ความหวังใหม่ของผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้กำลังจะเป็นจริง เมื่อ Apple เตรียมเปิดตัว iPhone 17 Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมดีไซน์บางเฉียบเพียง 5.5 มิลลิเมตร พร้อมฟีเจอร์ระดับ Pro มากมาย
ตามรายงานจาก นักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ Apple ได้เปิดเผยว่า iPhone 17 Air จะมาพร้อมการปฏิวัติด้านการออกแบบครั้งใหญ่ โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูงที่ช่วยให้ตัวเครื่องบางเฉียบและน้ำหนักเบา ถือเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา
หน้าจอของ iPhone 17 Air มาพร้อมพาเนล OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ใหญ่กว่า iPhone 14 Pro ถึง 0.5 นิ้ว และที่สำคัญคือการเพิ่มเทคโนโลยี ProMotion ที่รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz เป็นครั้งแรกในรุ่นที่ไม่ใช่ Pro ช่วยให้การเลื่อนหน้าจอและการรับชมวิดีโอลื่นไหลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมขอบจอบางเฉียบและ Dynamic Island เช่นเดียวกับรุ่น Pro
ด้านประสิทธิภาพ iPhone 17 Air ได้รับการอัพเกรดด้วยชิปประมวลผล A19 รุ่นล่าสุด RAM 8GB เพิ่มขึ้นจาก iPhone 14 Pro ที่มีเพียง 6GB พร้อมรองรับ Wi-Fi 6E หรือ Wi-Fi 7 และพอร์ต USB-C ที่รองรับการชาร์จเร็วและถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง
ระบบกล้องถ่ายภาพของ iPhone 17 Air แม้จะมีกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเพียงตัวเดียว แต่มาพร้อมเทคโนโลยี Fusion camera ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลภาพ สามารถซูมระยะ 2 เท่าด้วยคุณภาพเทียบเท่าเลนส์ Telephoto ส่วนกล้องหน้าได้รับการอัพเกรดเป็น 24 ล้านพิกเซล เพิ่มความคมชัดในการถ่ายเซลฟี่และวิดีโอคอล
ฟีเจอร์เด่นอีกอย่างคือ Apple Intelligence ระบบปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความสามารถของ Siri ในการเข้าใจบริบทและควบคุมแอปพลิเคชันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์การสรุปการแจ้งเตือน สร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง และลบพื้นหลังภาพถ่ายอัตโนมัติ
สำหรับระบบเชื่อมต่อ iPhone 17 Air จะรองรับเฉพาะ eSIM โดยไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบกายภาพ ซึ่งผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาคุ้นเคยกับระบบนี้อยู่แล้ว แต่อาจเป็นความท้าทายสำหรับผู้ใช้ในประเทศอื่นๆ ที่ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่นี้
นอกจากนี้ยังมาพร้อมปุ่ม Action button แทนสวิตช์เปิด/ปิดเสียงแบบเดิม และคาดว่าจะมีปุ่ม Camera Control เช่นเดียวกับ iPhone 16 ทุกรุ่น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพและวิดีโอ
อ้างอิง | Macrumors.com