รัฐบาลอังกฤษเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับการบังคับใช้ USB-C เป็นพอร์ตชาร์จมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจส่งผลให้อังกฤษเข้าร่วมแนวทางเดียวกับสหภาพยุโรปที่เพิ่งประกาศใช้กฎระเบียบนี้
สำนักงานมาตรฐานความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ ภายใต้ กระทรวงธุรกิจและการค้า ของอังกฤษ เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และสมาคมการค้าต่างๆ เกี่ยวกับประโยชน์และความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำมาตรฐานการชาร์จร่วมมาใช้ทั่วประเทศ
การดำเนินการนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหภาพยุโรปผ่านกฎหมายในปี 2022 ซึ่งกำหนดให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาส่วนใหญ่ต้องใช้ USB-C สำหรับการชาร์จภายในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และปรับปรุงความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ชาร์จ
แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษเคยระบุว่าไม่มีแผนพิจารณากฎระเบียบในลักษณะเดียวกัน แต่ปัจจุบันกำลังศึกษาว่าการนำ USB-C มาใช้เป็นมาตรฐานจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมหรือไม่ การรับฟังความคิดเห็นจะดำเนินการเป็นเวลา 8 สัปดาห์ โดยสิ้นสุดในวันที่ 4 ธันวาคม 2024
ประเด็นสำคัญที่อยู่ในการพิจารณา ได้แก่:
- การกำหนดให้ USB-C เป็นพอร์ตชาร์จมาตรฐาน
- การนำเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบเดียวกันมาใช้
- การอนุญาตให้ผู้บริโภคซื้ออุปกรณ์โดยไม่ต้องมีที่ชาร์จ
- การกำหนดให้มีฉลากแสดงข้อมูลการชาร์จ
รัฐบาลอังกฤษตระหนักดีว่าผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายได้นำ USB-C มาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในตลาดอังกฤษแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความซับซ้อนในห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างเช่น Apple ที่เคยยึดมั่นกับพอร์ต Lightning ของตนเอง ได้เปลี่ยนมาใช้ USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่เมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ Lightning ที่เหลืออยู่จะเปลี่ยนมาใช้ USB-C ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องการทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
ที่น่าสนใจคือ iPad mini รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จะไม่มีที่ชาร์จมาให้ในกล่องสำหรับหลายประเทศในยุโรป รวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน และเนเธอร์แลนด์ การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะเป็นการตอบสนองต่อกฎระเบียบของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าบางประเทศในยุโรปที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปก็ได้รับผลกระทบด้วย
การพิจารณาใช้ USB-C เป็นมาตรฐานการชาร์จร่วมของอังกฤษนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ
อ้างอิง | Macrumors.com