Apple ประกาศเปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้ออะไหล่และอุปกรณ์สำหรับซ่อม iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ผ่านร้านค้าบริการซ่อมด้วยตนเองในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป
หลังจากวางจำหน่ายสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ไปแล้ว 7 สัปดาห์ สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนสิทธิในการซ่อมอุปกรณ์ด้วยตนเอง (Right to Repair)
อะไหล่และอุปกรณ์ที่มีให้บริการครอบคลุมการซ่อมและเปลี่ยนชิ้นส่วนสำคัญ ได้แก่ จอแสดงผล แบตเตอรี่ ระบบกล้องหลัง กล้อง TrueDepth สำหรับระบบ Face ID (ระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า) กระจกด้านหลัง ลำโพงบนและล่าง ไมโครโฟนหลัก และอื่นๆ โดยลูกค้าสามารถเช่าชุดเครื่องมือสำหรับการซ่อมได้เป็นระยะเวลา 7 วัน ในราคา 49 ดอลลาร์สหรัฐต่อชุด สำหรับ iPhone 16 ทุกรุ่น
มิสเตอร์จอห์น เทอร์นัส ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าของ Apple กล่าวว่า “การขยายบริการซ่อมด้วยตนเองมาสู่ iPhone 16 เป็นอีกก้าวสำคัญในการเพิ่มความยั่งยืนให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา เรามุ่งมั่นที่จะให้ลูกค้าสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ยาวนานขึ้น พร้อมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
ก่อนหน้านี้ Apple ได้เผยแพร่คู่มือการซ่อมสำหรับ iPhone 16 ทุกรุ่นตั้งแต่เดือนกันยายน และปัจจุบันได้จัดเตรียมอะไหล่และเครื่องมือที่จำเป็นพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว โดยคู่มือการซ่อมมีรายละเอียดขั้นตอนการซ่อมที่ครอบคลุม พร้อมภาพประกอบและคำแนะนำด้านความปลอดภัย
ระบบการซ่อมด้วยตนเองของ Apple ยังรวมถึงการวินิจฉัยปัญหาเบื้องต้น (System Configuration) ที่ช่วยให้ชิ้นส่วนใหม่ทำงานได้อย่างถูกต้องหลังการซ่อม เช่น การปรับเทียบจอแสดงผล การตั้งค่าแบตเตอรี่ และการตรวจสอบการทำงานของกล้อง
โปรแกรมบริการซ่อมด้วยตนเองของ Apple เปิดตัวในปี 2022 โดยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงอะไหล่แท้ เครื่องมือ และคู่มือการซ่อม iPhone, Mac รวมถึง Studio Display บางรุ่น บริษัทระบุว่าโปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยคู่มือการซ่อมบางส่วนบนเว็บไซต์ของ Apple มีคำเตือนเกี่ยวกับข้อมูลสำคัญ เช่น ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
นอกจากนี้ Apple ยังเสริมว่า การซ่อมด้วยตนเองอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และแนะนำให้นำอุปกรณ์เข้ารับบริการที่ Apple Store หรือผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจาก Apple (Apple Authorized Service Provider) สำหรับการซ่อมที่ซับซ้อนหรือต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
อ้างอิง | Macrumors.com