
ปี 2025 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Apple ที่เตรียมปฏิวัติวงการเทคโนโลยีด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ ทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ อุปกรณ์สมาร์ทโฮม และการพัฒนาระบบ AI ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับกว่าที่เคย
iPhone 17 Air: สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของ Apple

iPhone 17 Air จะเป็นไฮไลท์สำคัญของปี ด้วยดีไซน์บางเฉียบเพียง 6 มิลลิเมตร บางกว่า iPhone 16 Pro ถึง 2 มิลลิเมตร นับเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว วางตำแหน่งระหว่าง iPhone 17 และ iPhone 17 Pro Max กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซลแบบเลนส์เดียว และเป็นหนึ่งในอุปกรณ์รุ่นแรกที่ใช้โมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาขึ้นเอง

นอกจากนี้ iPhone 17 Pro และ Pro Max จะมาพร้อมการออกแบบใหม่ด้วยแผงด้านหลังแบบผสมผสานระหว่างอะลูมิเนียมและกระจก เพื่อเพิ่มความทนทาน พร้อมการจัดวางกล้องรูปแบบใหม่ ทุกรุ่นจะใช้ชิป A19 และมีเทคโนโลยี ProMotion รีเฟรชเรต 120Hz ในทุกรุ่น
AirPods Pro 3: ยกระดับประสบการณ์เสียงและสุขภาพ

AirPods Pro 3 จะได้รับการปรับโฉมใหม่พร้อมเคสที่บางลงเช่นเดียวกับ AirPods 4 ที่เปิดตัวในปี 2024 มาพร้อมชิปประมวลผลเสียงตระกูล H รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อยกระดับคุณภาพเสียงและระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าอาจเพิ่มฟีเจอร์ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจและวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อขยายขีดความสามารถด้านสุขภาพ
Apple Command Center: ศูนย์กลางควบคุมบ้านอัจฉริยะ

Apple Command Center อุปกรณ์สมาร์ทโฮมรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาด 6 นิ้ว ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน สามารถพกพาได้สะดวกหรือติดตั้งบนผนัง รองรับการใช้งาน FaceTime ดูวิดีโอ และแอปพลิเคชันมาตรฐานของ Apple เช่น Home, Calendar, Apple Music, Apple News และ Apple Photos โดยจะมีการผสานรวมระบบ Apple Intelligence อย่างลึกซึ้ง แม้จะไม่มี App Store แยกต่างหาก แต่ก็มีแอปพลิเคชันพื้นฐานที่จำเป็นครบครัน
iPhone SE 4: สมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่า สเปคจัดเต็ม

iPhone SE 4 จะได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยยกเลิกปุ่ม Home และ Touch ID หันมาใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้วพร้อมรอยบาก (Notch) สำหรับ Face ID กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และพอร์ต USB-C ด้านประสิทธิภาพใช้ชิป A18 เดียวกับ iPhone 16 พร้อม RAM 8GB รองรับการทำงานของ Apple Intelligence อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้ง Genmoji, Image Playground และ Writing Tools รวมถึงเป็นรุ่นแรกที่ใช้โมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาเอง คาดว่าจะมีราคาต่ำกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ
Siri: ผู้ช่วยอัจฉริยะพลัง AI รุ่นใหม่

Siri จะได้รับการอัพเกรดครั้งสำคัญในการอัปเดต iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ด้วยความสามารถใหม่ในการรับรู้หน้าจอ (Onscreen Awareness) ที่ช่วยให้เข้าใจสิ่งที่แสดงบนหน้าจอและตอบสนองคำสั่งเสียงได้แม่นยำขึ้น เข้าใจบริบทส่วนบุคคล (Personal Context) จากข้อมูลอีเมลและข้อความ เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน และทำงานข้ามแอปพลิเคชันได้ดียิ่งขึ้น เช่น การย้ายไฟล์ แก้ไขรูปภาพด้วยเสียง และทำงานหลายขั้นตอนได้ ส่วนใน iOS 19 ที่จะเปิดตัวเดือนมิถุนายน Siri จะได้รับการอัพเกรดด้วย Large Language Model ให้มีความสามารถใกล้เคียงกับ ChatGPT และ Google Gemini ในการเข้าใจและสร้างภาษาธรรมชาติ ทำงานซับซ้อน และแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด
อ้างอิง | Macrumors.com