แอปเปิล เตรียมเปิดตัวโมเด็ม 5G ที่พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก หลังใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานกว่า 5 ปี โดยจะเริ่มติดตั้งในอุปกรณ์ระดับกลางถึงประหยัด ทั้ง iPhone SE รุ่นที่ 4 iPhone 17 Air และ iPad รุ่นราคาประหยัด ที่มีกำหนดเปิดตัวในปีหน้า
จากรายงานของ มาร์ค เกอร์แมน นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ระบุว่า โมเด็ม 5G รุ่นแรกของ แอปเปิล จะมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 4 กิกะบิตต่อวินาที ซึ่งแม้จะช้ากว่าโมเด็มของ Qualcomm ที่ใช้ในไอโฟนรุ่นปัจจุบัน แต่ในการใช้งานจริงอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากความเร็วที่ผู้ใช้ได้รับจริงมักต่ำกว่าความเร็วทางทฤษฎีอยู่แล้ว
โมเด็มรุ่นแรกนี้จะยังไม่รองรับเทคโนโลยี mmWave (คลื่นความถี่มิลลิเมตร) ซึ่งเป็นมาตรฐาน 5G ความเร็วสูงพิเศษที่ใช้คลื่นความถี่สูงในการส่งข้อมูล แต่จะยังคงรองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบคู่ได้ ทั้งนี้ แอปเปิล ได้ทำการทดสอบโมเด็มดังกล่าวกับพนักงานหลายร้อยคนทั่วโลกอย่างลับๆ มาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีการทดสอบในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริงเพื่อเก็บข้อมูลและปรับปรุงประสิทธิภาพ
ตามแผนการเปิดตัว คาดว่า iPhone SE รุ่นที่ 4 iPad Air และ iPad รุ่นพื้นฐานจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมปีหน้า ส่วน iPhone 17 Air จะเปิดตัวในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม โมเด็มรุ่นใหม่นี้จะยังไม่ถูกนำไปใช้ใน iPhone 17 Pro และรุ่นที่สูงกว่า เนื่องจากบริษัทต้องการทดสอบประสิทธิภาพกับอุปกรณ์ระดับกลางก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานโทรศัพท์และข้อมูลมือถือ
บริษัทได้แก้ไขปัญหาสำคัญในช่วงพัฒนาต้นแบบเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องความร้อนที่สูงเกินไปและการใช้พลังงานที่มากเกินควร นอกจากนี้ โมเด็มรุ่นใหม่ยังมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับชิปของ Qualcomm เช่น ประหยัดพลังงานมากขึ้น ปรับปรุงการค้นหาสัญญาณเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมสำหรับการใช้งานในพื้นที่ห่างไกล
การพัฒนาโมเด็ม 5G ของ แอปเปิล เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นส่วนหนึ่งของแผนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจาก Qualcomm โดยโมเด็มดังกล่าวออกแบบโดย แอปเปิล แต่ผลิตโดย TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันที่ผลิตชิปให้กับไอโฟนอยู่แล้ว ทั้งนี้ แอปเปิล ได้ขยายสัญญาการจัดหาโมเด็ม 5G กับ Qualcomm ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2027 ซึ่งสอดคล้องกับแผนที่บริษัทตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีโมเด็มของตนเองให้เหนือกว่า Qualcomm ภายในปีดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ในปี 2017 แอปเปิล เคยฟ้องร้อง Qualcomm ในข้อหาผูกขาดทางการค้าและเรียกร้องค่าชดเชยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการไม่จ่ายส่วนลดค่าลิขสิทธิ์ ทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงนอกศาลในปี 2019 และในปีเดียวกันนั้น แอปเปิล ได้ซื้อธุรกิจโมเด็มสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ของ Intel เพื่อนำสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเซลลูลาร์มาช่วยเสริมการพัฒนาโมเด็มของตนเอง
อ้างอิง | Macrumors.com