วงการเทคโนโลยีเริ่มร้อนระอุ หลังมีข่าวลือการปรับเปลี่ยนดีไซน์โมดูลกล้องของ iPhone 17 ที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการถ่าย Spatial Video สำหรับ Apple Vision Pro สร้างความกังวลให้กับแฟนๆ ชาว Apple
ประเด็นร้อนจากข่าวลือล่าสุด
กระแสข่าวลือล่าสุดเกี่ยวกับซีรีส์ iPhone 17 กำลังสร้างความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบโมดูลกล้องด้านหลัง แหล่งข่าวหลายแห่งรายงานว่า Apple อาจเปลี่ยนจากการจัดวางเลนส์แบบสามเหลี่ยมที่ใช้มาแต่เดิม มาเป็นแบบแถบยาวในแนวนอน คล้ายกับที่เห็นใน Google Pixel 9 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นการปฏิวัติการออกแบบครั้งสำคัญของ iPhone
ความท้าทายของการออกแบบใหม่
อย่างไรก็ตาม ยังมีแหล่งข่าวบางส่วนที่เชื่อว่า iPhone 17 Pro จะยังคงรูปแบบการจัดวางเลนส์แบบสามเหลี่ยมเอาไว้ ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนวัสดุของตัวเครื่องในภาพรวม ประเด็นที่น่ากังวลคือ หากมีการเปลี่ยนไปใช้การจัดวางกล้องในแนวนอน อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการถ่าย Spatial Video ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญที่มีมาตั้งแต่ iPhone 15 Pro และทุกรุ่นใน iPhone 16 series
ทำความเข้าใจ Spatial Video
Spatial Video คือเทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอที่สร้างประสบการณ์แบบสามมิติ ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง เมื่อรับชมผ่าน Apple Vision Pro โดยต้องใช้กล้องสองตัวถ่ายพร้อมกันในแนวนอน ระยะห่างระหว่างเลนส์มีความสำคัญในการจำลองระยะห่างระหว่างดวงตามนุษย์ เพื่อสร้างการรับรู้ความลึก ต่างจากวิดีโอ 3D ทั่วไปที่มุมมองคงที่ Spatial Video สร้างอิสระในการรับชมถึง 6 องศา ทำให้ผู้ชมสามารถเปลี่ยนมุมมองได้ตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ
เทคโนโลยีในปัจจุบัน
ปัจจุบัน iPhone 15 Pro และ iPhone 16 Pro ใช้กล้อง Wide/Fusion และ Ultra Wide ที่จัดวางในแนวตั้งเพื่อถ่าย Spatial Video เช่นเดียวกับรุ่น iPhone 16 มาตรฐานที่ Apple ออกแบบให้กล้องคู่อยู่ในแนวตั้งเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้โดยเฉพาะ
แนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้
มีการคาดการณ์ว่า Apple อาจพัฒนาเทคโนโลยีการประมวลผลภาพแบบใหม่ เช่น Gaussian splatting ที่ถูกคิดค้นเมื่อไม่ถึงสองปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างโมเดล 3 มิติที่สมจริงจากภาพถ่ายหลายมุม แม้จะใช้การจัดวางกล้องที่แตกต่างจากแบบดั้งเดิม
ตัวอย่างความสำเร็จของเทคโนโลยีใหม่
ตัวอย่างความสำเร็จของเทคโนโลยีนี้เห็นได้จาก Niantic บริษัทพันธมิตรของ Google ที่นำ Gaussian splatting มาใช้ในแอป Scaniverse เพื่อสร้างโมเดล 3 มิติสมจริง และยังพัฒนาแอป WebXR “Into the Scaniverse” สำหรับ Meta Quest ที่ให้ผู้ใช้สามารถก้าวเข้าไปในภาพ 3 มิติและเดินสำรวจได้
การพัฒนาของ Apple
นอกจากนี้ Apple อาจพัฒนาเทคโนโลยีที่คล้ายกับฟีเจอร์ใน visionOS 2 ที่ใช้ machine learning ขั้นสูงในการแปลงภาพ 2 มิติให้เป็นภาพ spatial ที่มีชีวิตชีวาบน Vision Pro
มุมมองต่อการเปลี่ยนแปลงและความคาดหวัง
หากข่าวลือเรื่องการปรับดีไซน์กล้องเป็นความจริง Apple อาจต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาความสามารถของ Spatial Video ไว้ โดยเฉพาะใน iPhone 17 Pro และรุ่นอื่นๆ ในตระกูล มีความเป็นไปได้ว่า iPhone 17 Air ที่มาแทนที่รุ่น Plus อาจมีเพียงกล้องเดียว ซึ่งอาจไม่รองรับการถ่าย Spatial Video
อย่างไรก็ตาม ด้วยประวัติการพัฒนานวัตกรรมของ Apple เชื่อว่าบริษัทคงไม่ยอมสูญเสียฟีเจอร์สำคัญที่ได้ทุ่มเททั้งการวิจัย พัฒนา และการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเราจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับการออกแบบกล้องและความสามารถในการถ่าย Spatial Video ของ iPhone 17 ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
อ้างอิง | Macrumors.com
