น FC600, BC800Z, CC400W, CS500B, CS400W และ CS500T
- Productivity with AI: Synology Office Suite โซลูชันการทำงานร่วมกันแบบครบวงจรที่รวมเครื่องมือต่างๆ เช่น Synology Drive, Synology Office, MailPlus, และ Chat ซึ่งผสานรวมกับ Synology AI Console เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทีมภายในองค์กร
นายรหัทกล่าวว่า Synology มีมูลค่าตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) เติบโตขึ้น 150% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ NAS/SAN ของบริษัทมีความยืดหยุ่นและขยายได้สูง เหมาะสำหรับองค์กรทุกขนาด นอกจากนี้ โซลูชันการปกป้องข้อมูลอย่าง Active Backup ยังช่วยปกป้องอุปกรณ์กว่า 20 ล้านรายการ และ Surveillance Station ช่วยดูแลปกป้องสถานที่ต่างๆ กว่า 500,000 แห่งทั่วโลก
สำหรับตลาดประเทศไทย Synology มั่นใจในศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัลและการเร่งผลักดันโครงการ Digital Transformation จากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการด้านการปกป้องข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตและขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตอบโจทย์องค์กรในภาคธุรกิจ รัฐบาล และการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ