Apple ปล่อยอัปเดตครั้งสำคัญ iOS 18.3 มาพร้อมการปรับปรุงด้านปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence และการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญ พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายประการ

ระบบปัญญาประดิษฐ์เข้มแข็งขึ้น

การอัปเดตครั้งนี้ Apple ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานของ Apple Intelligence อย่างมีนัยสำคัญ โดยเปลี่ยนจากระบบที่ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานเอง (opt-in) เป็นระบบที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ (opt-out) ซึ่งผู้ใช้สามารถปิดการใช้งานได้ผ่านเมนูการตั้งค่าหากไม่ต้องการใช้งาน ฟีเจอร์นี้รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์รุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone 15 Pro, iPhone 16 Pro, iPad mini 7 และอุปกรณ์ Mac รวมถึง iPad ที่ใช้ชิป M-series ทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงนี้ยังครอบคลุมไปถึงระบบปฏิบัติการ iPadOS 18.3 และ macOS Sequoia 15.3 อีกด้วย

ยกระดับการถ่ายภาพด้วย Visual Intelligence

Visual Intelligence บน iPhone 16 ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถใหม่ผ่านระบบ Camera Control โดยผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและเพิ่มอีเวนต์ลงในแอป Calendar ได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถระบุชนิดของพืชและสัตว์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้การบันทึกและจัดการภาพถ่ายทำได้สะดวกและชาญฉลาดมากขึ้น

ปรับปรุงระบบการแจ้งเตือนอัจฉริยะ

Apple ได้ปรับปรุงระบบการแจ้งเตือนอัจฉริยะครั้งใหญ่ โดยระงับการสรุปการแจ้งเตือนในหมวดข่าวและความบันเทิงชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาการแสดงหัวข้อข่าวที่ไม่ถูกต้อง โดยบริษัทกำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและจะกลับมาใช้งานได้ในการอัปเดตครั้งต่อไป พร้อมเพิ่มคำเตือนในส่วนการตั้งค่าว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง นอกจากนี้ยังปรับให้ข้อความในการสรุปการแจ้งเตือนแสดงผลเป็นตัวเอียง เพื่อให้แตกต่างจากการแจ้งเตือนปกติ

เพิ่มความสะดวกในการคำนวณ

แอป Calculator ได้รับการปรับปรุงให้กลับมาใช้งานฟีเจอร์ยอดนิยมที่เคยถูกนำออกไปใน iOS 18 นั่นคือการกดเครื่องหมายเท่ากับสองครั้งเพื่อทำซ้ำการคำนวณครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการคำนวณดอกเบี้ยทบต้นและการคำนวณที่ต้องทำซ้ำหลายครั้ง

แก้ไขบั๊กที่สร้างความรำคาญ

การอัปเดตครั้งนี้ได้แก้ไขบั๊กสำคัญหลายรายการ รวมถึงปัญหาแป้นพิมพ์หายไปเมื่อใช้งาน Type to Siri และปัญหาการเล่นเสียงที่ยังคงทำงานต่อแม้จะปิดแอป Apple Music ไปแล้ว ช่วยให้การใช้งานมีความเสถียรมากขึ้น

ยกระดับความปลอดภัยรอบด้าน

ในด้านความปลอดภัย iOS 18.3 ได้แก้ไขช่องโหว่กว่า 25 รายการ โดยเฉพาะช่องโหว่ใน CoreMedia ที่อาจถูกใช้ในการยกระดับสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งมีรายงานว่าอาจถูกใช้โจมตีบนอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 17.1 หรือเก่ากว่า นอกจากนี้ยังแก้ไขช่องโหว่ในแอป Photos ที่อาจทำให้ผู้โจมตีที่เข้าถึงอุปกรณ์ที่ปลดล็อกแล้วสามารถเข้าถึงแอป Photos ได้แม้เครื่องจะล็อกอยู่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยใน AirPlay ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้โค้ดหรือทำให้แอปหยุดทำงานได้

การอัปเดตนี้ยังรวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ในระบบ kernel ที่อาจทำให้แอปที่ไม่น่าไว้วางใจได้รับสิทธิ์ระดับ kernel และการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยใน WebKit สำหรับเบราว์เซอร์ Safari ด้วยจำนวนช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ได้รับการแก้ไข ทำให้ผู้ใช้ควรติดตั้งการอัปเดตนี้โดยเร็วที่สุด

อ้างอิง | Macrumors.com