แอปเปิล (Apple) เตรียมอัพเดตระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ iOS 18.2 ในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมนำเสนอฟีเจอร์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับ iPhone 15 Pro และ iPhone 16 โดดเด่นด้วยความสามารถในการสร้างภาพและการประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์
ปรับระดับเสียงบนหน้าจอล็อกกลับมาอีกครั้ง หลังหายไปกว่า 2 ปี
แอปเปิล เตรียมนำฟีเจอร์ยอดนิยมกลับคืนมาใน iOS 18.2 หลังจากที่ถูกถอดออกไปพร้อมการอัปเดต iOS 16 ในปี 2022 นั่นคือแถบปรับระดับเสียง (Volume Slider) บนหน้าจอล็อก ซึ่งเดิมจะปรากฏทุกครั้งที่มีการเล่นสื่อ การนำฟีเจอร์นี้ออกไปโดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้จำนวนมาก
ผู้ใช้ iOS 18.2 สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ผ่านเมนู Settings > Accessibility > Audio & Visual จากนั้นเปิดสวิตช์ “Always Show Volume Control” เมื่อเปิดใช้งานแล้ว จะสามารถปรับระดับเสียงได้โดยตรงจากหน้าจอล็อก โดยไม่จำเป็นต้องปลดล็อกเครื่องหรือใช้ปุ่มปรับระดับเสียงด้านข้างตัวเครื่อง
การนำฟีเจอร์นี้กลับมาถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการความสะดวกในการควบคุมระดับเสียงขณะเล่นสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง วิดีโอ หรือพอดแคสต์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการปรับเสียงอย่างรวดเร็ว เช่น ขณะออกกำลังกายหรือเดินทาง
เพิ่มความสนุกกับ Sudoku รายวันบน Apple News+
แอปเปิล เพิ่มเกม Sudoku รายวันสำหรับสมาชิก Apple News+ ในสหรัฐอเมริกา เป็นเกมปริศนาตัวเลขยอดนิยมที่ช่วยฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยมีให้เลือกเล่น 3 ระดับความยาก ได้แก่ ระดับง่าย (Easy) ปานกลาง (Moderate) และท้าทาย (Challenging) เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับความสามารถ
ระบบจะบันทึกสถิติการเล่นแบบครบครัน ทั้งจำนวนปริศนาที่แก้ไขสำเร็จ และเวลาที่เร็วที่สุดในการแก้ปริศนาแต่ละระดับความยาก ช่วยให้ผู้เล่นสามารถติดตามพัฒนาการและท้าทายตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง
Sudoku เป็นเกมปริศนาลำดับที่ 4 ที่มีให้บริการบน Apple News+ ต่อจากเกม Crossword (เกมปริศนาอักษรไขว้), Crossword Mini (เกมปริศนาอักษรไขว้ขนาดย่อม) และ Quartiles (เกมปริศนาตัวเลขรูปแบบใหม่) สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ แอปเปิล ในการเพิ่มคุณค่าให้กับบริการสมาชิก Apple News+ นอกเหนือจากการนำเสนอข่าวสารและบทความคุณภาพ
จัดการแอปเริ่มต้นได้อิสระขึ้นใน iOS 18.2 เริ่มที่สหภาพยุโรปก่อนขยายทั่วโลก
แอปเปิล เพิ่มเมนู “Default Apps” ในการตั้งค่า iOS 18.2 เพื่อให้ผู้ใช้จัดการแอปพลิเคชันเริ่มต้นบน iPhone ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์นี้เดิมทีวางแผนให้บริการเฉพาะในสหภาพยุโรป แต่จากการทดสอบเวอร์ชันเบต้าพบว่าอาจเปิดให้ใช้งานทั่วโลก
สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา สามารถเข้าถึงหน้าจอ Default Apps เพื่อเลือกแอปเริ่มต้นได้หลายประเภท ได้แก่:
- แอปอีเมล (Email)
- ระบบกรองสายเรียกเข้า (Call Filtering)
- เบราว์เซอร์ (Browser)
- ตัวจัดการรหัสผ่าน (Passwords)
- แป้นพิมพ์ (Keyboards)
ส่วนผู้ใช้ในสหภาพยุโรปจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า สามารถเลือกใช้แอปจากผู้พัฒนารายอื่นเป็นแอปเริ่มต้นได้อย่างอิสระ รวมถึงลบแอปพื้นฐานของระบบได้ เช่น:
- Messages (แอปส่งข้อความ)
- App Store (ร้านค้าแอปพลิเคชัน)
- Safari (เว็บเบราว์เซอร์)
- Camera (แอปกล้อง)
- Photos (แอปจัดการรูปภาพ)
การเปิดให้จัดการแอปเริ่มต้นได้อย่างยืดหยุ่นนี้ สะท้อนถึงการปรับตัวของ แอปเปิล ตามข้อกำหนดด้านการแข่งขันทางการค้าของสหภาพยุโรป (EU Digital Markets Act) ที่ต้องการให้ผู้ใช้มีอิสระในการเลือกใช้แอปพลิเคชันมากขึ้น แทนที่จะถูกจำกัดให้ใช้เฉพาะแอปของ แอปเปิล เท่านั้น
แอป Mail อัปเดตใหม่ จัดหมวดหมู่อีเมลอัตโนมัติด้วย AI
แอป Mail ได้รับการปรับปรุงด้วยระบบจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ แบ่งเป็น Primary สำหรับอีเมลสำคัญ, Transactions สำหรับธุรกรรมการเงิน, Updates สำหรับจดหมายข่าว และ Promotions สำหรับข้อเสนอพิเศษ ช่วยให้จัดการอีเมลได้เป็นระเบียบมากขึ้น
Image Playground แอปใหม่สร้างภาพจากคำอธิบาย
แอปเปิล (Apple) เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ล่าสุด Image Playground ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพจากจินตนาการได้เพียงพิมพ์คำอธิบาย เหมือนการใช้งาน ChatGPT พร้อมตัวช่วยแนะนำธีม สถานที่ และเครื่องแต่งกาย เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์
การทำงานของแอป Image Playground เน้นสร้างภาพแนวศิลปะแบบจำลอง โดยผู้ใช้สามารถเลือกรูปแบบทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพประกอบ ที่พิเศษกว่านั้นคือสามารถนำรูปภาพเพื่อนหรือครอบครัวจากแอป Photos มาใช้เป็นต้นแบบในการสร้างภาพได้
แม้ Image Playground จะเป็นแอปที่ทำงานแยกต่างหาก แต่ก็สามารถใช้งานร่วมกับแอปอื่นได้ ทั้งแอป Notes สำหรับเพิ่มภาพประกอบในบันทึก แอป Messages สำหรับส่งภาพในการสนทนา และยังรองรับการทำงานร่วมกับแอปของผู้พัฒนารายอื่นอีกด้วย
Image Wand แปลงข้อความและภาพร่างเป็นภาพสวยด้วย AI บนแอป Notes
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Image Wand ในแอป Notes ที่สร้างภาพจากข้อความหรือภาพร่าง และ Genmoji สำหรับสร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง โดยใช้ API พิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้แสดงผลได้ในทุกแอปที่รองรับ Rich Text
Genmoji ฟีเจอร์ใหม่สร้างอิโมจิส่วนตัว ออกแบบได้ไม่จำกัดด้วย AI
แอปเปิล เปิดตัว Genmoji นวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาต่อยอดจากอิโมจิแบบดั้งเดิม ให้ผู้ใช้สามารถสร้างอิโมจิได้ตามจินตนาการ ไม่ถูกจำกัดด้วยชุดอิโมจิมาตรฐานอีกต่อไป พร้อมมอบอิสระในการปรับแต่งลักษณะได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ผู้ใช้สามารถสร้าง Genmoji ได้ง่ายๆ เพียงระบุคำอธิบายลักษณะอิโมจิที่ต้องการ หรือจะใช้รูปภาพบุคคลจากคลังภาพเป็นต้นแบบก็ได้ จากนั้นปรับแต่งรายละเอียดตามความชอบ แล้วบันทึกไว้ในคลังอิโมจิส่วนตัว เพื่อนำกลับมาใช้ได้ตลอดเวลา
ด้านเทคนิค แอปเปิล พัฒนา API เฉพาะสำหรับ Genmoji แทนการใช้รหัสอักขระจาก Unicode Consortium ทำให้แสดงผลได้อย่างถูกต้องในทุกแอปที่รองรับ Rich Text พร้อมรักษาคุณภาพของภาพในทุกขนาดหน้าจอ และส่งต่อระหว่างอุปกรณ์ แอปเปิล ได้อย่างราบรื่น ทั้งยังประหยัดพื้นที่จัดเก็บมากกว่าการใช้ภาพทั่วไป
Genmoji เหมาะสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการแชทส่วนตัว การสื่อสารในองค์กร การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล และการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ แอปเปิล ในการพัฒนาเครื่องมือสื่อสารที่ตอบโจทย์การใช้งานยุคดิจิทัล ที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์และความยืดหยุ่นในการแสดงออก
Siri จับมือ ChatGPT เพิ่มความสามารถผู้ช่วยอัจฉริยะ
แอปเปิล ประกาศความร่วมมือกับ OpenAI ในการนำ ChatGPT มาผสานกับ Siri บน iPhone, iPad และ Mac เพื่อยกระดับความสามารถในการตอบสนองคำสั่งที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพหรือเขียนข้อความจากศูนย์
การผสานเทคโนโลยีครั้งนี้ทำให้ Siri สามารถส่งต่อคำสั่งที่ซับซ้อนไปให้ ChatGPT ประมวลผล เช่น เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ PDF ขนาดยาวและต้องการสรุปข้อมูลเฉพาะเรื่อง Siri จะส่งคำขอไปยัง ChatGPT เพื่อสร้างบทสรุปที่ครอบคลุมและตรงประเด็น
นอกจากนี้ เมื่อใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Writing Tools, ChatGPT ยังสามารถสร้างเนื้อหาต้นฉบับและภาพประกอบได้ ขยายขีดความสามารถให้กว้างไกลกว่าที่ Siri เคยทำได้ในปัจจุบัน
แอปเปิล วางบทบาทให้ Siri เป็นตัวกลางในการจัดการโมเดล AI และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่ต้องการโดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างหลายแอปพลิเคชัน เป็นการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาผู้ช่วยอัจฉริยะให้ตอบโจทย์การใช้งานในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
Visual Intelligence เปลี่ยนกล้อง iPhone 16 เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ
แอปเปิล นำเสนอ Visual Intelligence ฟีเจอร์อัจฉริยะสำหรับ iPhone 16 ที่ช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อมผ่านกล้อง มอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์แบบเรียลไทม์ เช่น เมื่อส่องกล้องไปที่ร้านอาหาร ระบบจะแสดงข้อมูลเวลาเปิด-ปิด และรีวิวจากผู้ใช้งานทันที
ความสามารถของ Visual Intelligence ครอบคลุมหลากหลายฟังก์ชัน ทั้งการอ่านข้อความดังๆ แยกแยะเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่เพื่อบันทึกลงรายชื่อติดต่อ คัดลอกข้อความ และสรุปข้อมูลสำคัญ นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาแหล่งซื้อสินค้าผ่าน Google เพียงส่องกล้องไปที่วัตถุที่สนใจ
เมื่อผู้ใช้ต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น สามารถสอบถามผ่าน ChatGPT ได้ทันที โดยระบบจะวิเคราะห์ภาพและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เช่น ประวัติความเป็นมา วิธีการใช้งาน หรือข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ
แอปเปิล มีแผนพัฒนาฟีเจอร์นี้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อให้ Visual Intelligence เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอุปกรณ์ในชีวิตประจำวัน
อัปเกรด Writing Tools อัปเกรดใหม่ ปรับแต่งข้อความได้หลากหลายยิ่งขึ้น
แอปเปิล ยกระดับฟีเจอร์ Writing Tools ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับแต่งเนื้อหา จากเดิมใน iOS 18.1 ที่ปรับได้เพียง 3 โทนพื้นฐาน ได้แก่ แบบเป็นกันเอง (Friendly) แบบมืออาชีพ (Professional) และแบบย่อความ (Simplified)
การอัปเดตใน iOS 18.2 เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งข้อความที่หลากหลายขึ้น ผู้ใช้สามารถระบุรูปแบบการเขียนที่ต้องการได้อย่างอิสระ เช่น การเพิ่มคำที่แสดงการกระทำ (Action Words) เพื่อให้ข้อความมีชีวิตชีวา การแปลงอีเมลให้เป็นบทกวี หรือการปรับโทนการเขียนให้เหมาะกับวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การนำเสนองาน การเขียนจดหมายสมัครงาน หรือการเขียนบทความวิชาการ
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาปรับแต่งข้อความด้วยตนเอง เพียงระบุรูปแบบที่ต้องการ AI จะช่วยปรับแต่งข้อความให้ตรงตามความต้องการโดยอัตโนมัติ
การอัปเดต iOS 18.2 ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ แอปเปิล ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน iPhone อย่างครบวงจร ทั้งการสร้างภาพ การจัดการเนื้อหา และการประมวลผลข้อมูล โดยคาดว่าจะมีการพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ iPhone ทั่วโลก
อ้างอิง | Macrumors.com