เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Realme ที่ทุ่มสุดตัวส่งสมาร์ตโฟนออกมาถึง 45 รุ่นในปี 2024 ทั้งรุ่นที่ขายเฉพาะในจีนและตลาดต่างประเทศ วันนี้เราจะพาไปส่องกันว่ารุ่นไหนน่าซื้อ รุ่นไหนควรผ่าน มาดูกัน!
GT 7 Pro ดาวเด่นส่งท้ายปี คุ้มค่าน่าลงทุน
ถ้าพูดถึงรุ่นที่น่าจับตามองที่สุดต้องยกให้ Realme GT 7 Pro เรือธงตัวท็อปที่มาช่วยกู้หน้าแบรนด์ได้อย่างสวยงาม ด้วยสเปกที่จัดเต็มทุกด้าน ทั้งชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด กล้องที่ถ่ายภาพได้สวยคมชัด และแบตอึดขนาด 5,800 mAh
ที่เด็ดไปกว่านั้นคือหน้าจอที่สว่างจัดจ้าน กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP69 รองรับการใช้งานได้ทุกสภาพแวดล้อม มาพร้อม Android 15 และ Realme UI ที่ใช้งานลื่นไหล ไม่มีสะดุด เพิ่มความสะดวกด้วย NFC แบบ 360 องศา จ่ายเงินได้ทุกท่า ชาร์จเร็ว 120W แบตหมดเป็นต้องรีบ
ราคาเริ่มต้นที่ 819.52 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่น RAM 12GB/256GB ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกที่ได้
GT 6 Series น้ำหอมปลอม น่าเสียดายที่มาไม่สุด
พูดถึงความผิดหวังต้องยกให้ซีรีส์ GT 6 ที่มาแบบครึ่งๆ กลางๆ โดยเฉพาะ GT 6T (หรือ Neo6 SE ในจีน) ที่ลดเกรดมาใช้ชิป Snapdragon 7 series ส่วน GT 6 ก็ไม่ได้ใช้ชิปตัวท็อป เลือกใช้ Snapdragon 8s Gen 3 แทน
ที่น่าเสียดายที่สุดคือ GT6 รุ่นที่ใช้ชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 3 กลับขายแค่ในจีน ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นรุ่นที่หลายคนรอคอย แถมกล้องยังธรรมดาเกินไป
Realme 13 Pro+ ม้ามืดมาแรง AI จัดเต็ม
เซอร์ไพรส์กันที่ Realme 13 Pro+ ที่เปิดตัวที่กรุงเทพฯ แม้จะใช้หน้าจอ ชิปเซ็ต และกล้องเหมือนรุ่นก่อน แต่มีการอัพเกรดหลายจุด ทั้งแบตอึดขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น หน้าจอสว่างขึ้น
ดราม่าร้อน Realme 12 Pro+ กับดีไซน์ที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์
พูดถึง Realme 12 Pro+ แล้วต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งความผิดหวังของปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรุ่น 13 Pro+ ที่มาพร้อมการอัพเกรดมากมาย จนทำให้ผู้ใช้ลืม 12 Series ไปแทบจะในพริบตา
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือกลยุทธ์การตลาดที่ถือเป็นความพลาดครั้งใหญ่ของ Realme (หรืออาจจะตั้งใจก็ได้ใครจะรู้?) เมื่อพวกเขาโปรโมทดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิกาหรู โดยมีข่าวลือว่าจะร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Rolex แต่สุดท้ายกลับเป็นเพียงการออกแบบโดย “นักออกแบบนาฬิกาหรูระดับนานาชาติจากสวิตเซอร์แลนด์” ที่ไม่มีใครรู้จัก
ที่กล้าหาญ(หรือบ้าบิ่น?)ไปกว่านั้น คือการตั้งชื่อสีของสมาร์ตโฟนโดยยืมชื่อโมเดลอันเป็นตำนานของ Rolex มาใช้อย่าง Submarine, Navigator และ Explorer ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นชื่อที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสรายนี้
บางคนมองว่านี่อาจเป็นแคมเปญการตลาดที่ Realme ตั้งใจสร้างความฮือฮาและเป็นที่พูดถึง ตามคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีข่าวร้าย มีแต่การประชาสัมพันธ์” แต่จะว่าไปแล้ว การเล่นกับแบรนด์ระดับตำนานแบบนี้ อาจเป็นดาบสองคมที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ Realme ในระยะยาวก็เป็นได้
ไฮไลท์อยู่ที่ฟีเจอร์ AI สำหรับแต่งภาพที่มาพร้อมชิป Snapdragon 7s Gen 2 และกล้องเทเลโฟโต้ที่ถ่ายภาพได้สวยเกินราคา
รุ่นเล็กๆ ที่น่าจับตา Note 50 กับดราม่า P1
Realme Note 50 ถือเป็นการเปิดตัวซีรีส์ใหม่ที่น่าสนใจ เน้นคุณภาพดีราคาประหยัด ขายในอินเดียภายใต้ชื่อ C51 สามารถเจาะตลาดผู้ใช้งบน้อยได้อย่างดี ด้วยราคาไม่เกิน 100 ดอลลาร์
ส่วน P1 กับ P1 Pro ที่เน้นสมรรถนะสูงในราคาย่อมเยา กลับไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แม้จะขยายไลน์ด้วย P1 Speed และ P2 Pro แต่ก็ยังซ้ำซ้อนกับซีรีส์ Narzo ที่มีอยู่แล้ว
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นกลยุทธ์ของ Realme ที่ต้องการครองตลาดทุกระดับราคา แม้จะต้องแลกมาด้วยความสับสนของผู้บริโภคก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าปีนี้พวกเขาสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย โดยเฉพาะกับ GT 7 Pro ที่มาปิดท้ายปีได้อย่างสวยงาม
อ้างอิง | Gsmarena.com