แอปเปิล เตรียมเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 4 ในเดือนมีนาคม 2025 ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าอาจมีการเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่เป็น iPhone 16E พร้อมดีไซน์ใหม่และการอัปเกรดฟีเจอร์ครั้งใหญ่ที่จะทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นประหยัดของ แอปเปิล มีความทันสมัยมากขึ้น
แหล่งข่าวจาก Fixed Focus Digital บัญชีโซเชียลมีเดียชื่อดังบนแพลตฟอร์ม Weibo ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน ได้เผยข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ว่า iPhone SE รุ่นที่ 4 จะมาพร้อมชื่อใหม่เป็น iPhone 16E ซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับการเปิดเผยของ Majin Bu ผู้รั่วไหลข้อมูลบนแพลตฟอร์ม X ที่อ้างแหล่งข่าวในทำนองเดียวกันเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่ารูปแบบการเขียนชื่อจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น iPhone 16E, iPhone 16e หรือ iPhone 16 พร้อมตัว E ในกรอบสี่เหลี่ยม หรืออาจเป็น iPhone 16 SE ทั้งนี้ Fixed Focus Digital มีประวัติการทำนายที่แม่นยำบางส่วน โดยเฉพาะการเปิดเผยสีใหม่ Desert Titanium ของ iPhone 16 Pro แต่ก็เคยทำนายผิดพลาดเกี่ยวกับจำนวนตัวเลือกสีของ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาแล้ว
ด้านการออกแบบ มีรายงานว่า iPhone SE รุ่นใหม่จะมีดีไซน์คล้ายคลึงกับ iPhone 14 และ iPhone 16 รุ่นพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นปัจจุบันที่ยังคงใช้ดีไซน์แบบเดียวกับ iPhone 8 พร้อมปุ่ม Touch ID และขอบจอหนา
สำหรับสเปกที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ iPhone SE รุ่นใหม่ ประกอบด้วยหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ที่จะช่วยให้การแสดงผลมีคุณภาพดีขึ้น, ระบบสแกนใบหน้า Face ID แทนการใช้ปุ่ม Touch ID แบบเดิม, พอร์ต USB-C ที่เป็นมาตรฐานสากล, กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพมีคุณภาพสูงขึ้น, ชิป A-series รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, RAM 8GB สำหรับรองรับ Apple Intelligence และที่สำคัญคือโมเด็ม 5G ที่ออกแบบโดย แอปเปิล เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีปุ่ม Action ที่เพิ่งเปิดตัวใน iPhone 15 Pro หรือไม่
ด้านราคา ปัจจุบัน iPhone SE รุ่นที่ 3 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 429 ดอลลาร์สหรัฐในตลาดอเมริกา คาดว่ารุ่นใหม่อาจมีการปรับราคาสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมาพร้อมการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ OLED และระบบ Face ID ที่มีต้นทุนสูงกว่าเทคโนโลยีเดิม
อ้างอิง | Macrumors.com