Apple สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัว Visual Intelligence ฟีเจอร์พิเศษที่มาพร้อมกับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro บนระบบปฏิบัติการ iOS 18.2 ที่ผสานการทำงานระหว่างกล้องและปัญญาประดิษฐ์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
การใช้งาน Visual Intelligence เริ่มต้นด้วยการกดค้างที่ปุ่ม Camera Control ซึ่งเป็นฟีเจอร์พิเศษที่มีเฉพาะในรุ่น iPhone 16 series เท่านั้น โดยผู้ใช้จะต้องเริ่มต้นจากหน้าจอปกติ ไม่ใช่จากแอพกล้อง เมื่อเข้าสู่โหมด Visual Intelligence แล้ว จะต้องถ่ายภาพก่อนจึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ ทั้งนี้ระบบไม่รองรับการใช้งานกับภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้าหรือมุมมองกล้องแบบ Live View
หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของ Visual Intelligence คือการผสานการทำงานร่วมกับ ChatGPT ผ่านปุ่ม “Ask” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งที่ถ่ายได้ทันที และปุ่ม “Search” ที่เชื่อมต่อกับ Google Search เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมบนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่ผู้ใช้สนใจจะซื้อ
สำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว Visual Intelligence ช่วยอำนวยความสะดวกด้วยการแสดงข้อมูลของสถานที่ต่างๆ เพียงแค่ถ่ายภาพหน้าร้านหรือสถานประกอบการ ระบบจะแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น เวลาทำการ บริการที่มี ระบบจองคิว เมนูอาหาร บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ หมายเลขโทรศัพท์ และเว็บไซต์ได้ทันที
ด้านความสามารถในการจัดการเอกสารและข้อความ Visual Intelligence มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครอบคลุม ทั้งการสรุปเนื้อหาจากข้อความยาวๆ ให้กระชับและเข้าใจง่ายขึ้น การอ่านข้อความด้วยเสียงผ่าน Siri ในภาษาที่เลือก และการแปลภาษาแบบทันที (ปัจจุบันรองรับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ) นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับลิงก์เว็บไซต์ในภาพและเปิดเข้าชมได้ทันที
การจัดการข้อมูลส่วนตัวทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการดึงข้อมูลติดต่อจากภาพ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือที่อยู่ เพื่อบันทึกลงในแอพ Contacts รวมถึงการเพิ่มกิจกรรมลงปฏิทินจากข้อมูลวันที่ที่พบในภาพ และการโทรออกหรือส่งอีเมลได้ทันทีจากข้อมูลที่ตรวจพบ
สำหรับการสแกน QR Code Visual Intelligence ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพ เพียงแค่ชี้กล้องไปที่ QR Code และแตะที่ลิงก์ที่ปรากฏขึ้น ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้ผ่านแอพกล้องปกติเช่นกัน
การใช้งาน ChatGPT ผ่าน Visual Intelligence จำเป็นต้องเปิดใช้งานการเชื่อมต่อกับ Siri ก่อน โดยระบบจะไม่เก็บข้อมูลใดๆ ตามค่าเริ่มต้น แต่หากผู้ใช้ต้องการให้ ChatGPT จดจำบทสนทนา สามารถล็อกอินด้วยบัญชี OpenAI ได้ ซึ่งจะช่วยให้การสนทนาต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ้างอิง | Macrumors.com
